พาณิชย์เร่งอุดช่องโหว่ไม่ให้ซ้ำรอย ”เวท์เอเวอร์”

นนทบุรี  14 เม.ย. – กระทรวงพาณิชย์ขานรับนายกรัฐมนตรีเป็นเจ้าภาพประชุมหน่วยงานเกี่ยวข้อง 18 เม.ย. อุดช่องโหว่ไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอย “เวท์เอเวอร์” 


นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากกรณีที่บริษัท เวลท์เอเวอร์ จำกัด มีพฤติกรรมหลอกลวงประชาชนโดยการลอยแพนักท่องเที่ยวชาวไทยกลางสนามบินสุวรรณภูมิจนไม่สามารถเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นได้ ซึ่งพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความเป็นกังวลและต้องการให้มีระบบการตรวจสอบล่วงหน้า เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาทำนองเดียวกับบริษัท เวลท์เอเวอร์ จำกัด อีก จึงได้สั่งการและมอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เร่งหามาตรการควบคุม อุดช่องโหว่-ปิดช่องว่าง ไม่ให้บริษัทที่จดทะเบียนนำธุรกิจมาหาประโยชน์โดยมิชอบหลอกลวงประชาชนได้อีกต่อไป และเป็นเจ้าภาพหารือเกี่ยวกับการบูรณาการข้อมูลการจดทะเบียนธุรกิจ การขออนุญาตประกอบธุรกิจที่อยู่ในความรับผิดชอบของหลายหน่วยงานให้มีการเชื่อมโยงและสามารถตรวจสอบข้อมูล เพื่อเฝ้าระวังและตัดวงจรมิจฉาชีพในคราบนักธุรกิจ

ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่ากระทรวงพาณิชย์ได้มอบหมายให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเป็นเจ้าภาพจัดประชุมกำหนดมาตรการ แนวทาง และวิธีป้องกัน ป้องปราม เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าววันที่ 18 เมษายนนี้ ที่กระทรวงพาณิชย์ โดยเชิญหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) กรมการปกครอง กรมการท่องเที่ยว สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) เป็นต้น เข้าร่วมประชุมหารือ เพื่อให้เกิดการบูรณาการเชื่อมโยงข้อมูลการจดทะเบียน การขออนุญาตประกอบธุรกิจที่แต่ละหน่วยงานรับผิดชอบให้เป็นหนึ่งเดียวและสามารถตรวจสอบข้อมูลง่าย โดยเฉพาะข้อมูลและประวัติของผู้กระทำความผิดที่มาสวมรอยขอจดทะเบียนนิติบุคคลหรือขออนุญาตประกอบธุรกิจประเภทต่าง ๆ ซึ่งจะเป็นการตัดวงจรมิจฉาชีพในคราบธุรกิจที่จะเข้ามาหากินและหลอกลวงประชาชน ตลอดจนการทำลายภาพลักษณ์ที่ดีของธุรกิจไทย นอกจากนี้ จะร่วมกันกำหนดบทลงโทษที่เข้มงวดมากขึ้น ในกรณีที่นิติบุคคลกระทำความผิดฐานหลอกลวงประชาชนหรือฐานความผิดอื่น ๆ เพื่อเป็นการป้องกันและป้องปรามไม่ให้เกิดกรณีดังกล่าวซ้ำรอยขึ้นอีก


 ทั้งนี้ รัฐบาลมีความห่วงใยประชาชนและผู้ประกอบธุรกิจทุกระดับ ซึ่งปัจจุบันรูปแบบธุรกิจมีความหลากหลายจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยอาจทำให้ผู้ซื้อ ผู้ขายหรือการติดต่อธุรกรรมผ่านช่องทางออนไลน์ยากแก่การตรวจสอบ รวมทั้งการโฆษณาประชาสัมพันธ์ที่เกินจริงอาจทำให้เกิดการหลอกลวงและเกิดความเสียหายวงกว้าง ดังนั้น การตัดวงจรที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายโดยการบูรณาการความร่วมมือของทุกหน่วยงาน และทุกฝ่ายจะสามารถบรรเทาปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างเป็นรูปธรรม.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง