กรุงเทพฯ 20 ต.ค.- ประธานอำนวยการศูนย์ประสานงานส่งเสริมเครือข่าย-ออนไลน์ (ศคอ.) พร้อมตัวแทนผู้เสียหาย ร้องตำรวจ ปคบ.ตรวจสอบบริษัทดังทำธุรกิจขายตรง มีพฤติการณ์อาจเข้าข่ายหลอกลวงผู้บริโภค
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 20 ต.ค. ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน กทม. น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ ประธานอำนวยการศูนย์ประสานงานส่งเสริมเครือข่าย-ออนไลน์ (ศคอ.) พร้อมตัวแทนผู้เสียหายและผู้บริโภค เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อ พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ. โดยมี พ.ต.ท.ณัฐพนธ์ สุวรรณรงค์ รอง ผกก.2 บก.ปคบ.เป็นผู้รับแทน
น.ส.กฤษอนงค์ เปิดเผยว่า วันนี้เดินทางมายื่นเรื่องเพื่อขอให้ตรวจสอบบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งได้ดำเนินธุรกิจขายสินค้าตลาดแบบตรงตามที่ได้มีการจดทะเบียนต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เป็นนายหน้าตัวแทนเครื่องสำอาง และอุปกรณ์ความงาม จำหน่ายเครื่องมือ เครื่องใช้เสริมความงาม การขายส่งสิ่งทอเสื้อผ้า รองเท้า เครื่องหนัง และของใช้ในครัวเรือน ซึ่งอาจเข้าข่ายความผิดตามพระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง มีพฤติการณ์เข้าข่ายการชักชวนและหลอกลวงผู้บริโภค
บริษัทดังกล่าว 1.ดำเนินธุรกิจขายสินค้าตลาดแบบตรง มีการชักชวนให้ระดมทุนเปิดคลังสินค้าในจำนวนเงินสูงถึง 500,000 บาทขึ้นไป อีกทั้งผิดสัญญาไม่จ่ายสินค้าเป็นไปตามที่ผู้เสียหายจ่ายเงินไปอีกด้วย 2.การโฆษณาและขายสินค้าของบริษัทดังกล่าวต่อประชาชน โดยเฉพาะการจัดโปรโมชั่นลดแลกแจกแถมสินค้า ที่ได้มาจากการหลอกลวงโรงงานให้ผลิตสินค้าให้เป็นจำนวนมาก ซึ่งทำให้การลดแลกแจกแถมมียอดสูงจนเกินปกติวิสัย สร้างความสับสนให้ผู้บริโภคได้รับข้อมูลที่คลาดเคลื่อน การกระทำดังกล่าวเป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่
ขณะที่นายธีระเศรษฐ์ นักลงทุน หนึ่งในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนเสียหาย 14 ล้านบาท ซึ่งพฤติกรรมของแม่ค้าออนไลน์บริษัทดังกล่าว ได้เข้ามาขอเงินลงทุน ซึ่งตนเห็นว่าเป็นแม่ค้าออนไลน์ที่มีชื่อเสียง มีผู้ติดตามจำนวนมาก จึงเชื่อใจ โดยแรกๆ ก็ได้เงินตามปกติ แต่มาระยะหลังเริ่มไม่ได้เงิน ตนก็ได้พูดคุยสอบถามไปว่าเพราะสาเหตุอะไร ซึ่งเขาก็อ้างว่าธุรกิจของเขามีปัญหา พร้อมทั้งยังได้มีการพูดด้วยว่า ให้ไปแจ้งความได้เลย และทางเขาก็จะแจ้งความกลับ ดังนั้น เราจึงคิดว่าไม่น่าจะใช่แล้ว เราโดนฉ้อโกงแล้ว ซึ่งทุกวันนี้ก็ยังเห็นเขาออกมาไลฟ์ขายของตรมปกติอยูาทุกวัน จึงตัดสินใจมาร้องเรียนในเรื่องนี้ เนื่องจากเราเกิดปัญหาไม่ได้เงินลงทุนคืน รวมถึงอยากให้เขาออกมารับผิดชอบในเรื่องนี้ด้วย
ผู้เสียหายอีก 2 ราย ซื้อหน้ากากอนามัยจากเพจที่บริษัทดังกล่าวขายของ โดยมีแม่ค้าออนไลน์ชื่อดังเป็นคนไลฟ์ขายทุกวัน เมื่อปี 63 เป็นเงินกว่า 60,000 บาท ครั้งแรกได้สินค้า ต่อมาสั่งอีกกลับได้ เคยแจ้งความ ปคบ.ไว้แล้ว วันนี้มาติดตามเพราะคดีไม่มีความคืบหน้า
ทั้งนี้ กลุ่มผู้เสียหายได้นำเอกสารหลักฐานที่ได้รวบรวมจากผู้เสียหาย และประชาชนผู้ส่งข้อมูล เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม และเป็นการสร้างมาตรฐานการซื้อขายออนไลน์ ส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดี รวมถึงการเผยแพร่ข่าวสารแจ้งเตือนไม่ให้ประชาชนต้องตกเป็นเหยื่อ เพื่อการป้องกันภัยก่อนการเสียหายเป็นวงกว้างต่อไปด้วย
เบื้องต้น พ.ต.ท.ณัฐพนธ์ รับหนังสือร้องเรียนไว้เสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการตามกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย