กรุงเทพฯ 7 พ.ย. – กระทรวงคมนาคม หารือคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติ สาธารณรัฐประชาชนจีน (NDRC) ประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟ ระหว่างไทย-จีน ครั้งที่ 30 เพื่อเชื่อมโยงการคมนาคมระหว่างภูมิภาคอย่างไร้รอยต่อ
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมแห่งราชอาณาจักรไทย และนายหลิน เนี่ยนซิว รองประธานคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติสาธารณรัฐประชาชนจีน (NDRC) เป็นประธานร่วมการประชุมคณะกรรมการร่วม เพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ครั้งที่ 30 โดยมีผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงคมนาคม กรมการขนส่งทางราง กรมทางหลวง สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร การรถไฟแห่งประเทศไทย กระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เข้าร่วม
นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการร่วม เพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ครั้งที่ 30 ถือเป็นก้าวที่สำคัญต่อการเพิ่มขีดความสามารถและศักยภาพระบบโลจิสติกส์ในอนุภูมิภาคลุ่มน้าโขงในอนาคต ซึ่งมีข้อสรุปสาคัญจากการประชุมดังนี้
1.ฝ่ายไทยได้นำเสนอความก้าวหน้างานโยธาโครงการฯ ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพมหานคร-นครราชสีมา โดยฝ่ายจีนได้รับทราบว่างานโยธาส่วนใหญ่ได้เริ่มดำเนินการแล้ว โดยทั้งสองฝ่ายจะใช้ความพยายามอย่างสูงสุดเพื่อให้สามารถดำเนินการก่อสร้างได้ตามแผนงาน
2.ทั้งสองฝ่ายได้เห็นชอบที่จะดำเนินความร่วมมือโครงการฯ ระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย ภายใต้กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องของไทย โดยฝ่ายไทยได้นำเสนอความก้าวหน้าและแผนการดำเนินการโครงการฯ ระยะที่ 2 (นครราชสีมา-หนองคาย) ซึ่งปัจจุบันได้ดำเนินการออกแบบรายละเอียดงานโยธาแล้วเสร็จ
3.ทั้งสองฝ่ายยังได้หารือเกี่ยวกับการเชื่อมโยงเส้นทางรถไฟระหว่างหนองคาย-เวียงจันทน์ และเห็นชอบว่าควรให้มีการประชุมไตรภาคีระหว่างไทย ลาว และจีน ในทุกระดับ โดยคำนึงถึงกาหนดการที่มีความเหมาะสมสำหรับทั้งสามฝ่ายเป็นสำคัญ เพื่อหารือเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการลดอุปสรรคและค่าใช้จ่าย ในการดำเนินการ การอำนวยความสะดวกด้านโลจิสติกส์ และการขนส่งระหว่างสามประเทศอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
4.ทั้งสองฝ่ายหารือเกี่ยวกับแผนการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงใหม่ ฝ่ายไทยแจ้งว่าอยู่ระหว่างศึกษาความเหมาะสมของการสร้างสะพานรถไฟและรถยนต์แห่งใหม่ ภายหลังจากศึกษาความเหมาะสมแล้วเสร็จ ฝ่ายไทยจะเริ่มออกแบบรายละเอียดต่อไป โดยฝ่ายจีนจะมีส่วนร่วมในการประสานงานและสนับสนุนผลักดันโครงการให้มีความก้าวหน้า และทั้งสองฝ่ายเห็นควรให้มีการเชื่อมต่อทางรถไฟเส้นทางสิงคโปร์-คุนหมิง โดยเร็ว โดยเฉพาะการเชื่อมต่อโครงข่ายระหว่างไทย-ลาว-จีน
5.ทั้งสองฝ่ายเน้นย้ำถึงความสำคัญของการอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าที่ด่านตรวจชายแดน และเสนอให้มีความพยายามดำเนินการให้มีการขนส่งสินค้าได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น โดยเฉพาะสินค้า ประเภทเน่าเสียง่าย
ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายได้เห็นชอบกำหนดให้มีการประชุมคณะกรรมการร่วมครั้งที่ 31 ภายหลังการประชุมไตรภาคีระหว่างไทย ลาว และจีน เกี่ยวกับโครงการรถไฟเชื่อมต่อระหว่างหนองคาย-เวียงจันทน์ต่อไป เพื่อให้เกิดพัฒนาความเชื่อมโยงระบบรางระหว่างภูมิภาคอย่างเป็นรูปธรรม อันจะนำมาสู่ประโยชน์ในการขยายตัวทางเศรษฐกิจของภูมิภาคอย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน.-สำนักข่าวไทย