กรุงเทพฯ 14 ต.ค. – กระทรวงคมนาคม เร่งพัฒนาระบบคมนาคมขนส่ง โลจิสติกส์ ทุกโหมดการเดินทาง ในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี ส่งเสริมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของประเทศ
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมขนส่งที่สำคัญในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันด้านโครงข่ายคมนาคมขนส่ง มุ่งส่งเสริมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของประเทศ
นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่มุ่งมั่นพัฒนาระบบการคมนาคมขนส่ง ทั้งทางบก ทางราง ทางน้ำ และทางอากาศ ให้ครอบคลุมทั่วถึงทุกพื้นที่ และสามารถเชื่อมโยงไปยังประเทศต่างๆ ในภูมิภาค เพื่อให้ประชาชนมีความสะดวกและปลอดภัยในการเดินทางและขนส่งสินค้า ให้ผู้ที่อยู่ห่างไกลสามารถเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานและการให้บริการด้านคมนาคมขนส่งอย่างเท่าเทียม เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี สร้างงาน สร้างรายได้ ประชาชนมีความสุข และมอบหมายให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯ ดำเนินการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมขนส่งที่สำคัญทุกโหมดการเดินทางในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ทุกมิติ ประกอบด้วย
มิติการพัฒนาทางถนน เช่น การพัฒนาโครงข่ายทางหลวงโครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 323 สายท่าเรือ-กาญจนบุรี ดำเนินการแล้วเสร็จ, โครงการก่อสร้างปรับปรุงบริเวณจุดตัดทางหลวงหมายเลข 323 กับทางหลวงหมายเลข 367 (แยกท่าล้อ) อยู่ระหว่างดำเนินการ, การพัฒนาโครงข่ายทางหลวงชนบท เช่น โครงการบำรุงถนนสาย กจ.4088 แยก ทล.3272 – บ.อีต่อง อำเภอทองผาภูมิ อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง ผลการก่อสร้าง 83.98% คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนตุลาคม 2565 และโครงการสะพานข้ามแม่น้ำแควน้อย ตำบลท่าเสา และตำบลวังกระแจะ อำเภอไทรโยค อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง ผลการก่อสร้าง 30.62%
แผนแม่บทการพัฒนาโครงข่ายเชื่อมโยงระหว่างภูมิภาค MR-MAP เป็นโครงข่ายคมนาคมที่ประกอบไปด้วยถนนมอเตอร์เวย์และทางรถไฟพัฒนาอยู่ในพื้นที่บริเวณเดียวกัน เพื่อเชื่อมโยงการเดินทางกับภาคอื่นของประเทศไทยให้สามารถเดินทางได้อย่างสะดวกและปลอดภัย ส่งเสริมการขนส่งสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ ลดค่าใช้จ่ายในการขนส่ง โดยแผนการดำเนินการ ได้แก่ ปี 2564 โดยมีเส้นทางที่ผ่านพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ได้แก่ MR5 : กาญจนบุรี (ด่านเจดีย์สามองค์) – อุบลราชธานี (สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 6) ระยะทาง 832 กิโลเมตร ซึ่งเป็น 1 ใน 3 โครงการนำร่อง และ MR6 : กาญจนบุรี (ด่านพุน้ำร้อน) – สระแก้ว (ด่านอรัญประเทศ) ระยะทาง 390 กิโลเมตร
โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง ประกอบด้วย โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สาย M81 บางใหญ่ – กาญจนบุรี มีจุดเริ่มต้นที่จุดตัดทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 ด้านตะวันตกกับถนนรัตนาธิเบศร์ บริเวณทางแยกต่างระดับบางใหญ่ อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี ผ่านพื้นที่อำเภอนครชัยศรี และอำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี สิ้นสุดที่จุดบรรจบกับทางหลวงหมายเลข 324 (ถนนกาญจนบุรี – อำเภอพนมทวน) อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี ระยะทางรวมประมาณ 96 กิโลเมตร ปัจจุบันการก่อสร้างงานโยธามีความก้าวหน้ากว่าร้อยละ 82 กำหนดเปิดให้บริการในปี 2566
โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง M81 กาญจนบุรี – ชายแดนไทย/เมียนมา (บ้านพุน้ำร้อน) เป็นทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองขนาด 4 ช่องจราจร มีจุดเริ่มต้นจากทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางใหญ่ – กาญจนบุรี สิ้นสุดที่ด่านพรมแดนบ้านพุน้ำร้อน ระยะทาง 82 กิโลเมตร ความก้าวหน้าการดำเนินงานได้ศึกษาความเหมาะสมของโครงการ (FS) และออกแบบรายละเอียดแล้วเสร็จ สำหรับรูปแบบการลงทุนและแผนดำเนินโครงการอยู่ระหว่างรอความชัดเจนของการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกทวาย
การเชื่อมโยงการขนส่งสาธารณะ การเชื่อมโยงระบบคมนาคมจากสถานีขนส่งผู้โดยสารไปยังสถานที่ต่างๆ ในจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งอยู่ในระหว่างดำเนินการ ได้แก่ รถโดยสารประจำทาง หมวด 1 สายที่ 2 ศาลาสองแคว – เชิงสะพานแก่งเสี้ยน หมวด 4 สายที่ 1722 กาญจนบุรี – ลาดหญ้า สายที่ 8170 กาญจนบุรี – ศรีสวัสดิ์ สายที่ 8172 กาญจนบุรี – บ้านพุน้ำร้อน สายที่ 8203 กาญจนบุรี – สังขละบุรี สายที่ 8520 กาญจนบุรี – ค่ายกองพลที่ 9
รวมทั้งโครงการและแผนงานเพื่อบริการประชาชนต่างๆ ซึ่งอยู่ในระหว่างดำเนินการ ได้แก่ 1) โครงการรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน 2) โครงการนักเรียนรุ่นใหม่มีใบขับขี่ 3) โครงการตรวจจับความเร็วรถโดยสารสาธารณะและรถบรรทุกด้วยกล้องเลเซอร์ เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน 4) ศูนย์บริหารจัดการเดินรถด้วยระบบ GPS 5) ศูนย์ควบคุมสถานตรวจสภาพรถเอกชน (VICC) 6) โครงการตรวจการขนส่ง และตรวจวัดควันดำ 7) โครงการตรวจและทดสอบสารอันเกิดจากการเสพยาเสพติดให้โทษของผู้ปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ขับรถโดยสารสาธารณะ 8) เทคโนโลยีในการให้บริการประชาชน ได้แก่ ระบบจองคิวล่วงหน้า (DLT Smart Queue) ระบบชำระภาษีรถประจำปี (DLT Vehicle Tax DLT GPS) ตรวจสอบรถสาธารณะด้วยระบบ GPS และระบบใบอนุญาตขับรถเสมือนจริง (DLT QR LICENCE)
มิติทางราง มีแผนพัฒนารถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 (พ.ศ. 2565-2569) โดยมีเส้นทางที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี จำนวน 2 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางกาญจนบุรี – บ้านพุน้ำร้อน และเส้นทางกาญจนบุรี – สุพรรณบุรี – ชุมทางบ้านภาชี โดยทั้ง 2 เส้นทาง อยู่ระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ขอรับการจัดสรรงบประมาณปี 2567 เพื่อศึกษาความเหมาะสมต่อไป
มิติทางน้ำ มีการพัฒนาทางน้ำในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ได้แก่ โครงการขุดลอกแก้ไขปัญหาอุทกภัยและภัยแล้ง โครงการจัดระเบียบแพสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขากาญจนบุรี ร่วมมือกับจังหวัดกาญจนบุรี ในการจัดระเบียบแพ จำนวน 50 หลัง ในแม่น้ำแควใหญ่ บริเวณท่าน้ำหน้าเมืองเขื่อนขุนแผน ให้แพพักเคลื่อนย้ายไปจอดไว้ในบริเวณที่เหมาะสม และโครงการสร้างความปลอดภัยในการคมนาคมขนส่งทางน้ำ ได้แก่ จัดตั้งจุดอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยทางน้ำประจำท่าเทียบเรือที่มีประชาชนและนักท่องเที่ยวใช้บริการหนาแน่น จัดเจ้าหน้าที่ประจำท่าเทียบเรือสาธารณะ และการควบคุมเรือทุกประเภท ตรวจสอบความปลอดภัยของเรือโดยสารและโป๊ะเทียบเรือ
ทั้งนี้ เมื่อโครงการก่อสร้างต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี แล้วเสร็จสมบูรณ์ จะทำให้การเชื่อมต่อด้านคมนาคมขนส่งทุกโหมดการเดินทางได้อย่างไร้รอยต่อ เพิ่มประสิทธิภาพโครงข่ายการคมนาคมขนส่ง สามารถรองรับปริมาณการเดินทางและคมนาคมขนส่งที่เพิ่มสูงขึ้นในอนาคต เชื่อมโยงโครงข่ายคมนาคมขนส่งกับภูมิภาคอื่นๆ ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และมีความปลอดภัย อีกทั้งยังเป็นการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ส่งเสริมการท่องเที่ยว ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน นำไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจเยี่ยม พร้อมรับฟังความคิดเห็นและความต้องการของประชาชนในพื้นที่ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สาย 81 บางใหญ่ – กาญจนบุรี ตอนที่ 18 ที่ กม.66+900 ทางหลวงหมายเลข 3443 ตอน ตลาดใหม่ – ตลุงเหนือ ที่ กม.3+200 และทางหลวงชนบท กจ.3036 แยกทางหลวงหมายเลข 324 – อนุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช โดยสั่งการเร่งรัดกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างให้เป็นไปตามแผนการดำเนินงาน เพื่อให้สามารถเบิกจ่ายงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2566 ได้ตามเป้าหมายของกระทรวงคมนาคม ที่ร้อยละ 100 โดยเฉพาะงบลงทุน เพื่อเป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศ
โดยการดำเนินการในทุกขั้นตอน ขอให้ยึดหลักกฎหมาย ระเบียบ มติคณะรัฐมนตรี และหลักธรรมาภิบาลอย่างเคร่งครัด คำนึงถึงผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อมที่จะเกิดขึ้น ให้หน่วยงานในพื้นที่เร่งซ่อมแซมสายทางที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย เพื่อให้ผู้ใช้รถใช้ถนนสามารถสัญจรได้อย่างสะดวกและปลอดภัย และประสานงานกับจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างทันท่วงที และในการดำเนินการก่อสร้าง ให้หน่วยงานคมนาคมในพื้นที่คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นสำคัญ เป็นต้น. – สำนักข่าวไทย