แคลิฟอร์เนีย 9 พ.ย. – อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีชาวอเมริกันและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ ของเทสลา ได้ขายหุ้นเทสลา 19.5 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่า 3,950 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 145,500 ล้านบาท) หลังจากเขาปิดดีลซื้อกิจการทวิตเตอร์เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน ด้วยวงเงิน 44,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.62 ล้านล้านบาท)
ข้อมูลจากเอกสารที่ยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐระบุว่า มัสก์ได้เทขายหุ้นเทสลา 19.5 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่า 3,950 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้เขาขายหุ้นเทสลารวมคิดเป็นเงินเกือบ 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 736,900 ล้านบาท) นับตั้งแต่ที่เริ่มตัดสินใจว่าจะซื้อกิจการของทวิตเตอร์ในเดือนเมษายน ขณะนี้ มัสก์ ซึ่งเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ยังคงมีหุ้นในเทสลาอยู่อีกราว 135 ล้านหุ้น ก่อนหน้านี้ มัสก์เคยระบุในเดือนสิงหาคมก่อนที่ศาลจะมีคำสั่งให้มัสก์เร่งปิดดีลซื้อกิจการของทวิตเตอร์ว่า เขาไม่อยากขายหุ้นเทสลาอีกแล้ว
ข่าวการขายหุ้นเทสลาของมัสก์มีขึ้นเพียงไม่กี่สัปดาห์หลังจากเทสลารายงานผลประกอบการในไตรมาส 3 ของปีนี้ว่ามีกำไร 3,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 121,600 ล้านบาท) และมีรายได้ทั้งหมด 21,450 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 790,300 ล้านบาท) ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก หรือวอลล์สตรีท คาดการณ์ไว้ร้อยละ 4 ขณะที่เทสลามีมูลค่าบริษัทลดลงร้อยละ 46 ในปีนี้ ส่วนมัสก์ยังคงมีรายได้สุทธิต่ำกว่า 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 7.36 ล้านล้านบาท) ก่อนหน้านี้ มัสก์เคยยอมรับว่า เขาทุ่มเงินกับทวิตเตอร์มากเกินไปอย่างเห็นได้ชัด.-สำนักข่าวไทย