ปักกิ่ง 10 ธ.ค. – จีนและนิการากัวสานความสัมพันธ์ทางการทูตกันอีกครั้งในวันนี้ หลังจากนิการากัว ซึ่งเป็นประเทศในอเมริกากลางตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับไต้หวัน เป็นความเคลื่อนไหวที่สร้างความไม่พอใจให้ทั้งไต้หวันและสหรัฐ
กระทรวงต่างประเทศจีนประกาศหลังจากให้การต้อนรับรัฐมนตรีคลังนิการากัวและบุตรชาย 2 คนของประธานาธิบดีแดเนียล ออร์เตกา ของนิการากัว ที่เมืองเทียนจิน ทางตอนเหนือของจีนว่า นิการากัวได้เลือกสิ่งที่ถูกต้องแล้ว นายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน กล่าวว่า พันธมิตรไต้หวันที่ขณะนี้เหลือเพียง 14 ประเทศ เลือกอยู่กับไต้หวันเพราะถูกสหรัฐกดดันและเพราะการทูตที่ใช้เงินของไต้หวันเท่านั้น
ประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน ของไต้หวัน ประกาศว่า จะไม่ยอมก้มหัวให้แก่แรงกดดันหรือเปลี่ยนแปลงความมุ่งมั่นในการปกป้องเสรีภาพและประชาธิปไตย ไต้หวันจะเดินหน้ามุ่งเข้าหาประชาคมโลก เพราะยิ่งประชาธิปไตยไต้หวันประสบความสำเร็จมากเท่าใด ประชาคมโลกก็จะยิ่งสนับสนุนมากขึ้น เช่นเดียวกับแรงกดดันจากค่ายเบ็ดเสร็จที่จะยิ่งเพิ่มขึ้น
ด้านกระทรวงต่างประเทศสหรัฐแถลงว่า การตัดสินใจของนิการากัวไม่ได้สะท้อนถึงเจตนารมณ์ของประชาชน เพราะรัฐบาลชุดนี้ไม่ได้มาจาการเลือกตั้งอย่างเสรี สหรัฐขอให้ทุกประเทศที่ให้คุณค่าแก่สถาบันประชาธิปไตย ความโปร่งใส หลักนิติธรรม และส่งเสริมความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจของประชาชน ให้ขยายความร่วมมือกับไต้หวันต่อไป
แหล่งข่าวไต้หวันมองว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เจตนายั่วยุ เพราะรัฐบาลสหรัฐกำลังจะจัดการประชุมสุดยอดเพื่อประชาธิปไตยระหว่างวันที่ 9-12 ธันวาคม ที่มีไต้หวันเข้าร่วมด้วย และไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ เพราะนิการากัวถูกสหรัฐคว่ำบาตรจึงหันไปหาจีน ประธานาธิบดีออร์เตกาเคยตัดความสัมพันธ์กับไต้หวันในปี 2528 เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งระหว่างปี 2522-2533 ก่อนที่ประธานาธิบดีวีโอเลตา บาร์รีออส เด ชาโมร์โรที่ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของนิการากัวจะกับมาสถาปนาความสัมพันธ์กันอีกครั้งในปี 2533 ส่วนประธานาธิบดีออร์เตกากลับมาเป็นผู้นำสมัยที่ 2 เมื่อชนะเลือกตั้งในปี 2550.-สำนักข่าวไทย