วอชิงตัน 26 ส.ค.- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐกล่าวกับประธานาธิบดีอี แจ มยองของเกาหลีใต้ว่า เขาต้องการพบกับนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือในปีนี้ และเปิดกว้างเรื่องหารือการค้าต่อไปกับเกาหลีใต้ ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวเรื่องนี้ต่อหน้าผู้สื่อข่าวขณะให้การต้อนรับประธานาธิบดีอีที่มาเยือนทำเนียบขาวเป็นครั้งแรกเมื่อวันจันทร์ตามเวลาสหรัฐ ขณะที่ผู้นำเกาหลีใต้กล่าวเชิญนายทรัมป์ไปร่วมการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกหรือเอเปค (APEC) ที่เกาหลีใต้จะเป็นเจ้าภาพในเดือนตุลาคมปีนี้ และอาจใช้ช่วงเวลาดังกล่าวในการพบปะกับนายคิม ซึ่งผู้นำเกาหลีใต้คาดหวังว่า ผู้นำสหรัฐจะช่วยสร้างสันติภาพระหว่างสองเกาหลีที่ยังถูกแบ่งแยกกันอยู่ นับตั้งแต่นายทรัมป์เข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนมกราคมปีนี้ เขาได้เรียกร้องหลายครั้งเรื่องฟื้นฟูการติดต่อโดยตรงกับเกาหลีเหนือ หลังจากที่เคยพบกับนายคิมมาแล้วถึง 3 ครั้งเมื่อครั้งที่เขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐสมัยแรก ก่อนหน้านี้เขากล่าวว่า ที่ผ่านมาความสัมพันธ์ระหว่างเขากับนายคิมเป็นไปอย่างดีมาก อย่างไรก็ตาม เกาหลีเหนือยังไม่แสดงความเห็นต่อท่าทีล่าสุดของผู้นำสหรัฐ แต่ในเวลาต่อมาสื่อของทางการเกาหลีเหนือรายงานว่า การซ้อมรบร่วมระหว่างสหรัฐกับเกาหลีใต้พิสูจน์ให้เห็นถึงเจตนาของสหรัฐที่จะยึดครองคาบสมุทรเกาหลีและโจมตีประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาค นายทรัมป์เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวหลังเสร็จสิ้นการหารือกับนายอีว่า เชื่อว่าเกาหลีใต้จะทำข้อตกลงการค้าครั้งใหญ่กับสหรัฐตามที่ได้ตกลงไว้ ด้านผู้นำเกาหลีใต้เปิดเผยในภายหลังว่า ได้หารือกับผู้นำสหรัฐเรื่องปรับปรุงความเป็นพันธมิตรทวิภาคีให้เป็นการต่างตอบแทนมากขึ้น และมุ่งสู่อนาคตมากขึ้นตามสถานการณ์ด้านความมั่นคงที่กำลังเปลี่ยนแปลง และว่าเกาหลีใต้จะเพิ่มงบกลาโหมเพื่อปรับเปลี่ยนกองทัพให้เป็นกองทัพอัจฉริยะ ซึ่งจะได้เปรียบหากเกิดความขัดแย้งขึ้นในอนาคต ทั้งนี้แม้ว่าสหรัฐและเกาหลีใต้บรรลุข้อตกลงการค้าในการเจรจาเมื่อเดือนกรกฎาคมว่า สหรัฐจะเก็บภาษีศุลกากรสินค้านำเข้าจากเกาหลีใต้ในอัตราร้อยละ 15 แต่ทั้งสองฝ่ายยังคงไม่สามารถตกลงกันได้ในเรื่องพลังงานนิวเคลียร์ การใช้จ่ายด้านกลาโหม และรายละเอียดของข้อตกลงการค้าที่ครอบคลุมเรื่องเกาหลีใต้รับปากจะลงทุน 350,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 11.35 ล้านล้านบาท) ในสหรัฐ.-816(814).-สำนักข่าวไทย