วอชิงตัน 22 มิ.ย.- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐเผยว่า ชะลอการใช้มาตรการลงโทษที่เข้มงวดขึ้นกับจีนเรื่องการปราบปรามชนกลุ่มน้อยอุยกูร์ เพราะเกรงว่าจะกระทบต่อการเจรจาการค้ากับจีน
เว็บไซต์ข่าวอักซิออส (Axios) เผยแพร่บทสัมภาษณ์ประธานาธิบดีทรัมป์เมื่อวันศุกร์ในรายงานฉบับวันอาทิตย์ถึงสาเหตุที่ยังไม่บังคับใช้มาตรการลงโทษของกระทรวงคลังสหรัฐต่อเจ้าหน้าที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนที่เกียวข้องกับการปราบปรามชนกลุ่มน้อยอุยกูร์ในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีนว่า สหรัฐกำลังอยู่ระหว่างการทำข้อตกลงการค้าขนาดใหญ่ และเขาได้ทำข้อตกลงสำคัญเรื่องจีนอาจจะซื้อสินค้าและบริการสหรัฐมูลค่ามากถึง 250,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 7.75 ล้านล้านบาท)
สัปดาห์ที่แล้วทรัมป์ได้ลงนามกฎหมายที่ผ่านความเห็นชอบจากทั้งสองสภา เรียกร้องให้ลงโทษเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำซินเจียงโทษฐานละเมิดสิทธิมนุษยชนร้ายแรง และเรียกร้องให้บริษัทอเมริกันในซินเจียงมีมาตรการรับรองว่าห่วงโซ่อุปทานในจีนไม่เกี่ยวข้องกับการบังคับใช้แรงงาน ทำให้จีนขู่จะตอบโต้ อย่างไรก็ดี ผู้นำสหรัฐยืนยันว่าการใช้มาตรการเหล่านี้เป็นดุลยพินิจของเขา ปีที่แล้วสหรัฐได้จำกัดการนำเข้ากับบริษัทจีนบางแห่งและงดออกวีซ่าเจ้าหน้าที่จีนที่โยงกับซินเจียง แต่ยังไม่เคยใช้มาตรการลงโทษเข้มงวดของกระทรวงคลัง
รอยเตอร์รายงานว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐเคยเผยว่า พิจารณาเรื่องใช้มาตรการลงโทษจีนเรื่องซินเจียงตั้งแต่ปลายปี 2561 แต่ต้องงดไปเมื่อคำนึงถึงเรื่องการค้าและการทูต สหรัฐและจีนเจรจาข้อตกลงการค้าระยะหรือเฟสหนึ่งเมื่อปีก่อนจนสามารถลงนามในเดือนมกราคมปีนี้และบังคับใช้ในเดือนถัดมาว่า จีนตกลงจะซื้อสินค้าและบริการสหรัฐเพิ่มอีกอย่างน้อย 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (อย่างน้อย 6.2 ล้านล้านบาท) เป็นเวลาสองปี นายจอห์น โบลตัน อดีตที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของสหัฐอ้างในหนังสือบันทึกความทรงจำที่จะเผยแพร่ในสัปดาห์นี้ว่า ทรัมป์ขอให้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนช่วยให้ชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีปลายปีนี้ และสนับสนุนให้ผู้นำจีนเดินหน้าสร้างค่ายปรับทัศนคติในซินเจียงด้วย.- สำนักข่าวไทย