อิหร่าน 3 ก.พ.-คำสั่งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ห้ามพลเมือง 7 ชาติมุสลิม เดินทางเข้าสหรัฐเป็นการชั่วคราว 90 วัน ที่ส่งผลให้พลเมือง 7 ชาติมุสลิมเหล่านั้น ไม่สามารถเดินทางเข้าสหรัฐได้ แต่เมื่อศาลรัฐบาลกลางมีคำพิพากษาระงับคำสั่งนี้ ตามที่มีผู้ร้องเรียนก็ส่งผลให้ชายชาวอิหร่านคนหนึ่ง สามารถเดินทางเข้าสหรัฐได้เป็นรายแรก
นายอาลี วา เยกัน ชายอิหร่านวัย 61 ปี เดินทางถึงท่าอากาศยาน นครลอสแอนเจลิสเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว แต่ต้องถูกส่งตัวขึ้นเครื่องบินกลับไปที่ดูไบ เนื่องจากคำสั่งพิเศษของประธานาธิบดีทรัมป์ แต่หลังจากผู้พิพากษาศาลรัฐบาลกลาง สั่งระงับการใช้คำสั่งนี้เป็นการชั่วคราว ตามที่มีผู้ยื่นคำร้องฉุกเฉินทำให้เขาได้เดินทางกลับมายังสหรัฐอีกครั้ง และเข้าประเทศได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยผู้พิพากษาสั่งให้เจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกให้เขาเดินทางกลับมา และเขานับเป็นบุคคลแรก ที่ได้เข้าสหรัฐตามคำสั่งศาล นาย อาลี วา เยกัน รอคอยมานาน 12 ปี ที่จะได้อพยพมาใช้ชีวิตร่วมกับครอบครัวในสหรัฐ
โดยเขามีกรีนการ์ด หรือสิทธิพำนักถาวรอย่างถูกกฎหมาย การเดินทางถึงสหรัฐของเขาเมื่อวานนี้เต็มไปด้วยบรรยากาศการต้อนรับอย่างอบอุ่น จากครอบครัว และผู้ประท้วงคำสั่งของทรัมป์ สำหรับคำสั่งพิเศษของทรัมป์ห้ามผู้อพยพทั้งหมดเข้าสหรัฐ เป็นเวลา 120 วัน ห้ามผู้อพยพชาวซีเรียเข้าสหรัฐอย่างไม่มีกำหนด และห้ามคนจาก 7 ชาติมุสลิมเข้าสหรัฐเป็นเวลา 90 วัน ประกอบด้วยอิรัก อิหร่าน ซีเรีย ซูดาน เยเมน ลิเบีย และโซมาเลีย จุดกระแสประท้วง ไปทั่วโลก และสร้างความสับสนทางกฎหมาย จนกระทั่งมีการชี้แจงในเวลาต่อมาว่า ผู้ถือกรีนการ์ดไม่อยู่ภายใต้คำสั่งนี้.-สำนักข่าวไทย