วอชิงตัน 26 ก.พ.- ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคของสหรัฐหรือซีดีซี (CDC) แจ้งว่า ยอดผู้ป่วยโรคหัดในปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 93 คนแล้ว ซึ่งเพิ่มจาก 14 คนเมื่อสัปดาห์ก่อน
ซีดีซีแจ้งเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ว่า ผู้ป่วยส่วนใหญ่อยู่ในเขตเทศมณฑลเกนส์ รัฐเท็กซัส ซึ่งกำลังเกิดการระบาด โดยมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นจาก 22 คนเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์เป็น 57 คน ขณะที่ทั่วรัฐเท็กซัสพบผู้ป่วยแล้ว 90 คน ทำให้เกิดความวิตกว่า จะเกิดการแพร่ระบาดไปยังพื้นที่อื่น ๆ ของรัฐด้วย
นอกจากนี้ยังพบผู้ป่วยในหลายรัฐทั้งอะแลสกา แคลิฟอร์เนีย จอร์เจีย นิวเจอร์ซีย์ นิวเม็กซิโก โรดไอส์แลนด์ และนครนิวยอร์ก โดยพบว่าผู้ป่วยร้อยละ 95 ไม่เคยฉีดวัคซีนเอ็มเอ็มอาร์ (MMR) ที่ป้องกันหัด คางทูม และหัดเยอรมัน หรือไม่ทราบสถานะการฉีดวัคซีน ขณะที่ร้อยละ 4 ฉีดวัคซีนเพียง 1 เข็ม ไม่ครบ 2 เข็มตามคำแนะนำของแพทย์
สหรัฐประกาศว่าปลอดจากโรคหัดในปี 2543 ตามเกณฑ์ที่ไม่พบการระบาดเป็นเวลา 1 ปี เชื้อไวรัสของโรคนี้สามารถแพร่ผ่านผู้เดินทางมาจากประเทศที่พบการระบาด ซีดีซีแจ้งว่า ตั้งแต่ต้นปีจนถึงขณะนี้พบการระบาดในสหรัฐ 3 ครั้ง เทียบกับปี 2567 ทั้งปีที่พบการระบาด 16 ครั้ง มีรายงานผู้ป่วย 285 ราย เจ้าหน้าที่สาธารณสุขระบุว่า สาเหตุบางส่วนเกิดจากการที่ผู้ปกครองไม่ยอมให้บุตรหลานฉีดวัคซีน.-816(814).-สำนักข่าวไทย