บุกค้นสถานบันเทิง 42 จุด ใน 7 จังหวัด

กรุงเทพฯ 1 พ.ย. – “พล.ต.อ.ต่อศักดิ์-พล.ต.อ.สุรเชษฐ์” รอง ผบ.ตร. แถลงผลตรวจค้นสถานบริการพื้นที่เป้าหมาย 42 จุด 7 จังหวัดทั่วประทศ เชื่อมโยงผับเถื่อน ขายยา มีคนไทยเป็นนอมินี


จากกรณีเจ้าหน้าที่ตรวจพบความผิดที่เกี่ยวข้องกับสถานบริการ ทั้งเหตุนักท่องเที่ยวจีนเสียชีวิตหลังเที่ยวสถานบริการ ท็อปวันในพื้นที่ สน.สุทธิสาร การตรวจค้นสถานบันเทิงคลับวันในพื้นที่พัทยา พบยาเสพติดจำนวนมาก ล่าสุดมีการตรวจค้นร้านจินหลิงในพื้นที่ สน.ยานนาวา พบนักท่องเที่ยวมั่วสุมเสพยาเสพติดกว่า 104 ราย ทั้ง 3 กรณีเป็นสถานบริการที่มีความเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และเจ้าของสถานบริการเป็นนายทุนชาวจีน โดยใช้ชื่อคนไทยเป็นนอมินี

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งการให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. (ปป.), พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. (สส.) ร่วมกันวางแผนตรวจสอบสถานบริการที่มีเจ้าของเป็นนักลงทุนชาวจีนและมีคนไทยเป็นนอมินี จึงสนธิกำลังตรวจค้นสถานบริการ 7 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ เมื่อคืนที่ผ่านมา


ล่าสุด พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ แถลงผลการปฏิบัติตรวจค้นสถานบริการ 7 จุดในพื้นที่กรุงเทพฯ เบื้องต้นมีการตรวจหาสารเสพติดจากผู้มาใช้บริการสถานที่ดังกล่าวรวมกว่า 329 ราย พบผู้มีสารเสพติดในร่างกาย 1 ราย เป็นนักท่องเที่ยวจากร้านฮอลลีวูด นอกจากนี้ ยังมีการตรวจค้นต่อเนื่อง โดยใช้กำลังกว่า 700 นาย กระจายกำลังตรวจค้นตามสถานที่เป้าหมาย เช่น อาคาร ที่พัก เพื่อหาพยานหลักฐานเกี่ยวข้องกับยาเสพติด อาวุธปืน และบ่อนการพนัน เพื่อนำมาประกอบการดำเนินคดีการจับกุมร้านจินหลิง เบบี้เฟซ และคลับวัน พัทยา โดยขออนุมัติหมายจากศาลเข้าค้นทั้งหมด 35 จุด ใน 7 จังหวัด

โดยจุดที่น่าสนใจ คือ บริเวณบ้านของนายเดวิด ผู้บริหารเบบี้เฟซ ในซอยสุขุมวิท 63 สามารถตรวจยึดรถหรูป้ายแดง หลายคัน เช่น ปอร์เช่ เฟอรรารี่ พบพิรุธข้อสงสัยเกี่ยวกับเอกสารการครอบครองรถดังกล่าว มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท ซึ่งจะต้องทำการตรวจสอบต่อไป นอกจากนี้ ยังสามารถตรวจยึดเอกสารสำคัญและโทรศัพท์มือถืออีกหลายรายการ ซึ่งจะมีการตรวจสอบอย่างละเอียด เพื่อนำมาประกอบสำนวนดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องและสถานบันเทิงผิดกฎหมาย รวมถึงขยายผลดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มธุรกิจเหล่านี้

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า การตรวจค้นบ้านของนายเดวิด ซึ่งเข้ามาอยู่เมืองไทยประมาณ 10 ปี ตำรวจยึดรถยนต์หรูและอาวุธปืน รวมทั้งสุรา บุหรี่ และเอกสารต่าง ๆ ไว้ตรวจสอบ นอกจากนี้ ยังพบว่าห้องพักมีร่องรอยการใช้ยาเสพติด ข้อมูลแต่งงานมีภรรยาเป็นคนไทย ลูกเรียนโรงเรียนแห่งหนึ่งในประเทศไทย และนายเดวิด ยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับการพนันออนไลน์ สถานบริการที่ผิดกฎหมาย และประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติดอีกด้วย


เบื้องต้นนายเดวิด ถูกตั้งข้อหาช่วยซ่อนเร้นช่วยกันจำหน่ายฯ ตาม ม.242 และความผิดตามความผิดกฎหมายศุลกากร และความผิดเกี่ยวกับพระราชบัญญัติสรรพสามิต กรณียึดของผิดกฎหมาย ประกอบด้วย รถยนต์และสุราผิดกฎหมาย

ส่วนข้อมูลการซื้อรถยนต์ของนายเดวิด พบว่านำเงินสดจำนวนหนึ่งไปฝากให้เพื่อนคนไทยซื้อ ซึ่งประเด็นเหล่านี้ตำรวจอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานว่าเข้าข่ายความผิดการกระทำลักษณะของกฎหมายฟอกเงิน หรือไม่ และนายเดวิด มีความเชื่อมโยงกับนายทุนจีนทำธุรกิจสถานประกอบการในพื้นที่ชลบุรี แต่ในส่วนของสถานประกอบการจินหลิง ตำรวจมีข้อมูลแล้วว่าผู้ใดเป็นเจ้าของ ซึ่งนายเดวิด ไม่ใช่เจ้าของจินหลิง

ส่วนกรณีคลับวัน พัทยา ตำรวจพัทยาขอหมายจับนายนิติพัฒน์ หรือโกเอี่ยว ที่อ้างว่าตำรวจรับส่วย โดยจับนายนิติพัฒน์ ได้แล้ว และให้ตำรวจพัทยาขยายผล เบื้องต้นพบว่ามีพฤติกรรมเป็นนอมินีทำธุรกิจแทน โดยตำรวจอยู่ระหว่างการขยายผลว่ามีการออกเอกสารจากกรมการปกครองถูกต้องหรือไม่ และตำรวจจับเจ้าของ คือ นายหยู่ ฉาง เฟย ขณะเตรียมหลบหนีผ่านด่านไปยังประเทศลาว ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จังหวัดมุกดาหาร ควบคุมตัวไว้สอบสวนขยายผลแล้วซึ่งเบื้องต้น ต้องตรวจสอบว่าตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเชียงใหม่มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงหรือไม่ เนื่องจากพบว่าผู้ต้องหาขออนุญาตอยู่ในประเทศไทยในฐานะนักเรียน หากพบว่าตำรวจตรวจคนเข้าเมืองมีส่วนรู้เห็น หรือเอื้อผลประโยชน์ส่วนนี้จะต้องมีการดำเนินการต่อไป

ส่วนความคืบหน้าการสอบสวนดำเนินคดีร้านจินหลิง ท้องที่ สน.ยานนาวา ได้ดำเนินคดีกับนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ตรวจพบสารเสพติดกว่า 104 ราย ดำเนินคดีกับผู้ดูแลร้านคนไทย อีก 1 ราย และมีการสืบทราบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐช่วยเหลือเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ต้องหาบางคน โดยการเรียกรับผลประโยชน์ เพื่อเร่งให้มีการส่งตัวผัดฟ้องต่อศาลและได้รับการประกันตัวในชั้นศาลและประสานให้มีการปล่อยรถยนต์ของกลางที่ยึดไว้ตรวจสอบคืนให้กับผู้ต้องหา จึงได้มีการดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐ รวม 3 นาย คือ พ.ต.ท.คมไพร ทองลาด รองผู้กำกับการจราจร สน. ลาดพร้าว ในความผิดฐานขอให้ หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่เจ้าพนักงานในตำแหน่งตุลาการพนักงานอัยการผู้ว่าคดีหรือพนักงานสอบสวน เพื่อจูงใจให้กระทำการไม่กระทำการหรือประวิงการกระทำใดอันมิชอบด้วยหน้าที่, พ.ต.ต.เกียรติศักดิ์ พิมมา พนักงานสอบสวน (สบ2) สน. ยานนาวา และ ร.ต.อ.สมยศ บุญณะแก้ว (สบ 1) พนักงานสอบสวนสน. ยานนาวา ข้อหาเรียกรับหรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบเพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการใดในตำแหน่งไม่ว่ากันนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดฯ ซึ่งจะมีการสอบสวนขยายผลเพิ่มเติมถึงผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าว โดยจะนำตัวมาดำเนินคดีทุกราย

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมานำหมายศาลเข้าตรวจค้นที่พักของนักการเมืองไทยที่เป็นอดีตรัฐมนตรีคนหนึ่ง แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย ซึ่งยืนยันว่าตำรวจจะให้ความเป็นธรรมทุกกรณีที่มีการพาดพิงถึง

ขณะเดียวกันวันนี้นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เข้าร่วมสังเกตการณ์การแถลงข่าว ขอบคุณ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ รับฟังข้อมูลจนนำไปสู่การจับกุมผู้กระทำผิดอย่างรวดเร็ว พร้อมบอกว่าไม่กลัวตาย แถมยังเปรียบตัวเองเป็นองคุลีมาน พร้อมเผยขณะนี้ไทยมีกลุ่มทุนจีนใหญ่ 5 กลุ่ม หรือ 5 เสือจีนเทา คือ กลุ่มของนายเดวิด, นายฉางเฟย, นายโทนี่, นายเอี่ยว และชายชาวจีน ซึ่งถูกรวบตัวแล้ว 4 คน เหลืออีก 1 คน โดยกลุ่ม 5 เสือจีนเทา ถือเป็นกลุ่มทุนเงินหนา มีการทำธุรกิจสีเทาในไทยโดยใช้นอมินีสวมสัญชาติไทยของคนตาย ธุรกิจส่วนใหญ่เป็นแบบศูนย์เหรียญใช้ทรัพยากรคนจีน ซ่องสุมการกระทำความผิดในไทย ซึ่งคนไทยก็เสียประโยชน์ สิ่งที่ต้องดำเนินการต่อ คือ ตรวจเส้นทางการเงิน ย้ำการปราบปรามทุนจีนสีเทา ถือเป็นเรื่องต้องจัดการมานานแล้ว เพื่อไม่ให้ประเทศไทยเสียประโยชน์ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง