ช่วย นศ.สาว ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอก ก่อนโอนเงินแสน

13 ก.พ. – ผกก.สน.เพชรเกษม นำทีมช่วยเหลือนักศึกษาสาว ปวส.ปี 2 ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างเป็นตำรวจ ตุ๋นพัวพันเว็บพนัน ให้โอนเงิน 1 แสนบาท หลังพ่อเข้าแจ้งความ ลั่นขอบคุณตำรวจจากใจ


เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 13 ก.พ. พล.ต.ต.คมสิทธิ์ รังไสย์ ผบก.น.9 พ.ต.อ.เศกสิทธิ์ สุภาอ้วน รอง ผบก.น.9 พ.ต.อ.ธีระชัย เด็ดขาด รอง ผบก.น.9 พ.ต.อ.ศุภวัช ปานแดง และพ.ต.อ.กิตติพงศ์ พันธ์ศรี รอง ผบก.น.9 สั่งการ พ.ต.อ.ปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว ผกก.สน.เพชรเกษม พ.ต.ต.ธวัชชัย ทิพย์วงษ์ สว.สส.สน.เพชรเกษม พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.เพชรเกษม เข้าช่วยเหลือ น.ส.จิดาภา อายุ 21 ปี นักศึกษา ปวส.ชั้นปีที่ 2 หลังถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกไปยังโรงแรมย่านเพชรเกษม กทม.

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 12 ก.พ.68 เวลา 23.45 น. นายจันทร์ พ่อของ น.ส.จิดาภา ผู้เสียหาย เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.เพชรเกษม แจ้งว่าเมื่อวันที่ 12 ก.พ.เวลา 16.30 น. น.ส.จิดาภา ซึ่งเป็นลูกสาว ได้หายตัวออกจากบ้านพักในหมู่บ้านย่านบางแค กทม. พร้อมกับเอาทรัพย์สินไปด้วย คือ สร้อยคอทองคำ หนัก 2 บาท 1 เส้น หนัก 1 บาท 1 เส้น, แหวน น้ำหนัก 1 สลึง 1 วง โดยแจ้งว่าจะออกไปทำธุระ ซึ่งต่อมาไม่สามารถติดต่อได้ เกรงว่าจะได้รับอันตราย จึงมาแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน


ต่อมาทราบว่า น.ส.จิดาภา ขอยืมเงินเพื่อน แต่เพื่อนไม่ให้ จึงได้แจ้งให้กับทางตำรวจทราบ พ.ต.อ.ปราโมทย์ เชื่อว่า น.ส.จิดาภา ถูกคนร้ายกลุ่มคนร้ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงเพื่อเอาทรัพย์สิน จึงได้สั่งการเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ช่วยออกติดตามตัวให้พบโดยเร็วที่สุด พร้อมประสานไปยัง ผกก.กก.สส.บก.น.9 เพื่อขอสนับสนุนข้อมูล ประสานไล่กล้องวงจรปิดตามเส้นทางของ น.ส.จิดาภา จนกระทั่งพบตัวที่โรงแรม จึงเข้าช่วยเหลือไว้ได้

สอบสวน น.ส.จิดาภา เบื้องต้นให้การว่า มีเจ้าหน้าที่จาก บริษัทเครือข่ายโทรศัพท์แจ้งว่า ตนเองได้ไปเปิดเบอร์โทรศัพท์ และพัวพันกับการกระทำผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และการพนัน จากนั้นได้โอนโทรศัพท์ให้พูดคุยกับ จ่าจรัญ ซึ่งอยู่ที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ บอกว่าตนได้ทำผิด พ.ร.บ.คอมฯ เกี่ยวกับเว็บพนัน เช่นกัน ซึ่งบอกให้ตนหานำรหัสธนาคารของผู้ปกครองของตน ไปให้ และห้ามบอกผู้ปกครองหรือญาติ ซึ่งผู้ปกครองของตนไม่ยินยอมให้ ทางแก็งคอลเซ็นเตอร์ จึงได้บอกให้ตนหาเงินมาจำนวน 100,000 บาท เพื่อจะไม่ให้ดำเนินคดีกับทางผู้ปกครองด้วย

น.ส.จิดาภา ให้การอีกว่า ตนจึงได้นำทอง ซึ่งเก็บไว้ภายในบ้านออกไปขาย เพื่อให้ได้เงินจำนวนนั้นมา และทางแก็งคอลเซ็นเตอร์ ได้ห้ามไม่ให้ตนบอกใครหรือติดต่อกับใคร และห้ามกลับบ้านให้หาโรงแรม เพื่อเปิดห้องอยู่คนเดียว ห้ามรับสายใครหรือต่อต่อกับใคร โดยเด็ดขาด และบอกให้ตนโหลดแอปฯ เทรดคริปโตมาและสมัครสมาชิก และให้เชื่อมกับบัญชีธนาคารของตน ก่อนตนจะทำธุรกรรมสำเร็จ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจตามมาจนพบก่อน จึงได้ทราบว่าเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยตำรวจได้สั่งให้หยุดการทำธุรกรรมครั้งนี้ไว้ได้ทัน


เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงพาตัว น.ส.จิดาภา มาที่ สน.เพชรเกษม เมื่อเจอกับผู้ปกครองได้กอดกันพร้อมกับร่ำไห้ และขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ช่วยติดตามหาจนเจอ และไม่สูญเสียทรัพย์สิน ส่วนสาเหตุที่ตนเชื่อแกงค์คอลเซ็นเตอร์ เนื่องจากถูกข่มขู่ว่าจะดำเนินคดีกับพ่อแม่ ตนกลัวจึงได้ทำตามที่คนร้ายสั่งการทุกอย่าง และที่สำคัญคนร้ายแต่งกายด้วยชุดตำรวจ จึงเชื่อว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างแน่นอน

ด้านนายจันทร์ บิดาผู้เสียหาย ได้กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตามหาบุตรสาวจนเจอ ครั้งนี้ตนไม่ได้คิดว่าจะเสียเงินทองไปแล้วจะได้คืนหรือไม่ แค่ตามหาลูกให้เจอก็ดีใจมากแล้ว ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยใจจริงที่ช่วยตามหาไม่ทอดทิ้งตนเองและครอบครัว เป็นความประทับใจมากที่ได้รับการช่วยเหลือในครั้งนี้

พ.ต.อ.ปราโมทย์ ผกก.สน.เพชรเกษม กล่าวว่า กรณีนี้เป็นความโชคดีมากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถไล่กล้องวงจรปิดและสืบสวนทางเทคนิคจนพบตัวน้องก่อนที่จะมีการโอนเงินให้กับคนร้าย ส่วนในทางคดีก็ได้มีการประสานกับทาง ผกก.สส.บก.น.9 เพื่อหาความเชื่อมโยงในการดำเนินคดีกับคนร้าย และอยากจะประชาสัมพันธ์ให้ทราบว่า วิธีการของคนร้ายจะอาศัยความกลัวของผู้เสียหาย ข่มขู่ได้วิธีการต่างๆ เพื่อให้เกิดความกลัว และที่สำคัญมีการแต่งกายคล้ายกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้เหยื่อเชื่อว่าเป็นตำรวจจริง ดังนั้นขอแจ้งว่าไม่มีเจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานราชการใดที่จะให้ผู้เสียหายหรือประชาชนทั่วไปทำธุรกรรมในการโอนเงิน หรือสอบสวนคดีผ่านทางโทรศัพท์ ดังนั้นหากพบวิธีการแบบนี้ให้เชื่อว่าเป็นกลุ่มคนร้ายอย่างแน่นอน และมีอะไรให้ติดต่อกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่สถานีตำรวจจะดีที่สุด หากประชาชนท่านใด พบเห็น หรือมีเบาะแส เกี่ยวกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือ เกี่ยวกับยาเสพติดหรือสิ่งของผิดกฎหมาย หรือพบการมั่วสุม สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ สน.เพชรเกษม หรือโทรศัพท์ 02-4551718 .-414-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทหารกัมพูชาขุด “คูเลต” ลากยาว 650 เมตร

อุบลราชธานี 28 พ.ค.- เปิดภาพ! “คูเลต” ทหารกัมพูชาขุดลากยาว 650 เมตร จากต้นสัตบรรณถึงสามแยกลาว จุดปะทะทหารไทย เมื่อวันที่ 28 พ.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน ภายหลังเกิดเหตุปะทะระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี หลังพบขุดคูเลต จากจุดต้นสัตบรรณถึงสามแยกลาว ระยะทาง 650 เมตร ซึ่งเป็นพื้นที่อ้างสิทธิ์ โดยก่อนจะเกิดเหตุปะทะกัน ทหารไทยได้เข้าไปเจรจา เพราะเป็นการละเมิด MOU 2543 เป็นครั้งที่ 2 แต่ทางทหารกัมพูชากับยิงสวนออกมา จึงเกิดการปะทะกัน โดยช่วงนี้อยู่ระหว่างการเจรจาของผู้นำในพื้นที่ทั้งสองฝ่าย โดยฝ่ายทหารไทยยืนยันว่าให้ทหารกัมพูชา ออกจากพื้นที่อ้างสิทธิพร้อมกัน-313 .-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ย้ำกัมพูชาต้องยึด MOU 43 หลังละเมิดขุดคูเลต 2 รอบ

อุบลราชธานี 28 พ.ค.- มทภ.2 ย้ำกัมพูชาต้องยึด MOU 43 หลังละเมิดขุดคูเลต 2 รอบ ทหารไทยเข้าเจรจากลับยิงสวน ลั่นปกป้องอธิปไตยตามแผนที่ 1:50,000 เต็มที่ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึง เหตุปะทะระหว่างทหารไทยและทหารกัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ว่า ในช่วงเช้าที่ผ่านมา กำลังพลของกองกำลังสุรนารีได้ลาดตระเวนและพบว่า ทหารกัมพูชาขุดคูเลต เช่นเดียวกับเนิน 745 ช่องบก ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่อ้างสิทธิ์ โดยก่อนจะเกิดเหตุปะทะกัน ทหารไทยได้เข้าไปเจรจา แต่ทางกัมพูชา ยิงสวนออกมา จึงเกิดการปะทะกัน อย่างที่เป็นข่าว สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหาต่อจากนี้ ผู้บังคับบัญชาในระดับพื้นที่กำลังพูดคุยเจรจา “ยืนยันว่าทหารไทยทำหน้าที่รักษาอธิปไตยตามแผนที่ 1:50,000 ซึ่งในพื้นที่ทับซ้อนของทั้ง 2 ประเทศ จะมีการออกลาดตระเวนอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายล้ำเข้ามา ซึ่งทุกฝ่ายต้องยึดตาม MOU 2543”.-313.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารกัมพูชา

ทบ.แจงเหตุปะทะทหารกัมพูชาบริเวณช่องบก คลี่คลายแล้ว

กองทัพบก 28 พ.ค.-ทบ.แจงเหตุปะทะทหารกัมพูชาบริเวณชายแดนช่องบก จ.อุบลราชธานี ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว อยู่ระหว่างรอการเจรจา พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เผยถึงสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา โดยระบุว่าได้รับรายงานจาก กองกำลังสุรนารีเกี่ยวกับเหตุการณ์ปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 เวลา 05.30 น. โดย หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี ได้รับการรายงานว่ามีทหารกัมพูชาเข้ามาวางกำลังในพื้นที่อ้างสิทธิ์ ซึ่งไม่เป็นไปตามข้อตกลง ฝ่ายไทยจึงจัดชุดประสานงานเพื่อเข้าพูดคุยเจรจาตามแนวทางการปฏิบัติที่เคยกระทำมา เมื่อถึงบริเวณดังกล่าว กำลังส่วนระวังเหตุของทหารกัมพูชา ได้เข้าใจผิด และเริ่มใช้อาวุธ ฝ่ายไทยจึงใช้อาวุธตอบโต้กลับไป โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที ต่อมาเวลา 05.55 น. พลตรี ทล โซะวัน รองผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ฝ่ายกัมพูชา ได้โทรศัพท์ประสานงานกับ พันเอก บุญเสริม บุญบำรุง รองผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายยุติ โดยทั้งสองฝ่ายได้ตกลงหยุดยิงและตรึงกำลังบริเวณจุดปะทะ ปัจจุบันทั้งสองฝ่ายอยู่ระหว่างการเจรจาผ่านกลไกทวิภาคี เพื่อจัดการกรณีอ้างสิทธิในพื้นที่ และกำหนดแนวทางร่วมกันในการปฏิบัติอย่างสันติ ตามข้อตกลงที่มีอยู่ […]

มติเอกฉันท์ สภาอนุมัติ “พ.ร.ก.ไซเบอร์-สินทรัพย์ดิจิทัล”

รัฐสภา 28 พ.ค.- สภาเอกฉันท์อนุมัติ “พ.ร.ก.ไซเบอร์-สินทรัพย์ดิจิทัล” ให้ธนาคารร่วมชดใช้ค่าเสียหายจาก “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” เร่งคืนเงินผู้เสียหาย ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยวิสามัญ วาระการพิจารณาพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 และ พ.ร.ก.การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568 ที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ ซึ่งแบ่งเวลาในการอภิปรายฝ่ายละ 2 ชั่วโมง รวม 4 ชั่วโมง และจะเป็นการรวมพิจารณา และแยกลงมติทีละฉบับ โดยนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เสนอหลักการว่า เนื่องจากปัจจุบัน มี พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญกรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 ยังมีมาตรการบังคับทางกฎหมายที่ยังไม่เพียงพอ กับรูปแบบอาชญากรรม กลุ่มมิจฉาชีพ จึงต้องแก้ไขปรับปรุงให้ทันสมัย เช่น การเร่งคืนเงินให้ผู้เสียหาย, การอาญัติบัญชีม้า, การกำหนดหน้าที่และความรับผิดชอบของสถาบันการเงิน ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ และมาตรการการโอนเงินผิดกฎหมาย ผ่านสินทรัพย์ดิจิทัล จากนั้น ได้เปิดโอกาสให้ สส.อภิปรายอย่างกว้างขวาง โดยนายจุติ […]

ข่าวแนะนำ

บินโดรนกระชับพื้นที่ไล่ล่าผู้ต้องหาฆ่ายัดถัง

นครสวรรค์ 29 พ.ค. – คดีฆ่ายัดถังที่นครสวรรค์ เช้านี้ตำรวจใช้โดรนบินไล่ล่าผู้ต้องหา รวมถึงจัดชุดเดินเท้ากระชับพื้นที่ หลังปิดล้อมข้ามคืนแต่ยังไร้วี่แวว กรณีพบศพนายจุฑาเพชร หรือ อ้วน ชาวอยุธยา ถูกฆ่ายัดถังพลาสติก 200 ลิตร โยนทิ้งอ่างเก็บน้ำห้วยใหญ่ตะคร้อ อำเภอไพศาลี จังหวัดนครสวรรค์ เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม โดยสภาพศพอยู่ในท่านั่งขัดสมาธิ สวมกางเกงขายาวคล้ายกางเกงวอร์มสีดำ เสื้อยืดแขนยาวสีเขียว ถูกยิงด้วยปืนลูกซองที่อกซ้าย กระสุนฝังกระจายทั่วอก ศีรษะมีรอยยุบ ส่วนตามตัวผู้ตายมีรอยสักหลายแบบ ทั้งพระนารายณ์แผลงศร พระนารายณ์สี่กร ยันต์เก้ายอด ยันต์มหาอุด และพ่อปู่ฤาษีนารอด เสียชีวิตมาแล้ว 3-5 วัน เมื่อวานนี้ (28 พ.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.ตะคร้อ ได้นำหลักฐานขอศาลนครสวรรค์ ออกหมายจับนายปารวี หรือเกม อายุ 35 ปี เนื่องจากมีหลักฐานว่า เป็นคนใช้ปืนยิงเหยื่อเสียชีวิตในพื้นที่หมู่ 4 บ้านหนองมะค่า อำเภอโคกเจริญ จังหวัดลพบุรี ก่อนนำศพใส่รถกระบะมาทิ้งอำพรางที่อ่างเก็บน้ำตะคร้อ นครสวรรค์ […]

ปิดเส้นทางงดให้ชาวบ้านขึ้น “ช่องบก” หลังเหตุปะทะไทย-กัมพูชา

อุบลราชธานี 29 พ.ค. – บรรยากาศภายในจุดเฝ้าระวัง ภจ12 (ฐานมรกต) อุทยานแห่งชาติภูจองนายอย ในหมู่บ้านโนนสูง หมู่ 3 ตำบลโดมประดิษฐ์ อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นทางขึ้นสู่ช่องบก ยังคงตึงเครียดต่อเนื่อง หลังเกิดเหตุปะทะระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาเมื่อวานนี้ (28 พ.ค.68) เช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่ได้ปิดเส้นทางไม่ให้ชาวบ้านขึ้นไปยังพื้นที่ด้านบน พร้อมมีการตรึงกำลังทหารเพื่อดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ขณะเดียวกัน มีรถพยาบาลทยอยขึ้นไปยังพื้นที่เกิดเหตุอย่างต่อเนื่อง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้มีการบันทึกภาพบริเวณที่ตั้งกำลังของทหารไทย นอกจากนี้ยังมีการจัดตั้งจุดอำนวยการฉุกเฉิน โดยขนย้ายเต็นท์และอุปกรณ์ต่าง ๆ ขึ้นไปเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ ชาวบ้านในพื้นที่แสดงความกังวลต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นายสิทธิ์ อายุ 73 ปี กล่าวว่า ปกติจะขึ้นป่าเป็นประจำ แต่ตอนนี้เจ้าหน้าที่ห้ามเข้าพื้นที่ ทำให้ขาดรายได้ ขณะที่นางพวย อายุ 61 ปี เล่าว่า นี่เป็นครั้งที่ 3 ที่พบเหตุการณ์ในลักษณะนี้ ก่อนหน้านี้เคยมีกระสุนตกลงมาในหมู่บ้าน แม้รู้สึกกลัว แต่ก็พอทำใจได้ เพราะเคยผ่านเหตุการณ์คล้ายกันมาแล้ว ในช่วงบ่ายวันนี้ นายอำเภอน้ำยืนเตรียมเรียกประชุมหน่วยงานราชการในพื้นที่ เพื่อวางแนวทางรับมือและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ขณะที่เวลา […]

นายกฯ ยันศาลเบรกภาษี “ทรัมป์” ไม่กระทบแผนเจรจาไทย

กรุงเทพฯ 29 พ.ค. – นายกฯ ยันศาลการค้ารัฐบาลกลางเบรกภาษี “ทรัมป์” ไม่ส่งผลกระทบแผนเจรจาไทย ทีมงานยังเดินหน้าต่อ จนถึงวันนี้ยังไม่ได้วันนัดชัดเจน รู้สึกสบายใจหลายประเทศอาเซียนก็อยู่ระดับเดียวกับไทย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯ มีคำวินิจฉัยว่า ทรัมป์ ไม่สามารถใช้อำนาจฉุกเฉินในการกำหนดภาษีศุลกากรทั่วโลกได้ เรื่องนี้จะส่งผลกับประเทศไทยที่กำลังรอเจรจาเรื่องภาษีสหรัฐอเมริกาอยู่หรือไม่ ว่า ก็ให้เป็นไปตามกระบวนการไปตกลงจะมีผลอย่างไร ซึ่งตนเองก็ไม่แน่ใจแต่เราก็ต้องทำต่อ เตรียมความพร้อมต่อไป จะหยุดชะงักเลยก็คงไม่ได้และไม่แน่ใจว่ารับฟังหรือยัง เพราะระหว่างที่ไปประชุมที่มาเลเซียได้มีโอกาสได้คุยกับทุกประเทศ ได้คุยกันเรื่องของภาษีสหรัฐอเมริกา ทุกคนพูดเหมือนกันว่าหลายประเทศอยู่ในระดับเดียวกับประเทศไทย คือส่งรายงานเข้าไปและรอวันที่จะตอบกลับมาว่าจะได้ไปคุยวันไหน ยืนยันว่าเราไม่ได้ช้าและอยู่ในขั้นตอนของการรอวันที่จะไปคุยเช่นกันตามกรอบ 90 วัน จึงขอให้สบายใจได้ และจนถึงตอนนี้ยังไม่ได้วันชัดเจนว่าจะได้คุยวันไหนต้องรอให้ทางสหรัฐอเมริกานัดมา แต่ในทีมทำงานไม่เป็นทางการยังติดต่อกันได้ ยังได้คุยและอัพเดทสถานการณ์กันอยู่ และก็เป็นสัญญาณบวก และย้ำอีกครั้งว่า ตนเองไม่ได้ถูกแบนวีซ่าสหรัฐอเมริกาขอให้สบายใจได้. -420-สำนักข่าวไทย

หุ้นบวก-บาทอ่อน-ทองลง รับข่าวศาลระงับมาตรการภาษีตอบโต้ของ “ทรัมป์”

กรุงเทพฯ 29 พ.ค. – หุ้นไทยบวก-บาทอ่อนค่า-ทองลง รับข่าวที่ศาลฯ ระงับมาตรการภาษีตอบโต้ของ “ทรัมป์” ขณะ บล.กรุงศรี คาด SET จะกลับเหนือ 1,200-1,210 จุด ใน 1-3 วัน เงินบาทปรับตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 32.84-32.86 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงเช้าวันนี้ (เวลา 09.56 น.) เทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 32.62 บาทต่อดอลลาร์ฯ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุเงินบาทอ่อนค่าลงสอดคล้องกับสกุลเงินเอเชียอื่นๆ เงินเยน และเงินฟรังก์ สวนทางเงินดอลลาร์ฯ ที่แข็งค่าขึ้น รับข่าวที่ศาลการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐฯ ในนิวยอร์กระงับการใช้มาตรการภาษีศุลกากรของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ที่ออกมาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นการใช้อำนาจเกินขอบเขต ในการเก็บภาษีแบบครอบคลุมจากประเทศที่ส่งออกสินค้ามายังสหรัฐฯ มากกว่าที่นำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ด้านทำเนียบขาวได้ยื่นอุทธรณ์คำตัดสินดังกล่าว และอาจยื่นเรื่องต่อไปจนถึงศาลสูงหากจำเป็น แต่ในระหว่างนี้ ตลาดมองว่าเป็นสัญญาณบวกว่าทรัมป์อาจยอมถอยจากการกำหนดภาษีในระดับสูงสุดที่เคยขู่ไว้ นอกจากนี้ การอ่อนค่าของเงินบาทยังสอดคล้องกับการปรับตัวลงของราคาทองคำในตลาดโลก และสัญญาณสะท้อนสถานะ outflows ของนักลงทุนต่างชาติออกจากตลาดพันธบัตรไทยในวันนี้ด้วยเช่นกัน สมาคมค้าทองคำ […]