เคียฟ 11 ต.ค. – หลายประเทศทั่วโลกออกมาประณามรัสเซียจากการโจมตีหลายเมืองของยูเครนเมื่อวันจันทร์ ซึ่งรวมถึงการยิงจรวดโจมตีย่านใจกลางกรุงเคียฟของยูเครนเป็นครั้งแรก
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำต่างชาติที่ได้พูดคุยกับประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน หลังเกิดเหตุโจมตี กล่าวว่า การโจมตีดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความโหดร้ายรุนแรงจากการทำสงครามที่ผิดกฎหมายของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย พร้อมทั้งให้สัญญาว่าสหรัฐจะยังคงให้ความช่วยเหลือที่จำเป็นแก่ยูเครนในการป้องกันตนเอง เช่น การสนับสนุนด้านระบบป้องกันภัยทางอากาศที่ทันสมัย
นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่ขององค์การสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ระบุว่า เขารู้สึกตกใจอย่างยิ่งจากเหตุโจมตีดังกล่าว ซึ่งถือเป็นการเพิ่มความรุนแรงของสงครามในครั้งนี้และทำให้พลเรือนจำนวนมากได้รับผลกระทบอย่างหนัก ส่วนสหภาพยุโรป หรืออียู กล่าวว่า รัสเซียเป็นผู้ก่ออาชญากรรมสงคราม ด้านนางเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ระบุว่า รัสเซียยังคงสร้างความหวาดกลัวและความโหดร้ายรุนแรง ขณะที่จีนกับอินเดีย ซึ่งไม่เคยออกแถลงการณ์ประณามการทำสงครามในยูเครนของรัสเซีย ได้ออกมาเรียกร้องให้รัสเซียลดความรุนแรงของสงครามลง
ในขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีปูตินระบุว่า การโจมตีดังกล่าวเป็นการตอบโต้เหตุระเบิดบนสะพานที่เชื่อมต่อรัสเซียกับคาบสมุทรไครเมียเมื่อวันเสาร์ โดยที่ผู้นำรัสเซียอ้างว่าเป็นฝีมือของยูเครน ทั้งยังเตือนว่า เขาพร้อมที่จะสั่งการโจมตีรุนแรงมากขึ้น อย่างไรก็ดี ยูเครนไม่ได้ออกมายืนยันว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดที่สะพานดังกล่าวแต่อย่างใด ทั้งนี้ ทางการยูเครนระบุว่า เหตุโจมตีกรุงเคียฟและหลายเมืองของยูเครนเมื่อวันจันทร์ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 14 คน และบาดเจ็บอีกเป็นจำนวนมาก โดยที่ยูเครนได้ยิงสกัดจรวดกว่า 43 ลูกจากทั้งหมด 83 ลูก. -สำนักข่าวไทย