ซิดนีย์ 20 พ.ค. – สมาคมการแพทย์ออสเตรเลีย หรือ เอเอ็มเอ ซึ่งเป็นองค์กรแพทย์สูงสุดของออสเตรเลียกล่าววันนี้ เตือนประชาชนว่า จะกลายเป็นเป้านิ่งจากการโจมตีของเฃื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในขณะที่ผู้นำธุรกิจเรียกร้องให้ออสเตรเลียเปิดพรมแดนระหว่างประเทศให้เร็วขึ้นแม้ว่าโครงการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 จะเดินหน้าไปอย่างเชื่องช้า
เอเอ็มเอ กล่าวว่า ทางสมาคมรู้สึกเป็นห่วงที่ชาวออสเตรเลียเป็นจำนวนมาก ไม่รีบเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เนื่องจากออสเตรเลียสามารถควบคุมการระบาดได้ดี พร้อมกับเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ใช้แผนการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ที่มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิมในการเชิญชวนให้ประชาชนไปฉีดวัคซีน คริส มอย รองประธานเอเอ็มเอ ให้สัมภาษณ์วิทยุเอบีซีว่า หากมองไปที่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศอื่นที่กำลังเกิดการระบาดของโควิด-19 อย่างรุนแรงและมีการพัฒนากลายพันธุ์ของเชื้อไวรัส ออสเตรเลียจะเป็นเสมือนเป้านิ่งหากประชาชนยังไม่เข้ารับการฉีดวัคซีนในสัดส่วนที่มีนัยสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีอายุมากกวา 50 ปีขึ้นไป ออสเตรเลียปิดพรมแดนระหว่างประเทศเมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว ห้ามผู้ที่ไม่ใช่พลเรือนออสเตรเลียหรือผู้ที่พำนักเป็นการถาวรในออสเตรเลียเข้าประเทศ ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อในประเทศมีจำนวนค่อนข้างต่ำ คือมีผู้ติดเชื้อไม่ถึง 30,000 รายและผู้เสียชีวิต 910 ราย ออสเตรเลียคาดหมายจะฉีดวัคซีนให้ประชาชนวัยผู้ใหญ่ 20 ล้านคนให้เสร็จสิ้นในปลายปีนี้ ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา การระดมฉีดวัคซีนมีความคืบหน้ารวดเร็วยิ่งขึ้น แต่ก็ยังล่าช้ากว่าประเทศที่พัฒนาแล้วอื่น ๆ อุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาด พยายามกดดันให้รัฐบาลกลางให้เร่งเปิดพรมแดนให้เร็วขึ้นกว่ากำหนดเดิมในกลางปีหน้า แต่นายกรัฐมนตรี่สก็อตต์ มอร์ริสัน ปฎิเสธคำขอของภาคเอกชนโดยอ้างถึงการเกิดการระบาดของเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ในต่างประเทศ.-สำนักข่าวไทย