โซล 30 ต.ค.- ผู้อยู่ในเหตุการณ์และเจ้าหน้าที่เกาหลีใต้ระบุว่า การที่มีคนหนาแน่นขึ้นอย่างกะทันหันในตรอกแคบเพียง 4 เมตร ย่านอีแทวอน แหล่งสถานบันเทิงยามค่ำคืนของกรุงโซล เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการเบียดและเหยียบกันตายครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ประเทศ
ย่านอีแทวอนขึ้นชื่อเรื่องผับบาร์ร้านอาหารทันสมัย เป็นแหล่งชุมนุมของชุมชนชาวต่างชาติใจกลางกรุงโซล และเป็นที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่สุดสำหรับผู้ต้องการฉลองเทศกาลฮาโลวีนในปีนี้ ตรอกที่เกิดเหตุเป็นทางลาดยาว 40 เมตร เชื่อมย่านร้านอาหารพลุกพล่านกับถนนใหญ่ มีกว้างเพียง 4 เมตร หรือเท่ากับผู้ใหญ่ยืนเรียงหน้ากระดาน 6 คน ผู้คนแห่เข้าไปในตรอกนี้เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา เพื่อฉลองเทศกาลฮาโลวีนที่จัดขึ้นแบบไร้หน้ากากอนามัยเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ระบาดเมื่อต้นปี 2563 และเกาหลีใต้เพิ่งยกเลิกการสวมหน้ากากอนามัยในที่แจ้งทั้งหมดทั่วประเทศเมื่อเดือนกันยายน
เหตุเบียดและเหยียบกันตายเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน เมื่อมีคนล้มท่ามกลางฝูงชนที่แออัด จากนั้นก็มีคนล้มตาม ๆ กันจนคนที่อยู่บริเวณนั้นไม่สามารถขยับตัวได้และเริ่มหายใจไม่ออก ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยและตำรวจต้องฝ่าฝูงชนเป็นระยะทาง 100 เมตร กว่าจะถึงจุดเกิดเหตุและเข้าไปช่วยผู้ประสบเหตุ มีคนที่ต้องได้รับการปั๊มหัวใจช่วยชีวิตหรือซีพีอาร์ (CPR) และการปฐมพยาบาลเบื้องต้นอื่น ๆ มากถึง 300 คน ทำให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยมีงานล้นมือ ประกอบกับผู้คนในบริเวณนั้นแห่กลับบ้านจนการจราจรติดขัด เป็นอุปสรรคต่อการช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ
เว็บไซต์สำนักข่าวยอนฮับรายงานว่า มีข่าวลือว่าคนแห่เข้าไปในตรอกดังกล่าวอย่างกะทันหันเพื่อไปดูคนดังคนหนึ่งที่เข้าไปเที่ยวตรอกนั้น ผู้อยู่ในเหตุการณ์บางคนบอกว่า มีคนตะโกนให้คนที่แห่เข้ามาถอยออกไป แต่มีคนเข้าใจผิดว่าให้ดันกันเข้ามา จนเกิดการผลักกันไปข้างหน้าและมีคนล้มลง ผู้รอดชีวิตหลายคนบอกว่า ไม่มีทางหนีเลยเพราะสองข้างทางเป็นกำแพงของโรงแรมที่อยู่ในบริเวณนั้น และถูกผลักให้เดินหน้าถอยหลังไปตามแรงของคนรอบข้าง โดยไม่สามารถขยับตัวได้เอง.-สำนักข่าวไทย