ไบเดนชี้ปกป้องประชาธิปไตยหลังทรัมป์รอดถอดถอน

วอชิงตัน 14 ก.พ.- ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐกล่าวถึงกรณีที่อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์รอดจากการลงมติไต่สวนเพื่อถอดถอนจากตำแหน่งว่า เป็นการย้ำเตือนว่าประชาธิปไตยเป็นสิ่งเปราะบางที่ต้องปกป้อง และชาวอเมริกันทุกคนต้องปกป้องความจริง ทำลายคำโกหก


ประธานาธิบดีไบเดนแถลงว่า เหตุการณ์น่าเศร้าในประวัติศาสตร์ประเทศเรื่องนี้ย้ำเตือนว่า ประชาธิปไตยเป็นสิ่งเปราะบางที่ต้องได้รับการปกป้องอยู่ตลอดเวลา และต้องเฝ้าระวังมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ความรุนแรงและความสุดโต่งเช่นนั้นไม่เป็นที่ยอมรับในอเมริกา ทุกคนมีหน้าที่และความรับผิดชอบในฐานะชาวอเมริกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่เป็นผู้นำ ที่จะต้องปกป้องความจริงและทำลายคำโกหก แม้การลงมติของวุฒิสมาชิก (สว.) ไม่สรุปว่าทรัมป์มีความผิด แต่สาระของข้อกล่าวหาเป็นที่ชัดเจนไม่มีคำโต้แย้ง และจำนวน สว.พรรครีพับลิกันที่ลงมติให้ทรัมป์มีความผิดก็มีมากเป็นประวัติการณ์

ด้านทรัมป์ซึ่งเก็บตัวที่บ้านพักในรัฐฟลอริดาตั้งแต่พ้นจากตำแหน่งประณามการลงมติว่า เป็นการล่าแม่มดครั้งใหญ่ที่สุดอีกครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ประเทศ และแสดงนัยเรื่องจะลงสนามการเมืองอีกในอนาคตว่า การเคลื่อนไหวครั้งประวัติศาสตร์ด้วยความรักชาติและสวยงามเพื่อทำให้อเมริกายิ่งใหญ่อีกครั้ง เพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น ยังมีงานรออยู่ข้างหน้าอีกมาก อีกไม่นานเขาจะมาพร้อมกับวิสัยทัศน์เพื่ออนาคตอเมริกาที่สดใส โชติช่วงและไร้ขีดจำกัด


กลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์บุกอาคารรัฐสภา

ทรัมป์รอดเนื่องจาก สว.ที่ลงมติให้เขามีความผิดในข้อหายุยงให้เกิดเหตุไม่สงมีเพียง 57 ต่อ 43 เสียง ไม่ถึงสองในสามจาก 100 คนตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด ในจำนวนนี้เป็น สว.รีพับลิกัน 7 คนที่ลงมติร่วมกัน สว.เดโมแครต 50 คน เป็นเหตุการณ์ที่กลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์บุกอาคารรัฐสภาในวันที่ 6 มกราคม ขณะที่ไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีในขณะนั้นประกาศรับรองชัยชนะอย่างเป็นทางการของไบเดน เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 5 คน เพนซ์และสมาชิกรัฐสภาต้องหนีเอาชีวิตรอด

สว.พรรคเดโมแครตยืนยันตลอดการพิจารณา 5 วันว่า พฤติกรรมของทรัมป์สมควรถูกไต่สวนเพื่อถอดถอนอย่างแจ่มแจ้ง เพราะย้ำตลอด 2 เดือนหลังการเลือกตั้งว่าถูกโกงเลือกตั้ง และยุยงให้ผู้สนับสนุนบุกรัฐสภา ขณะที่ทนายความของทรัมป์แก้ต่างว่า คำกล่าวของทรัมป์เป็นเพียงวาทกรรม และยกข้อโต้แย้งที่ สว.รีพับลิกันส่วนใหญ่เห็นด้วยว่า วุฒิสภาไม่มีอำนาจตามรัฐธรรมนูญในการไต่สวนประธานาธิบดีที่พ้นตำแหน่งไปแล้ว ด้านเดโมแครตรู้ดีว่าการลงมติไม่สามารถถอดถอนทรัมป์หลังจากพ้นตำแหน่งไปแล้ว แต่หวังว่าการถูกตัดสินว่ามีความผิดจะทำให้ทรัมป์ไม่สามารถลงเลือกตั้งได้อีก.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย

ผบช.สตม. ลั่น ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย เพิกถอนใบอนุญาต ผลักดันออกนอกประเทศทันที

ตรวจสอบ The Park เขาหลัก งบก่อสร้าง 140 ล้าน คุ้มค่าหรือไม่?

สำนักข่าวไทย ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านให้ช่วยเข้าไปตรวจสอบการก่อสร้างโครงการศูนย์กลางการท่องเที่ยวและนันทนาการชายฝั่งแห่งเมืองพังงา หรือ The Park เขาหลัก ริมหาดบางเนียง หลังมีข้อมูลว่าเป็นโครงการที่ก่อสร้างด้วยงบกว่าร้อยล้านบาท แต่ปัจจุบันกลับไม่ได้ใช้ประโยชน์ และถูกปล่อยให้อยู่ในสภาพรกร้าง

ลูกสาวสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ดับคากระท่อม

ลูกสาวเปิดปากสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ปี เสียชีวิตในกระท่อม ข้างลานรับซื้อข้าวเปลือก ต.โนนศิลาเลิง อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

ข่าวแนะนำ

ฮอกกี้ไทย

นายกฯ ชวนคนไทยเชียร์ทีม “ฮอกกี้ชายไทย” เจอเจ้าภาพจีน

นายกฯ ชวนคนไทยเชียร์ทีม “ฮอกกี้ชายไทย” เจอเจ้าภาพ “จีน” เย็นนี้ หลังเดินทางถึงนครฮาร์บิน ร่วมพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว ครั้งที่ 9

ระเบิดปัตตานี

ลอบบึ้มริมถนนสาย 43 จ.ปัตตานี ตำรวจเจ็บ 4 นาย

ลอบบึ้มริมถนนสาย 43 อ.หนองจิก จ.ปัตตานี แรงระเบิดทำให้ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 4 นาย ชาวบ้านเผยเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวมาปฏิบัติหน้าที่เป็นปกติทุกวัน คาดคนร้ายเฝ้าสังเกตพฤติกรรมต่อเนื่อง

เข้าสู่คืนที่ 2 ตัดไฟฟ้าชายแดนเมียนมา ทำลายวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์

เข้าสู่คืนที่ 2 สำหรับการตัดกระแสไฟฟ้า ตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ต และระงับการส่งน้ำมัน จากฝั่ง อ.แม่สอด จ.ตาก ไปเมืองเมียวดีของเมียนมา เพื่อตัดวงจรกลุ่มจีนเทา พบมีการใช้ไฟฟ้าน้อยลง