กรุงเทพฯ 19 พ.ค. – ผู้เสียหายกว่า 20 คน เข้าร้องเรียนตำรวจ ปคบ. ระบุซื้อทัวร์เที่ยวยุโรปแล้วไม่ได้ไป มูลค่าเสียหายกว่ารวม 10 ล้านบาท
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 19 พ.ค.66 ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน จตุจักร กทม. น.ส.ต้นน้ำ นำผู้เสียหายกว่า 20 คน เข้าร้องพนักงานสอบสวน บก.ปคบ. กรณีถูกบริษัททัวร์ย่านวังทองหลาง เทลูกทัวร์ ไปเที่ยวออสเตรีย สโลวีเนีย ระหว่างวันที่ 18-27 พ.ค.66 หลังโอนเงินไปครบจำนวนรายละกว่า 200,000 บาท มูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท
น.ส.ต้นน้ำ ตัวแทนผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ผู้เสียหายหลายคนเป็นผู้สูงอายุ ตั้งใจเก็บเงิน และนำเงินที่ได้จากการเกษียณเพื่อเดินทางไปท่องเที่ยว แต่สุดท้ายเมื่อมาเจอเหตุการณ์แบบนี้รู้สึกเสียใจ และต้องการดำเนินคดีกับบริษัททัวร์และเจ้าของบริษัทอย่างถึงที่สุด
น.ส.เอ (นามสมมติ) ผู้เสียหายรายหนึ่ง เปิดเผยว่า ตนตั้งใจซื้อทัวร์ไปท่องเที่ยวที่ออสเตรีย สโลวีเนีย โดยคำแนะนำกับกลุ่มเพื่อนว่าบริษัททัวร์แห่งนี้น่าสนใจ โดยโอนเงินมัดจำเพื่อทำวีซ่า 50,000 บาท หลังจากทำวีซ่าแล้ว โอนเงินเพิ่มอีก ทั้งค่าทัวร์ ค่าตั๋วเครื่องบิน เพิ่มรวมกว่า 200,000 บาท ทุกครั้งโอนเงินเข้าบัญชีของบริษัทดังกล่าว แต่หลังจากนั้นได้รับแจ้งว่าไม่สามารถเดินทางในวันที่ 18 พ.ค.66 ได้ มีความจำเป็นต้องเลื่อนออกไป จึงตัดสินใจรวมกลุ่มก่อนจะมาแจ้งความที่กองบังคับการปราบปราม
น.ส.มุก ผู้เสียหายอีกคน กล่าวว่า ตั้งใจซื้อทัวร์เพื่อไปท่องเที่ยว ตั้งแต่เดือน ต.ค.65 แต่ไม่ได้ไป หลังจากนั้นได้แจ้งเรื่องร้องเรียนไปที่กรมการท่องเที่ยว เพื่อให้ดำเนินการ และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. เพื่อเรียกคู่กรณีมาเจรจาไกล่เกลี่ย โดยทางบริษัทขอผ่อนคืน แต่ชดใช้เพียง 2 เดือน หลังจากนั้นก็ไม่จ่ายและไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊กของบริษัททัวร์ดังกล่าวมีภาพสถานที่ท่องเที่ยวสวยงาม น่าสนใจ บวกกับมีผู้ติดตามเพจเฟซบุ๊กกว่า 10,000 คน สร้างความน่าเชื่อถือให้ผู้เสียหายหลายคนว่าได้ไปท่องเที่ยวจริง แต่สุดท้ายไม่สามารถติดต่อได้ ปัจจุบันยังเปิดทำการอยู่แต่ติดต่อแอดมินไม่ได้ เมื่อผู้เสียหายเดินทางไปติดต่อที่บริษัทดังกล่าวในเขตวังทองหลาง ปรากฏว่า ม่มีคนอยู่ และเจ้าของตึกแจ้งว่าบริษัทดังกล่าวไม่จ่ายค่าเช่ามาหลายเดือนแล้ว เบื้องต้นพนักงานสอบสวนสอบปากคำผู้เสียหาย รวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับบริษัททัวร์แห่งนี้ตามกฎหมายต่อไป. -สำนักข่าวไทย