“ภราดร” รับพิพิธภัณฑ์รัฐสภาเป็นสุสาน ต้องเร่งปรับปรุงให้มีชีวิต

รัฐสภา 6 พ.ค.- “ภราดร” แจงสภาฯ ของบทำห้องประชุม 1,500 ที่นั่ง มีความจำเป็น​ ช่วยประหยัดงบเช่าโรงแรมจัดสัมมนา ยอมรับ “พิพิธภัณฑ์รัฐสภา” เป็นสุสาน จึงต้องเร่งปรับปรุงให้มีชีวิต-​ประชาชนใช้ประโยชน์ได้จริง ยืนยันใช้งบประมาณคุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์​ และทั้งหมดยังถูกปรับลดได้อีกในชั้น กมธ. และสภาฯ


นายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 ของสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีสำนักงานสภาผู้แทนราษฎรของบประมาณ​ ปี 2569 ในการปรับปรุงพื้นที่ต่างๆ ของรัฐสภาหลายรายการ มูลค่าเกือบ 1,200 ล้านบาท ว่า ขอพูดในส่วนที่ตนรับผิดชอบ คือ สำนักวิชาการ ที่ของบประมาณทำพิพิธภัณฑ์ของอาคารรัฐสภา ซึ่งตามแบบเดิมก็มีพื้นที่ที่จะให้รัฐสภาทำพิพิธภัณฑ์ เพื่อให้ประชาชนได้เข้ามาศึกษาเรียนรู้อยู่แล้ว จึงคิดว่ามีความจำเป็นพอสมควร โดยพื้นที่ที่เตรียมไว้เป็นพื้นที่โล่ง มีเนื้อที่ประมาณ 5,000-6,000 ตารางเมตร หากนำมาทำพิพิธภัณฑ์ ก็จะเป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชน ตนก็รับภารกิจนี้จากประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อตั้งใจให้สภาแห่งนี้เป็นสภา รัฐสภาของประชาชน ทั้งในส่วนอาคารและข้อมูลข่าวสาร ดังนั้นก็จะทำให้คุ้มค่ากับเงินภาษีของพี่น้องประชาชน ให้มากที่สุด โดยของงบประมาณไ ป120-130 ล้านบาท เป็น 2 ส่วนโดยเป็นงบประมาณผูกพันปี 2569 ใช้ประมาณ40 ล้านบาท และในปี 2570 จะขออีกประมาณ 80-90 ล้านบาท ซึ่งตนจะพยายามควบคุมดูแลทุกขั้นตอน คุ้มค่าภาษีประชาชนมากที่สุด

นายภราดร กล่าวว่า สำหรับอีกโครงการ คือการปรับปรุงห้องประชุม 1,500 ที่นั่งในชั้น บี 2 หลังจาก ที่รัฐสภาได้รับมอบ อาคารมาเมื่อปีที่แล้ว โดยห้องประชุม 1,500 ที่นั่งดังกล่าว ตั้งใจจะทำเป็นที่อบรม สำหรับกรรมาธิการทุกคณะของสภาผู้แทนราษฎร และของวุฒิสภา เพราะทุกวันนี้เวลาจะจัดสัมมนา มักจะไปใช้พื้นที่ต่างโรงแรม ซึ่งจะต้องเสียเงิน เช่าพื้นที่เป็นจำนวนหลายแสนบาทต่อครั้ง และหลังจากรับมอบมา ห้องนี้ยังไม่ได้มีการดำเนินการใดๆ ดังนั้นในปีงบประมาณต่อไป ก็จะขอประมาณในการทำห้องสัมมนาให้เสร็จสิ้นสมบูรณ์ ดีกว่าปล่อยไว้เป็นห้องร้าง ห้องที่ใช้ประโยชน์ไม่ได้นำมาใช้ประโยชน์ เพื่อลดภาวะค่าใช้จ่ายของสภาผู้แทนราษฎรลงไป


ทั้งนี้ก่อนที่ตนจะเข้ามารับตำแหน่ง มีการเตรียมของงบประมาณ 160หรือ170ล้านบาท เห็นว่าเป็นงบประมาณที่ค่อนข้างสูงเกินไป จึงขอมาดูและปรับลดลงมา ขอที่ 99ล้านบาท โดยหลักหลักจะเน้น ที่ระบบเสียงและที่นั่ง แต่ทุกโครงการที่ของงบประมาณไปยังไม่เสร็จสิ้น เป็นเพียงแค่ร่างงบประมาณปี2569 ซึ่งสิ้นเดือนนี้จะพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณ รายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ในวารแรก และจะมีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ ขึ้นมาพิจารณาในรายละเอียด หากโครงการหนึ่งโครงการใด คณะกรรมการธิการไม่เห็นด้วย ก็มีสิทธิ์ที่จะตัดลดงบประมาณลง ในทุกโครงการได้ ดังนั้น ขอให้ประชาชนสบายใจได้กระบวนการยังไม่ถึงที่สุดอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาสามารถปรับลดลงได้ หากสภาและกรรมาธิการเห็นว่าไม่มีความจำเป็น

ส่วนที่ฝ่ายค้านนิยามว่าห้องพิพิธภัณฑ์เป็นเพียงสุสานที่อยู่ใต้อาคารรัฐสภานั้น นายภราดร กล่าวว่า​ เห็นด้วย เพราะหลังจากรับมอบอาคารมา เมื่อกลางปี 2567 พื้นที่ดังกล่าวก็เป็นเพียงห้องเปล่าที่ไม่สามารถใช้งานได้ จึงสั่งการให้ฝ่ายที่รับผิดชอบเร่งออกแบบ​ ให้เป็นเหมือนพิพิธภัณฑ์มีชีวิต และประชาชนสามารถเข้าใช้งานได้จริง ส่วนตัวก็ไม่อยากเห็นสุสานใต้สภาเช่นกัน

ส่วนห้องประชุม 1,500 ที่นั่ง ที่ชั้น B2 นายภราดร​ กล่าวว่า​ มีความตั้งใจจะจัดทำเป็นห้องอบรมสัมมนา สำหรับกรรมาธิการทุกคณะ ของทั้ง 2 สภา ซึ่งเป็นแผนเดิม​ ที่ต้องมีตั้งแต่ก่อสร้างรัฐสภาแล้ว แต่ยังไม่ได้ดำเนินการ จึงมีความจำเป็นต้องของบประมาณ​ มาจัดทำให้แล้วเสร็จ ดีกว่าปล่อยให้เป็นห้องร้าง ใช้ประโยชน์ไม่ได้ และยังเป็นการลดค่าใช้จ่ายของกรรมาธิการด้วย เนื่องจากที่ผ่านมาคณะกรรมาธิการจะต้องเสียเงินไปเช่าพื้นที่โรงแรมในการจัดอบรมสัมมนา ซึ่งงบประมาณที่จะใช้จัดทำ​ ก็ปรับลดลงมาเหลือ 99 ล้านบาทแล้ว จากเดิมสำนักประชาสัมพันธ์​เสนอของบมาที่ 160 – 170 ล้านบาท


นายภราดร ยังบอกอีกว่า ทุกโครงการที่ของบประมาณไปนั้น เป็นเพียงแค่ร่างงบประมาณปี 2569 เท่านั้น ยังไม่ได้เป็นที่สิ้นสุด ขอเมื่อเข้าสู่ ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวาระ 1 สิ้นเดือนพฤษภา​คม​นี้​ ก็จะมีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ ซึ่งมีทั้ง สส. และบุคคลภายนอกเข้ามาทำหน้าที่พิจารณาลงลึกในรายละเอียด หากเห็นว่าในโครงการหนึ่งโครงการใด ไม่คุ้มค่า ก็มีสิทธิ์ที่จะปรับลดงบประมาณในทุกโครงการ จึงขอเรียนให้ประชาชนสบายใจ ว่า การของบประมาณยังไม่เสร็จสิ้น

สำหรับกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่ าอาคารรัฐสภาที่เพิ่งก่อสร้างได้เพียงประมาณ 5 ปี จึงต้องใช้งบประมาณจำนวนมากในการปรับปรุง หรือเป็นเพราะแบบที่ก่อสร้างมานั้น ยังไม่แล้วเสร็จ แต่มีการส่งมอบงานกันแล้ว นายภราดร กล่าวว่า เมื่อเราใช้งานมาระยะหนึ่ง​ ทางประธานสภาผู้แทนราษฎรเห็นว่า ยังมีพื้นที่ที่สามารถทำให้เกิดประโยชน์ได้มากขึ้น และมีบางส่วนที่ยังไม่เสร็จสิ้นสมบูรณ์ ก็ควรดำเนินการให้แล้วเสร็จสมบูรณ์ ยกตัวอย่างเช่น ห้องประชุมสัมมนา 1500 ที่นั่ง มีแผนแต่มีแผนแล้วแต่ยังไม่ได้ทำ เพียงแต่เตรียมสถานที่เอาไว้สำหรับดำเนินการในเฟส 2 และเฟส 3 ต่อไป

ส่วนเมื่อมีกระแสข่าวที่ออกไป ทำให้รัฐสภาถูกวิพากษ์วิจารณ์นั้น นายภราดร​ กล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดา แต่ก็เป็นเรื่องที่ดีที่ประชาชนตื่นรู้กับการใช้จ่ายเงินงบประมาณของทุกหน่วยงานราชการ ทำให้ทุกหน่วยงานต้องยิ่งตระหนัก ว่า งบประมาณทุกบาททุกสตางค์เป็นเงินภาษีของประชาชน

เมื่อถามว่าตอนนี้ยังอยู่ในช่วงของการรับประกันการก่อสร้างอาคารรัฐสภา เหตุใดจึงไม่ ให้ผู้รับเหมาปรับปรุงหรือซ่อมในส่วนที่พัง นายภราดร บอกว่า งบประมาณที่ขอไปไม่ใช่งบซ่อมสร้าง แต่เป็นงบต่อเติม เพราะยังมีส่วนที่ยังไม่ได้ดำเนินการ และต้องทำในเฟส 2 – 3 โดยการก่อสร้างเป็นเพียงการเตรียมพื้นที่เอาไว้ เพื่อที่จะรองรับการดำเนินการในอนาคต -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

รวบแล้ว “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – สืบนครบาลจับ “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง พร้อมสมุน หลังหนีซุกบ้านเช่าย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี เร่งล่าอีก 1 ยังหลบหนี กรณีคนร้าย 7 คน แก๊งเสือปุ่น ใช้อาวุธปืนและมีด ก่อเหตุปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท จากผู้มาซื้อคริปโตฯ เหตุเกิดที่ลานจอดรถชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง เมื่อคืนวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.) และตำรวจ บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุม นายวรวัฒน์ หรือ เสือปุ่น อายุ 43 ปี […]

เดินหน้าเอาผิดหญิงกัมพูชาชี้หน้าด่าไล่ทหารไทย

18 ก.ค. – ปกติคดีทำร้ายร่างกายและจิตใจ ไม่ใช่คดีใหญ่ แต่เมื่อเป็นคู่กรณีไทย-กัมพูชา ในสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดน จึงกลายเป็นคดีระดับประเทศที่ผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญ และดำเนินการอย่างรัดกุม ทั้งคดีอดีตทหารพรานทำร้ายร่างกายทหารกัมพูชา และคดีหญิงกัมพูชา ชี้หน้าด่าไล่ทหารไทยบริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์.-สำนักข่าวไทย

ไทยเตรียมประท้วง UN หากทุ่นระเบิดเป็นของใหม่

18 ก.ค. – แม่ทัพภาค 2 ลั่นรอผลตรวจสอบกับระเบิดทำทหารไทยขาขาด หากเป็นของใหม่ จะเสนอประท้วงไปยังยูเอ็น ขอให้มีมาตรการคว่ำบาตรกัมพูชา ทำผิดอนุสัญญาออตตาวา กรณีทหารเหยียบกับระเบิด บนเนินช่องบก จ.อุบลราชธานี คาดว่าไม่เกิน 2 วัน จะชัดเจนว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่หรือของเก่า แต่มีคำยืนยันว่าไทยไม่เพิกเฉยเรื่องนี้แน่นอน พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 บอกว่า หากผลพิสูจน์ชัดเจนว่า ทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ จะใช้กลไกกองทัพบกประสานต่อกระทรวงต่างประเทศ ให้ยื่นประท้วงกัมพูชาต่อองค์การสหประชาชาติ เพื่อดำเนินการคว่ำบาตรกัมพูชา ตามสนธิสัญญาออตตาวา ห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งไทยและกัมพูชาก็เป็นสมาชิกที่มีเกือบ 200 ประเทศทั่วโลก ส่วนมาตรการตอบโต้อย่างอื่น ยังบอกไม่ได้ สำหรับบริเวณช่องบก จุดเกิดเหตุระเบิดจนทำให้กำลังพลบาดเจ็บ 3 นาย จุดนั้น เป็นพื้นที่สู้รบเก่าที่สามารถพบทุ่นระเบิดเก่าได้ ซึ่งวันนี้ ทางชุดเก็บกู้ทุ่นระเบิดแห่งชาติ ที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านกับระเบิดซึ่งทั่วโลกยอมรับ ได้ลงพื้นที่พิสูจน์ มีแนวโน้มเป็นไปได้ทั้งนำมาวางไว้ก่อน หรือหลังเหตุปะทะที่ช่องบก เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา ส่วนในพื้นที่ ได้กำชับกำลังพลทุกนายให้เฝ้าระวังมากยิ่งขึ้น แม่ทัพภาคที่ 2 ยังพูดถึงประเด็นดราม่า […]

บ้านดอนตัน กว่า 100 หลังคาเรือน ยังจมน้ำ

น่าน 18 ก.ค. – “บ้านดอนตัน” จ.น่าน กว่า 100 หลังคาเรือน ยังคงจมน้ำ น้ำใจหลั่งไหลเข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย รวมทั้งเยาวชนฝีพายเรือแข่งอำเภอท่าวังผา ขนน้ำดื่มลงเรือแจกจ่ายช่วยชาวบ้าน สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.น่าน ยังน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะที่บ้านดอนตัน หมู่ 4 ต.ศรีภูมิ อ.ท่าวังผา ชาวบ้านกว่าร้อยหลังคาเรือนยังอาศัยอยู่ท่ามกลางน้ำท่วมขัง ระดับน้ำในพื้นที่สูงกว่า 1 เมตร ประชาชนต้องย้ายสิ่งของขึ้นชั้น 2 เพื่อความปลอดภัย ส่วนผู้อาศัยอยู่ในบ้านชั้นเดียว ต้องอพยพไปพักอยู่กับญาติในพื้นที่ใกล้เคียง หลายหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชนและจิตอาสา ระดมกำลังเข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน โดยจัดส่งอาหาร น้ำดื่มและสิ่งของจำเป็น โดยเฉพาะเยาวชนฝีพายเรือแข่งจากบ้านสบหนอง อำเภอท่าวังผา นำเรือออกให้ความช่วยเหลือในการขนส่งน้ำดื่มและอาหารไปยังบ้านที่ถูกน้ำล้อม เพื่อส่งต่อถึงผู้ประสบภัยที่ยังติดอยู่ในบ้าน ผู้ใหญ่บ้านดอนตัน เปิดเผยว่า ขณะนี้ระดับน้ำเริ่มทรงตัวและ มีแนวโน้มลดลง แต่บริเวณท้ายหมู่บ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำและอยู่ติดแม่น้ำยังคงมีน้ำท่วมสูง โดยเฉพาะในพื้นที่การเกษตรที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ทั้งไร่ข้าวโพดและลำไย รวมกว่า 2,000 ไร่ ถูกน้ำท่วมเสียหายทั้งหมด ขณะที่หมู่บ้านใกล้เคียงในพื้นที่ ต.ป่าคา อ.ท่าวังผา ได้แก่ […]