กรุงเทพฯ 27 ต.ค. – กรมส่งเสริมการเกษตร เตรียมสนับสนุนท่อนพันธุ์มันสำปะหลังช่วยเกษตรกร ลดผลกระทบโรคใบด่าง ทั้งซ้ำเติมด้วยอุทกภัย
นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตรกล่าวว่า สั่งการให้ศูนย์ขยายพันธุ์พืชที่ 5 จังหวัดบุรีรัมย์ ศูนย์ขยายพันธุ์พืชที่ 6 จังหวัดพิษณุโลก ศูนย์ขยายพันธุ์พืชที่ 7 จังหวัดมหาสารคาม และศูนย์ขยายพันธุ์พืชที่ 10 จังหวัดอุดรธานีเร่งดำเนินการผลิตท่อนพันธุ์เพื่อสนับสนุนเกษตรกรในพื้นที่ประสบอุทกภัย จากการลงพื้นที่สำรวจและช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย พบว่า มีพื้นที่เพาะปลูกมันสำปะหลังได้รับความเสียหายประมาณ 1.23 ล้านไร่ จากพื้นที่เพาะปลูกทั้งประเทศกว่า 9.32 ล้านไร่
นอกจากนี้ผู้แทนสมาคมมันสำปะหลัง 4 สมาคม ได้แก่ สมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย สมาคมโรงงานผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไทย สมาคมแป้งมันสำปะหลังไทย และสมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้เข้าพบเพื่อหารือถึงผลกระทบและเสนอความต้องการของเกษตรกรจากกรณีของโรคใบด่างมันสำปะหลัง รวมถึงเสนอขอสนับสนุนการดำเนินการในเรื่องต่างๆ ดังนี้
- 1) การสำรวจพื้นที่ระบาด
- 2) การสนับสนุนต้นพันธุ์มันสำปะหลังสะอาดและทนทานโรคใบด่างจากพื้นที่สีเขียวแจกจ่ายพื้นที่สีแดง
- 3) การผลิตต้นพันธุ์มันสำปะหลังสะอาดต่อเนื่องในพื้นที่สีเขียว
- 4) การวิจัยทดสอบพันธุ์ทนทานและผลผลิตอย่างต่อเนื่อง
- 5) การวิจัยทดสอบการเขตกรรม เช่น การใช้สารเพิ่มความสมบูรณ์และการเจริญเติบโต
ทั้งนี้กรมส่งเสริมการเกษตรได้เร่งดำเนินการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบผ่านคณะอนุกรรมการบริหารจัดการโรคใบด่างมันสำปะหลังแล้ว
สำหรับการสำรวจพื้นที่การเกษตรที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยล่าสุด พบว่า มีพื้นที่การเกษตรที่คาดว่า จะได้รับผลกระทบจากอุทกภัยรวม 58 จังหวัด พื้นที่รวม 4,897,404.25 ไร่ แบ่งเป็น ข้าว 3,292,787.00 ไร่ พืชไร่และพืชผัก 1,551,220.00 ไร่ ไม้ผลไม้ยืนต้นและอื่นๆ 53,397.25 ไร่ เกษตรกรได้รับผลกระทบรวม 580,787 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 26 ตุลาคม 2565) ทั้งนี้ มีการประกาศเขตให้ความช่วยเหลือแล้ว 52 จังหวัด
ส่วนเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติด้านพืช ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2562 หลักเกณฑ์การใช้จ่ายเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2563 และหลักเกณฑ์วิธีปฏิบัติปลีกย่อยเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตรผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2564 ทั้งนี้ เกษตรกรต้องขึ้นทะเบียนเกษตรกร และปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรกับกรมส่งเสริมการเกษตรก่อนเกิดภัย มีพื้นที่เสียหายจริง อยู่ในพื้นที่ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือฯ และช่วยเหลือไม่เกินครัวเรือนละ 30 ไร่ โดยมีอัตราการให้ความช่วยเหลือ จำแนกเป็น ข้าว 1,340 บาทต่อไร่ พืชไร่และพืชผัก 1,980 บาทต่อไร่ และไม้ผลไม้ยืนต้นและอื่นๆ 4,048 บาทต่อไร่ ซึ่งกรมส่งเสริมการเกษตร อยู่ระหว่างดำเนินการสนับสนุนชีวภัณฑ์ ท่อนพันธุ์ และช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติด้านพืช ตามระเบียบกระทรวงการคลังโดยเร่งด่วน .-สำนักข่าวไทย