ซิดนีย์ 24 เม.ย.- นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสันของออสเตรเลียประกาศว่า การนำข้อมูลติดตามตัวเรื่องโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ไปใช้ในวัตถุประสงค์นอกเหนือจากเรื่องสาธารณสุขจะถือว่าผิดกฎหมาย หลังจากมีความกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้แอปพลิเคชันติดตามตัว
รัฐบาลกลางออสเตรเลียเผยว่า จะยังคงใช้มาตรการรักษาระยะห่างทางสังคมไปจนถึงกลางเดือนพฤษภาคมเป็นอย่างน้อย แม้ว่าเมื่อเทียบกับหลายประเทศแล้วยอดผู้ป่วยและเสียชีวิตไม่มาก โดยมีผู้ป่วย 6,667 คน เสียชีวิต 78 คน ส่วนการผ่อนคลายมาตรการจะขึ้นกับความเต็มใจของประชาชนในการดาวน์โหลดแอปที่จะระบุได้ว่าผู้ใดสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยโควิด-19 แอปนี้ยังไม่ได้เริ่มใช้งานแต่กลุ่มกฎหมายและกลุ่มสิทธิกังวลว่าข้อมูลแสดงตำแหน่งของผู้ใช้จากแอปในสมาร์ทโฟนอาจถูกหน่วยงานที่ไม่เกี่ยวข้องกับสาธารณสุข เช่น หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายนำไปใช้
นายกรัฐมนตรีมอร์ริสันยืนยันกับสื่อวันนี้ว่า การเปิดเผยข้อมูลให้แก่บุคคลอื่นนอกเหนือจากบุคคลที่ได้รับมอบหมายและเพื่อสนับสนุนการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ในการติดตามตัวผู้ใกล้ชิดผู้ป่วย จะถือว่าเป็นการกระทำผิดกฎหมาย พร้อมกับยืนยันข่าวของสื่อท้องถิ่นเรื่องข้อมูลจะจัดเก็บไว้ในเซิร์ฟเวอร์ของเอดับเบิลยูเอส (AWS) ในเครือแอมะซอน บริษัทอินเทอร์เน็ตยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ แต่จะเป็นการเก็บโดยเข้ารหัสประเทศ ผู้นำออสเตรเลียกล่าวถึงการระบาดของโควิด-19 ในประเทศด้วยว่าลดลงเหลือระดับชุมชนแล้ว หวังว่าจะสามารถชะลอการระบาดได้ด้วยการตรวจหาเชื้ออย่างทั่วถึง แม้แต่กับผู้ไม่มีอาการ และติดตามผู้ใกล้ชิดกับผู้ป่วย ด้านทางการระดับรัฐขอให้ประชาชนตรวจหาเชื้อโดยไม่จำเป็นต้องเข้าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ก่อนหน้านี้เรื่องใกล้ชิดผู้ป่วย กลับมาจากต่างประเทศ หรือมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่อีกต่อไป.-สำนักข่าวไทย