เร่งขยายท่อนพันธุ์มันสำปะหลังต้านโรคใบด่าง ตัดวงจรเด็ดขาด

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – กรมส่งเสริมการเกษตรเร่งวิจัยขยายท่อนพันธุ์มันสำปะหลังต้านทานโรคใบด่าง โดยมีแผนผลิตต้นกล้าให้ได้ 240,000 ต้น ใน 3 เดือน จากนั้นนำไปปลูกขยายพันธุ์ที่ศูนย์ขยายพันธุ์พืชทั้ง 8 ศูนย์ เพื่อให้ได้ต้นพันธุ์ที่พร้อมเป็นพันธุ์ตั้งต้นสำหรับใช้เพิ่มปริมาณต้นกล้าในปี 2568 และตั้งเป้าหมายให้ได้ 15 ล้านท่อน ในปี 2569 ซึ่งจะครอบคลุมพื้นที่ปลูก 9 ล้านไร่ เพื่อตัดวงจรการระบาดของโรคที่มีมากว่า 6 ปี ให้ได้


นายพีรพันธ์ คอทอง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า กรมส่งเสริมการเกษตรร่วมกับหน่วยงานภาคีในการขับเคลื่อนแก้ไขผลกระทบของเกษตรกรจากโรคใบด่างมันสำปะหลัง ด้วยการให้ความรู้แก่เกษตรกรและแนะนำวิธีการป้องกันกำจัดตามมาตรการป้องกัน กำจัด โรคใบด่างมันสำปะหลังมาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งได้สนับสนุนท่อนพันธุ์มันสำปะหลังทนทานต่อโรคใบด่างได้แก่ เกษตรศาสตร์ 50 ห้วยบง 60 และระยอง 72 เพื่อลดความรุนแรงของโรคและผลกระทบต่อปริมาณของผลผลิตอันเป็นเหตุให้เกษตรกรได้รับผลตอบแทนน้อยลงจากเดิม

ล่าสุดกรมส่งเสริมการเกษตรประสานงานและได้รับความร่วมมือจากมูลนิธิสถาบันพัฒนามันสำปะหลังแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (TTDI) สนับสนุนท่อนพันธุ์มันสำปะหลังต้านทานโรคใบด่างได้แก่ พันธุ์อิทธิ 1 อิทธิ 2 และอิทธิ 3 รวม 15,000 ลำ ซึ่งกำลังเร่งเดินหน้าผลิตขยายเป็นต้นกล้ามันสำปะหลังสะอาดพันธุ์ต้านทานโรคใบด่างให้ได้ 240,000 ต้น ภายในระยะเวลา 3 เดือน จากนั้นจะนำต้นกล้าไปปลูกเพื่อขยายพันธุ์ในพื้นที่ของศูนย์ขยายพันธุ์พืชทั้ง 8 ศูนย์ของกรมส่งเสริมการเกษตรเป็นเวลา 10 เดือน เพื่อให้ได้ต้นพันธุ์ที่พร้อมเป็นพันธุ์ตั้งต้นสำหรับใช้เพิ่มปริมาณต้นกล้าในปี 2568


จากนั้นมีแผนประสานความร่วมมือกับหน่วยงานภาคี โดยเฉพาะหน่วยงานภาคการศึกษาที่มีเครื่องมือและพื้นที่ในการผลิตขยายพันธุ์มันสำปะหลังต้านทานโรคที่มีประสิทธิภาพ โดยจะร่วมกันผลิตท่อนพันธุ์มันสำปะหลังต้านทานโรคใบด่างตามเป้าหมาย 15 ล้านท่อนในปี 2569 เพื่อให้เพียงพอสำหรับสนับสนุนให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังทั่วประเทศครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดกว่า 9 ล้านไร่ เพื่อเป็นการตัดวงจรการระบาดของโรคที่มีมาตั้งแต่ปี 2561 ให้ได้

พร้อมกันนี้ขอเน้นย้ำให้เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังทั่วประเทศใช้ท่อนพันธุ์สะอาด ปลอดโรค และทราบแหล่งที่มาของท่อนพันธุ์ ชัดเจน โดยไม่ควรปลูกพันธุ์อ่อนแอต่อโรคใบด่างมันสำปะหลังได้แก่ ระยอง 11 และ CMR 43-08-89 สำหรับเกษตรกรที่ปลูกพันธุ์อ่อนแอแนะนำให้ปรับเปลี่ยนมาใช้พันธุ์ทนทานต่อโรคใบด่างได้แก่ เกษตรศาสตร์ 50 ห้วยบง 60 และระยอง 72 เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดขของโรคใบด่างมันสำปะหลัง นอกจากนี้ขอให้เตรียมพร้อมเข้าร่วมโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตมันสำปะหลังที่หน่วยงานภาครัฐจะสนับสนุนท่อนพันธุ์มันสำปะหลังต้านทานโรคใบด่าง ตลอดจนสิทธิประโยชน์ในการส่งเสริมและช่วยเหลือเกษตรกรผู้เพาะปลูกมันสำปะหลังที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตรในรอบระยะเวลาที่ร่วมโครงการต่อไป

โรคใบด่างมันสำปะหลัง (Cassava Mosaic Disease: CMD) พบการระบาดครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เมื่อปี 2559 ที่ประเทศเวียดนามและประเทศกัมพูชา เกิดจากเชื้อไวรัสสายพันธุ์ Sri Lankan cassava mosaic virus (SLCMV) สำหรับประเทศไทยพบในปี 2561 โดยกรมวิชาการเกษตรรายงานพบโรคใบด่างมันสำปะหลังระบาดที่จังหวัดปราจีนบุรี สุรินทร์ และจังหวัดศรีสะเกษ ต่อมาปี 2562 พบต้นมันสำปะหลังแสดงอาการใบด่างที่จังหวัดสระแก้ว แล้วระบาดต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน


พาหะของโรคคือ แมลงหวี่ขาวยาสูบ (Bemisia tabaci) ที่ติดมากับท่อนพันธุ์ ลักษณะอาการ พืชที่เป็นโรคจะแสดงอาการใบด่าง เหลือง ใบลดรูป และเสียรูปทรง ลำต้นแคระแกร็น ไม่มีการเจริญเติบโต หรือมีการเจริญเติบโตน้อย หากระบาดรุนแรงอาจทำให้ผลผลิตลดลงร้อยละ 80 – 100

หากพบต้นมันสำปะหลังเป็นโรคใบด่างต้องถอนทำลาย จากนั้นฝังกลบในหลุมลึกไม่น้อยกว่า 2 – 3 เมตร ราดยสารกำจัดวัชพืช อะมีทรีน 80% WG หลังทำลายต้นมันสำปะหลังที่พบโรคใบด่างมันสำปะหลังในแปลงต้องให้หยุดปลูกมันสำปะหลังอย่างน้อย 2 เดือน หรือปลูกพืชอื่นเช่น ข้าวโพด ถั่วเขียว ก่อนการปลูกมันสำปะหลังครั้งต่อไป ไม่ควรปลูกสบู่ดำ ละหุ่ง และหม่อนซึ่งเป็นพืชอาศัยของเชื้อโรคใบด่างมันส าปะหลัง ตลอดจนต้องใช้ท่อนพันธุ์มันสำปะหลังปลอดโรค โดยงดใช้ท่อนพันธุ์ที่มาจากแหล่งปลูกที่มีประวัติพบการระบาดของโรค และท่อนพันธุ์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ

ทั้งนี้ หากเกษตรกรต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม สามารถติดต่อสอบถามได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอใกล้บ้าน. -512 – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

แม่คะนิ้งโผล่ภูกระดึง เตรียมเปิดอุทยานฯ พรุ่งนี้

จังหวัดเลย อุณหภูมิลดลง 1-2 องศาฯ “แม่คะนิ้ง” โผล่ภูกระดึง เตรียมเปิดให้ท่องเที่ยวพรุ่งนี้ (23 ธ.ค.) หลังปิดมา 9 วัน จากเหตุช้างป่า

อุตุฯ เผยไทยตอนบน อุณหภูมิขยับลงอีก 1-2 องศาฯ

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศหนาวเย็นกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลงอีก 1 – 2 องศาฯ ยอดดอยและยอดภูหนาวจัด มีน้ำค้างแข็งบางแห่ง

ยิงพรานล่าหมูป่า

เพื่อนรับเป็นคนยิงนายพรานวัย 52 อ้างคิดว่าเป็นหมูป่า

เพื่อนเปิดปากรับสารภาพเป็นคนใช้อาวุธปืนยิงนายพรานวัย 52 ปี เสียชีวิตในสวนผลไม้ อ้างคิดว่าเป็นหมูป่า ยืนยันไม่ได้มีปัญหาหรือมีเรื่องกันมาก่อน