13 ก.พ. – ผกก.สน.เพชรเกษม นำทีมช่วยเหลือนักศึกษาสาว ปวส.ปี 2 ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างเป็นตำรวจ ตุ๋นพัวพันเว็บพนัน ให้โอนเงิน 1 แสนบาท หลังพ่อเข้าแจ้งความ ลั่นขอบคุณตำรวจจากใจ
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 13 ก.พ. พล.ต.ต.คมสิทธิ์ รังไสย์ ผบก.น.9 พ.ต.อ.เศกสิทธิ์ สุภาอ้วน รอง ผบก.น.9 พ.ต.อ.ธีระชัย เด็ดขาด รอง ผบก.น.9 พ.ต.อ.ศุภวัช ปานแดง และพ.ต.อ.กิตติพงศ์ พันธ์ศรี รอง ผบก.น.9 สั่งการ พ.ต.อ.ปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว ผกก.สน.เพชรเกษม พ.ต.ต.ธวัชชัย ทิพย์วงษ์ สว.สส.สน.เพชรเกษม พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.เพชรเกษม เข้าช่วยเหลือ น.ส.จิดาภา อายุ 21 ปี นักศึกษา ปวส.ชั้นปีที่ 2 หลังถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกไปยังโรงแรมย่านเพชรเกษม กทม.
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 12 ก.พ.68 เวลา 23.45 น. นายจันทร์ พ่อของ น.ส.จิดาภา ผู้เสียหาย เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.เพชรเกษม แจ้งว่าเมื่อวันที่ 12 ก.พ.เวลา 16.30 น. น.ส.จิดาภา ซึ่งเป็นลูกสาว ได้หายตัวออกจากบ้านพักในหมู่บ้านย่านบางแค กทม. พร้อมกับเอาทรัพย์สินไปด้วย คือ สร้อยคอทองคำ หนัก 2 บาท 1 เส้น หนัก 1 บาท 1 เส้น, แหวน น้ำหนัก 1 สลึง 1 วง โดยแจ้งว่าจะออกไปทำธุระ ซึ่งต่อมาไม่สามารถติดต่อได้ เกรงว่าจะได้รับอันตราย จึงมาแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน
ต่อมาทราบว่า น.ส.จิดาภา ขอยืมเงินเพื่อน แต่เพื่อนไม่ให้ จึงได้แจ้งให้กับทางตำรวจทราบ พ.ต.อ.ปราโมทย์ เชื่อว่า น.ส.จิดาภา ถูกคนร้ายกลุ่มคนร้ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงเพื่อเอาทรัพย์สิน จึงได้สั่งการเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ช่วยออกติดตามตัวให้พบโดยเร็วที่สุด พร้อมประสานไปยัง ผกก.กก.สส.บก.น.9 เพื่อขอสนับสนุนข้อมูล ประสานไล่กล้องวงจรปิดตามเส้นทางของ น.ส.จิดาภา จนกระทั่งพบตัวที่โรงแรม จึงเข้าช่วยเหลือไว้ได้
สอบสวน น.ส.จิดาภา เบื้องต้นให้การว่า มีเจ้าหน้าที่จาก บริษัทเครือข่ายโทรศัพท์แจ้งว่า ตนเองได้ไปเปิดเบอร์โทรศัพท์ และพัวพันกับการกระทำผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และการพนัน จากนั้นได้โอนโทรศัพท์ให้พูดคุยกับ จ่าจรัญ ซึ่งอยู่ที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ บอกว่าตนได้ทำผิด พ.ร.บ.คอมฯ เกี่ยวกับเว็บพนัน เช่นกัน ซึ่งบอกให้ตนหานำรหัสธนาคารของผู้ปกครองของตน ไปให้ และห้ามบอกผู้ปกครองหรือญาติ ซึ่งผู้ปกครองของตนไม่ยินยอมให้ ทางแก็งคอลเซ็นเตอร์ จึงได้บอกให้ตนหาเงินมาจำนวน 100,000 บาท เพื่อจะไม่ให้ดำเนินคดีกับทางผู้ปกครองด้วย
น.ส.จิดาภา ให้การอีกว่า ตนจึงได้นำทอง ซึ่งเก็บไว้ภายในบ้านออกไปขาย เพื่อให้ได้เงินจำนวนนั้นมา และทางแก็งคอลเซ็นเตอร์ ได้ห้ามไม่ให้ตนบอกใครหรือติดต่อกับใคร และห้ามกลับบ้านให้หาโรงแรม เพื่อเปิดห้องอยู่คนเดียว ห้ามรับสายใครหรือต่อต่อกับใคร โดยเด็ดขาด และบอกให้ตนโหลดแอปฯ เทรดคริปโตมาและสมัครสมาชิก และให้เชื่อมกับบัญชีธนาคารของตน ก่อนตนจะทำธุรกรรมสำเร็จ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจตามมาจนพบก่อน จึงได้ทราบว่าเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยตำรวจได้สั่งให้หยุดการทำธุรกรรมครั้งนี้ไว้ได้ทัน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงพาตัว น.ส.จิดาภา มาที่ สน.เพชรเกษม เมื่อเจอกับผู้ปกครองได้กอดกันพร้อมกับร่ำไห้ และขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ช่วยติดตามหาจนเจอ และไม่สูญเสียทรัพย์สิน ส่วนสาเหตุที่ตนเชื่อแกงค์คอลเซ็นเตอร์ เนื่องจากถูกข่มขู่ว่าจะดำเนินคดีกับพ่อแม่ ตนกลัวจึงได้ทำตามที่คนร้ายสั่งการทุกอย่าง และที่สำคัญคนร้ายแต่งกายด้วยชุดตำรวจ จึงเชื่อว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างแน่นอน
ด้านนายจันทร์ บิดาผู้เสียหาย ได้กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตามหาบุตรสาวจนเจอ ครั้งนี้ตนไม่ได้คิดว่าจะเสียเงินทองไปแล้วจะได้คืนหรือไม่ แค่ตามหาลูกให้เจอก็ดีใจมากแล้ว ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยใจจริงที่ช่วยตามหาไม่ทอดทิ้งตนเองและครอบครัว เป็นความประทับใจมากที่ได้รับการช่วยเหลือในครั้งนี้
พ.ต.อ.ปราโมทย์ ผกก.สน.เพชรเกษม กล่าวว่า กรณีนี้เป็นความโชคดีมากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถไล่กล้องวงจรปิดและสืบสวนทางเทคนิคจนพบตัวน้องก่อนที่จะมีการโอนเงินให้กับคนร้าย ส่วนในทางคดีก็ได้มีการประสานกับทาง ผกก.สส.บก.น.9 เพื่อหาความเชื่อมโยงในการดำเนินคดีกับคนร้าย และอยากจะประชาสัมพันธ์ให้ทราบว่า วิธีการของคนร้ายจะอาศัยความกลัวของผู้เสียหาย ข่มขู่ได้วิธีการต่างๆ เพื่อให้เกิดความกลัว และที่สำคัญมีการแต่งกายคล้ายกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้เหยื่อเชื่อว่าเป็นตำรวจจริง ดังนั้นขอแจ้งว่าไม่มีเจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานราชการใดที่จะให้ผู้เสียหายหรือประชาชนทั่วไปทำธุรกรรมในการโอนเงิน หรือสอบสวนคดีผ่านทางโทรศัพท์ ดังนั้นหากพบวิธีการแบบนี้ให้เชื่อว่าเป็นกลุ่มคนร้ายอย่างแน่นอน และมีอะไรให้ติดต่อกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่สถานีตำรวจจะดีที่สุด หากประชาชนท่านใด พบเห็น หรือมีเบาะแส เกี่ยวกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือ เกี่ยวกับยาเสพติดหรือสิ่งของผิดกฎหมาย หรือพบการมั่วสุม สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ สน.เพชรเกษม หรือโทรศัพท์ 02-4551718 .-414-สำนักข่าวไทย