ซิดนีย์ 2 มิ.ย. – รัฐวิกตอเรีย ของออสเตรเลีย ขยายระยะเวลาการล็อกดาวน์ในนครเมลเบิร์นเพื่อควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสที่กลายพันธุ์ที่พบในอินเดียเป็นครั้งแรก
นายเจมส์ เมอร์ลิโน รักษาการมุขมนตรีของรัฐวิกตอเรีย กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่นครเมลเบิร์นในวันนี้ว่า หากปล่อยให้สถานการณ์การติดเชื้อเดินหน้าต่อไปอาจจะเกิดการระบาดครั้งใหญ่ได้ การกระจายของโควิดสายพันธุ์ที่น่ากังวลจะระบาดจนควบคุมไม่ได้และจะมีประชาชนเสียชีวิต เขาระบุว่าไม่มีใครอย่างให้เกิดเหตุซ้ำรอยเหมือนเมื่อช่วงฤดูหนาวที่แล้ว ที่รัฐวิกตอเรียต้องใช้มาตรการเข้มข้นในการล็อกดาวน์ ซึ่งมีความเข้มงวดและยาวนานที่สุดในโลกเพื่อควบคุมการระบาดของโควิดระลอกที่ 2 ในรัฐวิกตอเรียมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 800 ราย ซึ่งคิดเป็นประมาณร้อยละ 90 ของยอดผู้เสียชีวิตทั้งหมดในออสเตรเลียนับตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด-19 เป็นต้นมา รัฐวิกตอเรีย ซึ่งเป็นรัฐที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 2 ของออสเตรเลีย ใช้มาตรการล็อกดาวน์เมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว ซึ่งเดิมกำหนดจะสิ้นสุดในวันที่ 3 มิถุนายน หลังจากที่พบผู้ติดเชื้อในประเทศเป็นครั้งแรนกในรอบ 3 เดือน และการติดเชื้อเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อย ๆ และผู้ที่สำผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็นหลายพันราย ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป พลเมืองชาวนครเมลเบิร์น ประมาณ 5 ล้านคน จะต้องอยู่ในภาวะล็อกดาวน์เป็นสัปดาห์ที่ 2 ซึ่งจะได้รับอนุญาตให้ออกจากบ้านเฉพาะไปทำงานที่จำเป็น ภาระกิจเกี่ยวกับสุขภาพ จับจ่ายซื้อสิ่งของจำเป็น ออกกำลังกาย หรือเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิดเท่านั้น แต่มาตรการคุมเข้มจะมีการผ่อนคลายในพื้นที่อื่น ๆ ในรัฐวิกตอเรีย ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ในรอบ 24 ชั่วโมงข้างหน้า แต่มาตรการป้องกันอื่น ๆ เช่น การสวมหน้ากากอนามัย จะใช้บังคับต่อไป.-สำนักข่าวไทย