กรุงเทพฯ 19 ก.ย.- อธิบดีกรมชลประทานระบุ เสริมศักยภาพการระบายน้ำท่วมกทม. ฝั่งตะวันออกเพื่อให้ไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา-นครนายก-บางปะกง-อ่าวไทยอย่างต่อเนื่อง โดยวันนี้เป็นวันที่ 7 แล้วที่ปริมาณการระบายสูงกว่าปริมาณน้ำท่าจากฝนที่ตกลงมา คงเหลือปริมาณน้ำส่วนเกิน 118 ล้านลบ.ม. หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม จะระบายได้หมดใน 3 วัน
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทานเปิดเผยว่า จากสถานการณ์ฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลก่อนหน้านี้ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังพื้นที่ลุ่มต่ำเป็นบริเวณกว้างในพื้นที่ฝั่งตะวันออกของกรุงเทพมหานคร ซึ่งกรมชลประทานเสริมเครื่องสูบน้ำและเครื่องผลักดันน้ำที่ประตูระบายน้ำและสถานีสูบน้ำต่างๆ เพื่อเร่งระบายออกทุกทางทั้งระบายสู่แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำนครนายก แม่น้ำบางปะกง และอ่าวไทย
ทั้งนี้ได้รับรายงานจากนายชุติมันต์ สกุลพราหมณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 11 ว่า ได้คำนวณปริมาณน้ำท่าจากฝนที่ตกลงมาบริเวณฝั่งตะวันออกของกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนจนถึงวันที่ 19 กันยายนพบว่า มีปริมาณน้ำท่าสะสม 845 ล้านลบ.ม. กรมชลประทานสามารถระบายน้ำออกได้รวม 727 ล้านลบ.ม. จึงยังคงเหลือน้ำส่วนเกินที่รอระบายอยู่ 118 ล้านลบ.ม. จากศักยภาพการระบายน้ำผ่านประตูระบายน้ำและสถานีสูบน้ำต่างๆ จะระบายได้หมดใน 3 วัน หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม
เมื่อติดตามปริมาณน้ำท่าและปริมาณการระบายน้ำรายวันพบว่า ตั้งแต่วันที่ 13 กันยายนเป็นต้นมาจนถึงวันนี้ เป็นเวลา 7 วันต่อเนื่องที่ปริมาณการระบายออกมากกว่าปริมาณน้ำท่าที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากการเสริมประสิทธิภาพการสูบระบายน้ำและฝนที่ลดลง
นายประพิศกล่าวต่อว่า สั่งการให้นายอเนก ก้านสังวร ผู้อำนวยการสำนักเครื่องจักรกลเร่งติดตั้งเครื่องสูงน้ำเพื่อเร่งระบายน้ำที่ท่วมขังจ. ปทุมธานีและกทม. ฝั่งตะวันออกเพิ่ม เพื่อเสริมการระบายผ่านคลองรังสิตประยูรศักดิ์ออกแม่น้ำเจ้าพระยา โดยให้แบ่งระบายออกสู่แม่น้ำนครนายก แม่น้ำบางปะกง และอ่าวไทย ดังนี้
– จังหวัดนครนายก ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ขนาด 3 ลบ.ม. / วินาที 6 เครื่อง และขนาด 12 นิ้ว 4 เครื่อง รวมทั้งติดตั้งเครื่องสูบน้ำขับเคลื่อนด้วยระบบไฮดรอลิก ขนาด 30 นิ้ว อีก 2 เครื่องในคลองคลองหกวาสายล่าง ที่สถานีสูบน้ำสมบูรณ์ อ.องครักษ์ ช่วยเร่งระบายน้ำในคลองหกวาสายล่าง ซึ่งรับน้ำมาจากพื้นที่ชั้นในของกรุงเทพมหานครและปทุมธานี ก่อนระบายลงสู่แม่น้ำนครนายก ช่วยลดปริมาณน้ำที่จะไหลผ่านกรุงเทพมหานคร และบรรเทาปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มต่ำในเขตจังหวัดปทุมธานี
– จังหวัดสมุทรปราการ ติดตั้งเครื่องสูบน้ำขับเคลื่อนด้วยระบบไฮดรอลิกเพิ่มเติม 2 เครื่องในคลองสำโรงที่สถานีสูบน้ำนางหงษ์ ตำบลคลองด่าน อำเภอบางบ่อ จากเดิมที่ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ขนาด 3 ลบ.ม./วินาที ไว้แล้ว 6 เครื่อง เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำจากคลองสำโรงและคลองชายทะเลออกสู่อ่าวไทยให้เร็วยิ่งขึ้น
– จังหวัดฉะเชิงเทรา ติดตั้งเครื่องสูบน้ำขับเคลื่อนด้วยระบบไฮดรอลิก ขนาด 2 ลบ.ม./วินาที 2 เครื่องในคลองนครเนื่องเขตที่สถานีสูบน้ำท่าไข่ 1 ตำบลท่าไข่ อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา คลองนครเนื่องเขตเป็นคลองแนวขวางอยู่เหนือคลองประเวศบุรีรมย์ โดยเป็นคลองที่รับน้ำต่อจากพื้นที่น้ำท่วมขังเขตลาดกระบัง แล้วระบายลงสู่แม่น้ำบางปะกงและออกทะเลตามลำดับ
ทั้งนี้ กรมชลประทานจะเร่งช่วยเหลือพื้นที่ประสบปัญหาน้ำท่วมขังอย่างต่อเนื่องให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว ซึ่งจะดำเนินการจนกว่าจะสิ้นฤดูฝน เพื่อบรรเทาปัญหาที่เกิดกับประชาชนให้ได้มากที่สุด หากหน่วยงานหรือประชาชนต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อได้ที่โครงการชลประทานใกล้บ้าน หรือโทรสายด่วน 1460 ได้ตลอดเวลา.-สำนักข่าวไทย