กรุงเทพฯ 25 ส.ค. – ผู้ว่าฯ กทม. ติดตามการรื้อถอนตัดสายสื่อสาร จัดระเบียบสายสื่อสารรกรุงรัง ตามแผนของ กสทช. และ กฟน. เชื่อทำได้ตามเป้าหมายภายในสิ้นปีนี้
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ติดตามการรื้อถอนสายสื่อสารตามแผนการจัดระเบียบสายสื่อสาร พ.ศ.2565 ณ บริเวณซอยทองหล่อ สุขุมวิท 55 เขตวัฒนา กทม. โดยมีตัวแทนผู้บริหารจากทั้งสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) และการไฟฟ้านครหลวง ร่วมให้ข้อมูล โดยเป็นหนึ่งในโครงการตามแผนจัดระเบียบสายสื่อสารของ กสทช. ในพื้นที่การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ระยะเร่งด่วนจำนวน 400 กิโลเมตร ซึ่งดำเนินการไปแล้วกว่า 180 กว่ากิโลเมตร โดยวันนี้เริ่มในเส้นทางตามแผนจัดระเบียบ ซอยทองหล่อ ตั้งแต่ถนนสุขุมวิท ถึงถนนเพชรบุรี ระยะทาง 5 กิโลเมตร โดยวันนี้เป็นจุดเริ่มต้นการจัดระเบียบที่ถนนทองหล่อ เริ่มที่บริเวณหน้า สน.ทองหล่อ ตามเป้าหมายจะทำตลอดทั้งเส้นนี้แล้วเสร็จภายในเดือน ต.ค.นี้
ด้านผู้ว่าฯ กทม. เผยว่า นี่เป็นโครงการที่ กสทช. เป็นเจ้าภาพ โดยมีความร่วมมือหลายหน่วยงาน ทั้ง กทม., กฟน. รวมถึงเอกชนโอเปอร์เรเตอร์ให้บริการระบบโทรคมนาคม อย่างน้อยก่อนจะนำสายไฟลงดินได้ทั้งหมด การจัดระเบียบสายที่รกรุงรังที่ไม่ได้ใช้งานก็จะช่วยให้เมืองเป็นระเบียบขึ้น โดยพบว่ามีมากกว่าร้อยละ 50 ของสายทั้งหมดทั่ว กทม. โดยการจัดระเบียบจะช่วยลดอันตรายที่อาจเกิดจากอัคคีภัยด้วย วอนประชาชนอย่าไปตัดสายเอง อาจเกิดอันตราย หรือตัดผิดสายได้ ให้เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องดำเนินการดีกว่า เพราะก่อนจะตัดสายต่างๆ ต้องใช้ความเชี่ยวชาญ และสำรวจหาเจ้าของสายก่อน โดยเป็นปัญหาที่มีมายาวนาน ซึ่งพบว่าหลายเจ้าของสายที่นำสายมาพาดก็อาจมีที่ไม่ได้ขออนุญาตด้วย และมองว่าเรื่องนี้ต้องเร่งทำให้เสร็จตามแผน เพราะประชาชนตั้งความหวังและจับตามองอยู่ ส่วนการควบคุมด้านกฎหมายนั้น ผู้ว่าฯ กทม. ระบุการควบคุมสายพาดรายใหม่ๆ จะเน้นดูว่าหากผู้ที่มาติดตั้ง ไม่มีใบอนุญาตจาก กสทช. หรือ กฟน. ก็จะไม่ให้พาดเพิ่ม และ กทม. กำลังร่างข้อบัญญัติ หากเจ้าของสายมาลักลอบพาด หรือไม่ดำเนินจัดการสายสื่อสารที่ไม่ได้ใช้งานเป็นของรายใดก็จะถูกค่าปรับตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาด ด้วย
ด้าน กสทช. ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าในวันนี้เป็นไปตามแผนการจัดกระเบียบสายสื่อสารในกรุงเทพฯ ปี 2565 รวมระยะทางประมาณ 800 กิโลเมตร ซึ่งแบ่งเป็นกลุ่มพื้นที่เร่งด่วนที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจและเป็นพื้นที่ที่มีผู้อยู่อาศัยจำนวนมาก มีความต้องการใช้เครือข่ายโทรคมนาคมสูงและมีสายพาดผ่านอยู่หนาแน่น กับกลุ่มพื้นที่นอกเหนือจากกลุ่มเร่งด่วน โดยตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ดำเนินการไปแล้ว 10 เส้นทางในพื้นที่กลุ่มเร่งด่วน ระยะทาง 25.4 กิโลเมตร และในพื้นที่ นอกเหนือกลุ่มเร่งด่วน 8 เส้นทางระยะทาง 54.22 กิโลเมตร และมีที่อยู่ระหว่างการจัดหาและติดตั้งคอนสื่อสารในอีก 169 เส้นทาง รวมระยะทาง 306.46 กิโลเมตร ซึ่งคาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะสามารถเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จตามเป้าหมายที่วางไว้. -สำนักข่าวไทย