สหรัฐ 9 ก.ค.- จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รายใหม่ในสหรัฐ ทำสถิติสูงสุดกว่า 60,000 คนอีกครั้ง ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญของสหรัฐคาดว่าจะประสบความสำเร็จในการพัฒนาวัคซีนได้ในช่วงต้นปีหน้า
สหรัฐสร้างสถิติมีผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงสุดอีกครั้ง หลังเมื่อวานนี้พบผู้ติดเชื้อเพิ่มเกือบ 62,000 คน ทำให้ยอดสะสมเพิ่มเป็นราว 3.16 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 890 คน ยอดรวมอยู่ที่เกือบ 135,000 คน รัฐที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากที่สุดคือฟลอริดา เท็กซัส และแคลิฟอร์เนีย ซึ่งมีผู้ติดเชื้อเกือบ 10,000 คน ขณะนี้มีถึง 42 รัฐจากทั้งหมด 50 รัฐที่พบว่ามีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มมากขึ้น และเมื่อวานนี้รัฐเทนเนสซี เวสต์เวอร์จิเนีย และยูทาห์ พบผู้ติดเชื้อมากเป็นประวัติการณ์ สถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่กลับมารุนแรงอีกครั้ง ทำให้หลายรัฐต้องชะลอแผนการเปิดเศรษฐกิจออกไปก่อน รวมทั้งต้องปิดบาร์และชายหาดเพื่อควบคุมโรค ขณะที่หลายรัฐมีมาตรการให้ผู้คนต้องสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าเมื่อต้องออกจากบ้าน
แม้ว่าสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในสหรัฐ ยังไม่มีทีท่าว่าจะคลี่คลายแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กลับเร่งให้โรงเรียนเปิดทำการสอนให้ได้ภายในเดือนพฤศจิกายนปีนี้ และขู่ว่าจะตัดเงินอุดหนุนหากโรงเรียนไหนไม่ยอมเปิดเรียนตามที่เวลาที่กำหนด นอกจากที่สหรัฐแล้ว บราซิล และอินเดียก็กำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดอย่างหนักเช่นกันรวมถึงอีกหลายประเทศในภูมิภาคลาตินอเมริกาและแคริบเบียน ล่าสุดยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกเกินกว่า 12.16 ล้านคนแล้ว และมีผู้เสียชีวิตกว่า 550,000 คน
นพ.แอนโธนี ฟาวซี ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อของรัฐบาลสหรัฐ กล่าวว่าการทดลองวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของบริษัทโมเดอร์น่าจะเริ่มเข้าสู่เฟส 3 ในปลายเดือนนี้ และจะมีการทดลองต่อเนื่องในเดือนสิงหาคม กันยายน และตุลาคม
นพ.ฟาวซี คาดการณ์ว่าสหรัฐน่าจะประสบความสำเร็จในการพัฒนาวัคซีนซึ่งจะมีประสิทธิภาพในระดับหนึ่งได้ในช่วงต้นปีหน้า.-สำนักข่าวไทย