โตเกียว 30 เม.ย.- นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะของญี่ปุ่นเผยว่า จะปรึกษาผู้เชี่ยวชาญโรคติดต่อเรื่องจะขยายประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินต่อไปหรือไม่เพื่อควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ขณะที่หลายประเทศเริ่มคลายมาตรการปิดเมือง
นายกรัฐมนตรีอาเบะประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศเมื่อวันที่ 16 เมษายนให้มีผลจนถึงวันที่ 6 พฤษภาคม ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของสัปดาห์ทองช่วงวันหยุดยาวประจำปี เป็นการขอความร่วมมือจากประชาชนให้อยู่บ้านและธุรกิจให้ปิดทำการ เนื่องจากกฎหมายญี่ปุ่นไม่ให้อำนาจบังคับปิดเมือง นายกรัฐมนตรีแถลงต่อรัฐสภาในวันนี้เรื่องขยายประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินว่า ต้องการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อขอทัศนะและการวิเคราะห์ เพราะต้องการเวลาตัดสินใจจนถึงที่สุด
หนังสือพิมพ์นิกเกอิรายงานเมื่อวานนี้ว่า รัฐบาลเตรียมขยายประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศอีกหนึ่งเดือน โดยจะตัดสินใจหลังการประชุมคณะผู้เชี่ยวชาญในวันศุกร์ ขณะที่นางยูริโกะ โคอิเกะ ผู้ว่าการกรุงโตเกียวกล่าวในวันเดียวกันว่า สถานการณ์ในกรุงโตเกียวยังมีปัญหาอยู่ จึงขอให้รัฐบาลขยายประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน กรุงโตเกียวมีผู้ป่วยใหม่ 47 คนเมื่อวันพุธ ขณะที่ทั้งประเทศมีผู้ป่วยสะสม 13,929 คน เสียชีวิต 415 คน ญี่ปุ่นตรวจหาเชื้อให้ประชาชนเพียง 1.3 ต่อ 1,000 คน เทียบกับเกาหลีใต้และสหรัฐที่ตรวจได้ 12 และ 18 ต่อ 1,000 คน เจ้าหน้าที่สาธารณสุขญี่ปุ่นให้เหตุผลว่า ปฏิบัติตามแนวทางองค์การอนามัยโลก และหากขยายการตรวจจะทำให้โรงพยาบาลที่ตึงตัวอยู่ต้องดูแลผู้ป่วยอาการปานกลางอีกเป็นจำนวนมาก
ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพประชากร มหาวิทยาลัยคิงส์คอลเลจลอนดอนชี้ว่า ญี่ปุ่นควรดำเนินการเร็วกว่านี้ ปิดเมือง และจำกัดการระบาดภายในเวลาอันสั้น เพราะหากสถานการณ์ยืดเยื้อ ไม่เพียงระบบสาธารณสุขแต่เศรษฐกิจจะยิ่งสาหัสกว่านี้ ขณะที่ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์คนหนึ่งระบุว่า หากขยายประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั้งประเทศอีกหนึ่งเดือน รัฐบาลจะต้องอุดหนุนภาคธุรกิจ ส่วนเงินที่ให้ประชาชนรายละ 100,000 เยน (ราว 30,362 บาท) ก็จะไม่เพียงพอ พื้นที่ที่มีอัตราการติดเชื้อต่ำควรจะได้เดินหน้าเศรษฐกิจอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย