ครม.เห็นชอบแคมเปญ Amazing Thailand

ทำเนียบฯ 6 พ.ค. – ครม.เห็นชอบแคมเปญ Amazing Thailand 2025 หวังดึงต่างชาติเข้าไทย กระตุ้นการท่องเที่ยว เพิ่มเที่ยวบิน คิดค่าโดยสารเหมาะสม ในช่วงวันหยุด-เทศกาล จับมือกับ Travel Agent ดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติ 39 ล้านคน


นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ครม.เห็นชอบแนวทางความร่วมมือการจัดทำแคมเปญ Amazing Thailand Grand Tourism & Sports Year 2025 โดยการร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง ภายใต้หัวข้อ “Amazing Thailand Grand Tourism & Sports Year 2025” เพื่อเตรียมความพร้อมเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยว สร้างการรับรู้เกี่ยวกับประเทศไทยสู่ระดับสากล 11 ด้านโดยมีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้

  1. ด้านสายการบิน ออกมาตรการให้ incentive ผ่านค่าธรรมเนียมและค่าบริการเพื่อสนับสนุนสายการบินในประเทศ เพิ่มเที่ยวบินและกำหนดราคาบัตรโดยสารที่เหมาะสม เพิ่มจำนวนเที่ยวบินในช่วงวันหยุดและเทศกาลให้มากขึ้น ผลักดันสายการบินได้รับโควตา (Slot) เที่ยวบินไว้แล้ว ให้เปิดให้บริการตามกำหนด และขยาย Slot ไปยังเมืองน่าเที่ยว ลดความแออัดในเมืองหลัก
  2. ด้านโรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร และบริษัททัวร์ บูรณาการความร่วมมือกับภาคเอกชน เพื่อโปรโมท Hotel Chain Promotion และยกระดับมาตรฐานโรงแรมในประเทศ เพิ่มการเข้าถึงโรงแรมรายย่อย มือกับ Travel Agent และ Travel Platform ต่าง ๆ ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเข้าสู่มาตรฐานโรงแรม รีสอร์ทและโฮมสเตย์ ได้แก่ มาตรฐานการท่องเที่ยวไทย เกณฑ์คุณภาพที่พักนักเดินทาง (Home Lodge) และมาตรฐานโฮมสเตย์ไทยและประชาสัมพันธ์ให้เกิดการใช้บริการ โดยมี กก. และสมาคมโรงแรมไทย เป็นหน่วยงานรับผิดชอบ
  3. ด้านห้างสรรพสินค้า ร้านค้า มอบส่วนลด สิทธิพิเศษ และของที่ระลึกให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทย พัฒนาแพลตฟอร์มสังคมไร้เงินสด เพื่อยกระดับการท่องเที่ยวด้วยนวัตกรรมทางการเงิน ติดตั้งเครื่องคืนภาษีอัตโนมัติ จัดทำระบบคืนภาษี หลายสกุลเงิน มอบหมาย คลัง กระทรวงพาณิชย์ และห้างสรรพสินค้า เป็นหน่วยงานรับผิดชอบ
  4. ด้าน OTAs (Online Travel Agency) Agency Tour ประชาสัมพันธ์โปรโมชั่นล่วงหน้าและจัดเตรียมสิทธิพิเศษที่เพียงพอกับความต้องการของนักท่องเที่ยวหรือจัดสรรให้ทั่วถึง จัดทำโปรโมชั่นผ่าน OTA ในรูปแบบแพ็คเกจให้ครอบคลุมทั้งเมืองหลักและเมืองน่าเที่ยว และส่งเสริมกิจกรรมทางการตลาดและการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ โดยมี กก. กค. OTA และสมาคมธุรกิจท่องเที่ยว เป็นหน่วยงานรับผิดชอบ
  5. ด้านระบบขนส่งมวลชนสาธารณะ พัฒนา Mode of Transportation (รูปแบบการเดินทาง) และการเชื่อมโยงเส้นทางการเดินทางท่องเที่ยวเพื่อส่งเสริมเมืองน่าเที่ยว โดยมีรูปแบบที่หลากหลายและตอบโจทย์นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เช่น การขนส่งทางบก ทางอากาศ ทางเรือ และทางราง จัดทำบัตร Amazing Pass 1 day Bangkok โดยมี คค. เป็นหน่วยงานรับผิดชอบ
  6. ด้านความปลอดภัย พัฒนาศักยภาพอาสาสมัครท่องเที่ยวและกีฬาเพื่อการเป็นเจ้าบ้านที่ดี จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว (Tourist Assistance Center: TAC) ในการให้ความช่วยเหลือนักท่องเที่ยวให้ครอบคลุม 77 จังหวัด และบูรณาการความร่วมมือในการให้บริการ 1155 Call center เป็น one – Stop service ให้บริการ 24 ชั่วโมง และจัดหาล่ามแปลภาษาต่างประเทศมาปฏิบัติงานเพิ่มเติม โดยมี กก. กระทรวงมหาดไทย (มท.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สายด่วนตำรวจท่องเที่ยว) เป็นหน่วยงานรับผิดชอบ
  7. ด้านการตรวจลงตรา (Visa) ขยายเวลา Visa Exemption ให้แก่นักท่องเที่ยว เปิดตัวโปรแกรม Visa พิเศษสำหรับนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจจากต่างประเทศ เช่น Visa ท่องเที่ยวที่มีระยะเวลานานขึ้นหรือการลดค่าใช้จ่ายในการขอวีซ่าหรือการยื่นขอ Visa ผ่านระบบออนไลน์ที่สะดวกยิ่งขึ้น โดยมี กก. กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) และสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) เป็นหน่วยงานรับผิดชอบ
  8. ด้าน Event จัดงานเทศกาลมหาสงกรานต์ในพื้นที่เมืองน่าเที่ยว ผลักดันให้เกิด event ในระดับสากล การเตรียมจัดงานขนาดใหญ่ เตรียมพร้อมปรับปรุงการให้บริการขนส่งสาธารณะให้สะดวก ให้บริการรถสาธารณะในราคาเป็นธรรม คมนนาคม กระทรวงวัฒนธรรม สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (CEA) สำนักงาน สกท. และ สสปน. เป็นหน่วยงานรับผิดชอบ
  9. ด้านแหล่งท่องเที่ยว จัดกิจกรรมงาน Night at The Museum ในพิพิธภัณฑ์ วัดและโบราณสถานในยามค่ำคืน ขยายเวลาเปิด – ปิด แหล่งท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติเพื่อให้นักท่องเที่ยวเดินทางท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวได้เพิ่มมากขึ้นตามความเหมาะสม โดยมี วธ. และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เป็นหน่วยงานรับผิดชอบ
  10. ด้านประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อวิทยุ โทรทัศน์ และช่องทาง ดิจิทัลอื่น ๆ เพื่อกระจายข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมการท่องเที่ยวต่าง ๆ ทั้งในระดับประเทศและระดับภูมิภาค เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อประเทศ โดยมี กก. และกรมประชาสัมพันธ์ เป็นหน่วยงานรับผิดชอบ
  11. ด้านอื่น ๆ พัฒนาบุคลากรด้านการท่องเที่ยว เช่น มัคคุเทศก์ โดยเฉพาะภาษาฝรั่งเศส อิตาเลียน สเปน รัสเซีย อารบิค จีน ญี่ปุ่น และเกาหลี เพื่อให้บริการนักท่องเที่ยวได้อย่างมีคุณภาพ และขอความร่วมมือค่ายโทรศัพท์มือถือ ในการให้บริการซิมการ์ดสำหรับนักท่องเที่ยวในประเทศไทย Tourism Sim เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว

“รัฐบาลหวัง เมื่อได้จัดทำแคมเปญ Amazing Thailand Grand Tourism & Sports Year 2025 จะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ผ่านกิจกรรมและเทศกาลระดับโลกกว่า 39 ล้านคน และสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวประมาณ 3.4 ล้านล้านบาท ซึ่งจะเป็นประโยชน์ทั้งในด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว กีฬา การพัฒนาทักษะ และภาพลักษณ์ของประเทศในระดับสากล รวมทั้งส่งเสริมการเติบโตในหลายภาคส่วนของประเทศไทยด้วย” นายอนุกูล ระบุ.-515-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

“เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง เชื่อ 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต หลังจากนี้จะใช้ชีวิตของตัวเองอุทิศให้ประชาชนและประเทศชาติ ชี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองว่าจะออกมาเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก สื่อมวลชนอาวุโส กล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และศาลด้วยที่ความเมตตากับตนเอง ที่ผ่านมาเราต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม สำหรับการตัดสินในวันนี้ทำให้รู้สึกโล่งใจ ดีใจทำให้เรารู้ว่าหลังจากนี้เราจะใช้ชีวิตของเราอย่างไรต่อ เพราะถือว่าเป็นคดีสุดท้าย 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต ต่อจากนี้เป็นต้นไปขอทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดชีวิตนี้จะอุทิศให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ พร้อมบอกว่าเป็นคดีสุดท้ายใน 20 ปี ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เราใช้วิชาชีพของตัวเองใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองรับใช้พี่น้องประชาชน ถือว่าเป็น 20 ปี ที่คุ้มมาก พี่น้องประชาชนให้กำลังใจเราเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่ร่วมมือกับเราในการแสวงหาข้อมูล เรารู้สึกว่ามีคนรักเรามาก และความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เรานำเสนอความจริง เมื่อถามว่าที่ผ่านรู้สึกอย่างไรได้มีเตรียมใจไว้หรือไม่ น.ส.อัญชะลี ระบุว่า ทุกอย่างเตรียมความพร้อม ทุกอย่างไม่ต้องแอบทำใจ หากเราสู้จนถึงที่สุดแล้วอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิด ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เคยช่วยเหลือทั้งในเรื่องเอกสาร หรืออื่นๆ ส่วนเหตุผลที่ศาลพิจารณายกฟ้องในคดีนี้ คือ ศาลเห็นว่าพยานให้การไม่ตรงกันในหลายประเด็นทั้งพยานวัตถุ […]

ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาคดีม็อบพันธมิตรบุกยึด NBT ปี51

ศาลอาญา 19 ก.ย. – วันนี้ที่ศาลอาญา รัชดา ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หรือคดีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ พธม. นำผู้ชุมนุมบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน ในช่วงระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในเวลา 10:00 น. โดยคดีดังกล่าวมีจำเลย 4 คน ได้แก่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นน้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ทั้งหมดถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป อั้งยี่ซ่องโจร บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากปรากฏหลักฐานว่า จำเลยทั้งห้าเป็นระดับหัวหน้าและผู้สั่งการให้กระทำความผิด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีจำเลยอีก 1 คน คือ นายสมเกียรติ […]

‘มาครง’ เตรียมเสนอหลักฐานยืนยัน ‘บริฌิตต์’ เป็นหญิงไม่ใช่ชาย

ปารีส 19 ก.ย. – ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และบริฌิตต์ ภริยา เตรียมเสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่อศาลสหรัฐเพื่อพิสูจน์ว่าบริฌิตต์เป็นผู้หญิงจริงๆ ไม่ใช่ผู้ชาย ทนายความของประธานาธิบดีมาครงและบริฌิตต์ บอกว่า ทั้งคู่จะยื่นเอกสารเหล่านี้ในคดีหมิ่นประมาทที่ทั้งสองได้ยื่นฟ้อง แคนแดซ โอเวนส์ อินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายขวาชาวอเมริกัน ที่เผยแพร่ความเชื่อของตนผ่านทางสื่อและรายการพ็อคแคสต์ของตนเองว่าบริฌิตต์ เกิดมาเป็นผู้ชาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอเสียใจและไม่สบายใจอย่างมากกับข้อกล่าวหาดังกล่าว และเรื่องนี้รบกวนจิตใจของประธานาธิบดีฝรั่งเศส แม้จะไม่ได้ทำให้มาครงสมาธิหลุดจากภารกิจหน้าที่ของเขาในฐานะผู้นำประเทศ แต่มันก็เป็นเรื่องรบกวนจิตใจของคนที่ต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องงาน ซึ่งตัวประธานาธิบดีก็ไม่มีข้อยกเว้น ในส่วนของการยื่นหลักฐานต่อศาลนั้น ทนายความของมาครงและภริยาบอกว่า ทั้งคู่พร้อมที่จะแสดงหลักฐานอย่างชัดเจนทั้งในภาพรวมและในรายละเอียด รวมถึงคำให้การจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นลักษณะทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นเท็จ แม้จะเป็นกระบวนการที่บริฌิตต์จะต้องเผชิญต่อหน้าสาธารณชนอย่างเปิดเผย แต่เธอก็ยินดีที่จะทำ เธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้เรื่องนี้กระจ่าง สำหรับประเด็นเรื่องบริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ถูกเผยแพร่ครั้งแรกตามสื่อออนไลน์ของฝ่ายขวาและกลุ่มต่อต้านวัคซีนในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2021 ต่อมา แคนแดซ โอเวนส์ อดีตนักวิจารณ์ของเดลี่ไวร์ (Daily Wire) สำนักข่าวสายอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียหลายล้านคน ได้เผยแพร่มุมมองของตนเองหลายครั้งว่า บริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ที่มีชื่อว่า ฌอง-มิเชล ทรอกโนซ์ (Jean-Michel Trogneux) ก่อนที่จะแปลงเพศในเวลาต่อมา ถึงขั้นอ้างว่าเธอพร้อมเดิมพันชื่อเสียงในอาชีพทั้งหมดของเธอกับข้อกล่าวหานี้ ส่งผลให้มาครงและภริยายื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ […]

ข่าวแนะนำ

ส่องความเสียหายน้ำท่วมหล่มสัก ชาวบ้านหวั่นท่วมซ้ำซาก

เพชรบูรณ์ 21 ก.ย. – แม้ว่าน้ำที่ท่วมชุมชนและย่านการค้าในเทศบาลเมืองหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ จะลดลงจนเกือบเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แต่ทิ้งความเสียหายเป็นวงกว้าง บ้านเรือนร้านค้าหลายร้อยหลังเจอน้ำท่วมซ้ำเป็นรอบที่ 2 ในช่วง 3 สัปดาห์ ทำให้ชาวบ้านกังวลหล่มสักจะกลายเป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก.-สำนักข่าวไทย

ไรเดอร์ร้องถูกชายอ้างเป็นตำรวจ ขี่รถประกบ-ข่มขู่

กทม. 21 ก.ย. – ไรเดอร์หนุ่ม สุดงง ถูกชายอ้างเป็นตำรวจสายสืบขี่รถตามประกบ ข่มขู่ดำเนินคดีเป็นไรเดอร์เถื่อน ขณะ สน.หนองแขม ยันไม่ใช่ตำรวจในสังกัด “ต๊ะ” ไรเดอร์วัย 27 ปี โพสต์คลิปบนเฟซบุ๊ก และนำมาร้องสื่อ โดยบอกว่า ชายคนนี้อ้างตัวเป็นตำรวจ ขี่รถมาประกบ และจอดขวางขณะกำลังขี่รถมาถึงปากซอยเพชรเกษม 81/5 เพื่อไปรับงานส่งลูกค้า ส่วนตอนคนที่อ้างเป็นตำรวจ เดินลงจากรถจักรยานยนต์ ก็อ้างว่าที่เรียกตรวจ เพราะเห็นว่าเป็นไรเดอร์ แต่ไม่มีกล่องใส่อาหารอยู่ท้ายรถ ซึ่งชายคนนี้ตามตัวมีครบทั้งวิทยุสื่อสาร ไฟฉาย และเสื้อที่ปักว่า “สืบ” มีอย่างเดียวที่ไม่เหมือนคือนิสัยที่ไม่เหมือนตำรวจ ทำให้ “ต๊ะ” ตัดสินใจถ่ายคลิปไว้ป้องกันตัวเอง เพราะเหตุเกิดขึ้นช่วงเที่ยงคืน หลังเกิดการโต้เถียงกัน สุดท้ายชายคนที่แอบอ้างเป็นตำรวจก็ไล่ “ต๊ะ” บอกจะไปไหนก็ไป เดี๋ยวโดนร้องเรียนเอง “ต๊ะ” จึงขี่รถกลับบ้านซึ่งอยู่ไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุ เพราะที่จะไปรับลูกค้าก็ไปไม่ได้แล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อขี่รถออกมา ชายที่อ้างตัวเป็นตำรวจยังขี่รถตามมา “ด่า” จนถึงปากซอยทางเข้าบ้าน แล้วก็ขี่รถฉีกออกไปมุ่งหน้าไปทางอ้อมใหญ่ ทำให้ “ต๊ะ” ค่อนข้างมั่นใจว่า ชายคนนี้ไม่ใช่ตำรวจ […]

“อนุทิน” ขึ้นรถอีแต๊ก ยกทัพภูมิใจไทย หาเสียงรอบตลาดภูสิงห์

ศรีสะเกษ 21 ก.ย.-“อนุทิน” ขึ้นรถอีแต๊ก ยกทัพภูมิใจไทย หาเสียงรอบตลาดภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ พร้อมขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ประเทศ มั่นใจชนะแน่ ไม่ต้องรบกวนให้ท่านช่วย ด้าน “จ๋า ธนนนท์” ภรรยา ขอสานฝันวัยเด็ก อยากเป็นนางงามขึ้นรถแห่ช่วยหาเสียง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ภายหลังจากเสร็จสิ้นการปราศรัยช่วยหาเสียงให้ นางสาวจินณ์ตวรรณ ไตรสรณกุล หรือครูอีฟ ผู้สมัคร สส.ภูมิใจไทย ในการเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5 ได้ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำอำเภอภูสิงห์ อาทิ เทพารักษ์ ศาลหลักเมืองประจำอำเภอ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ได้ขอพรอะไรกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ นายอนุทิน เผยว่า ได้ขอพรให้ประเทศไทยร่มเย็นเป็นสุข เข้มแข็ง มีแต่ชัยชนะ ประชาชนอยู่ดีกินดี จริงๆ ก็ขอแค่นี้ เมื่อถามว่าได้ขอพรให้ชนะเลือกตั้งซ่อมหรือไม่ นายอนุทิน เผยด้วยความมั่นใจว่า ภูมิใจไทยชนะ ไม่รบกวนท่าน ไม่รบกวนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ถ้าจะขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็ขอให้ประเทศไทยเข้มแข็ง ขอให้ประชาชนอยู่ดีมีสุขแค่นี้ ต่อมานายอนุทิน ได้เดินหาเสียงที่ตลาดภูสิงห์ ช่วยนางสาวจินณ์ตวรรณ […]

ทบ.ชี้ข้อมูลหลักเขตแดนที่ 42-43 เป็นไปตามกรอบ JBC

กทม. 21 ก.ย.-กองทัพบก ชี้ข้อมูลหลักเขตแดนที่ 42-43 เป็นไปตามกรอบ JBC พร้อมเรียกร้องกัมพูชาหยุดบิดเบือนความจริง และให้ชาวกัมพูชาที่รุกล้ำเขตไทยย้ายออกนอกพื้นที่ กรณีสำนักงานเลขาธิการว่าด้วยกิจการชายแดนกัมพูชา แถลงการณ์เมื่อ 21 ก.ย. 68 ว่า “พบการเผยแพร่ข้อมูลผ่านบัญชี Facebook Page ชื่อ “Royal Thai Army: Update” เมื่อ 19 กันยายน 2568 โดยใช้แผนผังที่แสดงลักษณะภูมิศาสตร์และตำแหน่งหลักเขตแดน ซึ่งเป็นบันทึกการประชุมลงวันที่ 24 พฤศจิกายน 2017 (พ.ศ. 2560) และภาคผนวกของบันทึกการประชุมลงวันที่ 28 ธันวาคม 2016 (พ.ศ. 2559) ของคณะกรรมการรังวัดร่วมกัมพูชา–ไทย ซึ่งเป็นผลจากการสำรวจหาตำแหน่งที่แท้จริงของหลักเขตแดนหมายเลข 42 และหมายเลข 43 ในพื้นที่หมู่บ้านไปรจัน โดยมีการบิดเบือนให้เข้าใจผิดไปว่า คณะผู้บริหารของสำนักงานเลขาธิการว่าด้วยกิจการพรมแดน (ฯพณฯ ลาย เซียงลี) ได้ลงนามยอมรับเส้นเขตแดนอย่างเป็นทางการในพื้นที่หมู่บ้านไปรจัน ซึ่งอยู่ระหว่างหลักเขตแดนหมายเลข 42 และหมายเลข […]