“สนธิญา” บุกยื่นหนังสือถึง “บิ๊กก้อง” ให้ตรวจสอบพฤติกรรมบริษัทขายตรง

กรุงเทพฯ 14 ต.ค. – “สนธิญา” บุกยื่นหนังสือถึง “บิ๊กก้อง” ให้ตรวจสอบตามกฎหมาย หลังพบกว่า 100 บริษัทมีพฤติกรรมขายตรง พร้อมฝากถึงผู้เสียหายให้รวมกลุ่มกันต่อสู้คดีให้ถึงที่สุด


นายสนธิญา สวัสดี เดินทางมายื่นเรื่องต่อ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อขอให้ตรวจสอบและสอบสวนพฤติกรรมของบริษัทขายตรงในประเทศไทยที่มีมากกว่า 100 แห่ง ทั้งที่เป็นบริษัทจากต่างประเทศและบริษัทภายในประเทศว่า ได้ดำเนินธุรกิจเป็นไปตามกฎหมายหรือไม่ เพราะตนมีข้อมูลว่าหลายบริษัทไม่ต่ำกว่า 35 บริษัท ที่มีลักษณะพฤติกรรมคล้ายคลึงกับ The Icon Group ต้องหาลูกข่ายมาซื้อสินค้าไปขาย คล้ายลูกโซ่ และก่อให้เกิดความเสียหายไม่ต่างกัน ส่วนตัวครอบครัวก็เคยมีประสบการณ์ถูกบริษัทขายตรงเจ้าอื่นๆ หลอก และก่อให้เกิดความเสียหายเป็นหลักแสนเช่นกัน

จึงมองว่าจากกรณีของ The Icon Group เจ้าหน้าที่รัฐควรจะต้องลงมาตรวจสอบอย่างจริงจังกับบริษัทขายตรงทุกบริษัท หากบริษัทไหนที่ทำดีอยู่แล้วตามกฎหมายก็ไม่เป็นไร แต่หากพบมีผู้เสียหายจากบริษัทเหล่านั้นควรจะต้องดำเนินการตรวจสอบว่ามีความผิดหรือไม่


ขอเรียกร้องให้ผู้เสียหายไม่ว่าจะเป็นเคสของ The Icon หรือเคสบริษัทใดก็ตาม เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจทุกสถานีทั่วประเทศ และขอให้สำนักงานตรวจแห่งชาติมีคำสั่งให้สถานีตำรวจทั่วประเทศต้องรับแจ้งความคดีความเสียหายจากบริษัทขายตรงทุกกรณี โดยไม่มีข้อยกเว้น

ทั้งนี้ นายสนธิญาเชื่อว่าภายใน 2 สัปดาห์นี้ คดี The Icon จะเข้าสู่คดีพิเศษของกรมสอบสวนคดีพิเศษอย่างแน่นอน เพราะมูลค่าความเสียหายเชื่อว่าน่าจะเข้าหลักเกณฑ์ที่เป็นคดีพิเศษได้ ย้ำว่าผู้เสียหายจาก The Icon Group ทุกคนต้องรวมกลุ่มกันเอาไว้ และต้องต่อสู้ให้คดีถึงที่สุด

ขณะเดียวกันผู้บริหารของ The Icon Group ควรจะต้องมีสำนึกในการจ่ายเงินเยียวยาให้ผู้เสียหายในระหว่างการต่อสู้คดี เพราะผู้เสียหายหลายรายแทบสิ้นเนื้อประดาตัวและต้องใช้ระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 5 ปีกว่าจะครบ 3 ศาล ถึงจะสามารถได้รับเงินชดเชยคืน แต่ขอเน้นย้ำว่าผู้เสียหายต้องไม่เซ็นรับเงื่อนไขยอมความใดๆ ทั้งสิ้น.-420-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“โรม” ตั้งกระทู้ถามปมคุณสมบัติ ปธ.กสทช.

“โรม” ตั้งกระทู้ถาม ปม คุณสมบัติ ปธ.กสทช. ปูดคนรัฐบาลมีความสัมพันธ์กับ กสทช. เรื่องจึงไม่ขยับ ด้าน “ประเสริฐ” ปัดดองเรื่อง ขณะนี้ยื่นศาลรธน.ตีความแล้ว รอคำวินิจฉัย ยืนยันรัฐบาลแยกแยะเรื่องส่วนตัวจากการทำงาน ยึดประโยชน์ประชาชน

“อนุทิน” สั่งยกระดับเข้มงวดเข้าออกจุดผ่านแดนไทย

“อนุทิน” สั่งยกระดับความเข้มงวดในการเข้าออกจุดผ่านแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ป้องกัน ปราบปราม ยาเสพติด อาชญากรรมทุกประเภท ภายใต้ปฏิบัติการ “Seal Stop Safe” ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี

จับเว็บพนัน

ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง มีนักแสดงตัวประกอบเอี่ยวด้วย

ตำรวจไซเบอร์ ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง พบเงินหมุนเวียนเดือนละ 100 ล้าน มีนักแสดงตัวประกอบร่วมขบวนการ

เปิดใจผู้รอดชีวิตจากรถบัสมรณะ 18 ศพ

โศกนาฏกรรมรถบัสมรณะ 18 ศพ สร้างความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ให้กับชาว อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ วันนี้ทีมข่าวสำนักข่าวได้สัมภาษณ์เปิดใจผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ราวกับปาฏิหาริย์

ข่าวแนะนำ

ชายแดนไทย-เมียนมา ยังระอุ ปะทะเดือดใกล้จุดแตกหัก

ทหารกะเหรี่ยงใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีฐานทหารเมียนมา ตรงข้าม อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 800 เมตร โรงเรียนในฝั่งไทย ซึ่งอยู่ติดแนวปะทะ หยุดการเรียนการสอน 1 วัน ขณะที่มีชาวเมียนมาหนีภัยสู้รบเข้าไทยกว่า 400 คน

ทร.จับเรือประมงเมียนมารุกล้ำน่านน้ำไทย

ศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือระนอง จับกุมเรือประมงสัญชาติเมียนมา พร้อมลูกเรือและกัปตันเรือ 6 คน ขณะรุกล้ำน่านน้ำไทย บริเวณน่านน้ำเกาะช้าง จ.ระนอง ก่อนควบคุมเรือลำดังกล่าวมาตรวจสอบที่ท่าเรือน้ำลึกระนอง

แจ้งความเอาผิดขบวนการทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก

ผอ.องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ลุยเอง ยื่นหลักฐานให้ตำรวจ ปปป. เอาผิดขบวนการทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก ระบุทำกันมานานเกือบ 10 ปี พบทั้งข้าราชการ-อดีตข้าราชการ เอี่ยวประมาณ 20 คน

รู้เบาะแสคนร้ายชิงทอง 102 บาท คาดเป็นคนในพื้นที่

ตำรวจรู้เบาะแสคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทอง 102 บาท ภายในห้างดังกลางเมืองแม่สอด คาดยังหลบอยู่ในพื้นที่ สั่งคุมเข้มแนวชายแดน ป้องกันคนร้ายหลบหนี พร้อมยกระดับมาตรการดูแลร้านทอง-ห้างสรรพสินค้า ป้องกันเหตุซ้ำรอย