โรม 23 เม.ย.- สมเด็จสันตะปาปาฟรานซิส ประมุขคริสต์จักรนิกายโรมันคาทอลิกทรงขอให้รัฐบาลประเทศต่าง ๆ นำผู้อพยพและผู้เข้าเมืองออกจากค่ายที่พัก เนื่องจากหลายแห่งมีสภาพไม่ต่างจากค่ายกักกัน
สมเด็จพระสันตะปาปาทรงเล่าให้ผู้อพยพที่มาเข้าเฝ้าฟังว่า เสด็จเยี่ยมค่ายผู้อพยพบนเกาะเลสบอสของกรีซเมื่อปีก่อน ชาวมุสลิมคนหนึ่งที่อพยพมาจากตะวันออกกลางกราบทูลพระองค์เรื่องกลุ่มก่อการร้ายเข้าสู่ประเทศได้อย่างไร และเรื่องภรรยาที่เป็นคริสตชนถูกปาดคอเสียชีวิตเพราะไม่ยอมขว้างไม้กางเขนทิ้งลงบนพื้น พระองค์ไม่ทราบว่าชายมุสลิมผู้นั้นออกจากค่ายผู้อพยพแล้วหรือไม่ เพราะค่ายผู้อพยพหลายแห่งมีสภาพเหมือนค่ายกักกัน คนจำนวนมากอาศัยอยู่อย่างแออัดกันในนั้น
สมเด็จพระสันตะปาปาทรงชื่นชมหลายประเทศที่ช่วยเหลือผู้อพยพแม้ว่าต้องแบกรับภาระเพิ่มขึ้น เพราะขณะนี้ดูหมือนว่าข้อตกลงระหว่างประเทศมีความสำคัญมากกว่าสิทธิมนุษยชน เป็นการพาดพิงถึงข้อตกลงสกัดผู้อพยพข้ามพรมแดนที่สหภาพยุโรป (อียู) แยกทำกับตุรกีและลิเบีย นอกจากนี้ยังทรงขอให้อิตาลีทางเหนือที่เป็นฐานเสียงของพรรคการเมืองต่อต้านคนเข้าเมืองรับผู้เข้าเมืองเพิ่มขึ้น ทรงหวังว่าความกรุณาของอิตาลีทางใต้จะมีอิทธิพลต่อทางเหนือบ้าง ทรงระบุว่าอิตาลีมีอัตราเด็กเกิดใหม่ต่ำที่สุดแห่งหนึ่งของโลก หากปิดประตูไม่รับผู้เข้าเมืองก็เท่ากับเป็นการฆ่าตัวตาย.-สำนักข่าวไทย