สวิส 12 มี.ค.- องค์การอนามัยโลกประกาศอย่างเป็นทางการให้โควิด-19 เป็นโรคที่แพร่ระบาดไปทั่วโลก ขณะที่ผู้นำสหรัฐสั่งปิดประตูรับนักเดินทางจากยุโรปเป็นเวลา 30 วัน เพื่อปกป้องชาวอเมริกันจากการติดเชื้อ
ตัวเลขผู้ที่ติดเชื้อโรคโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นกว่า 120,000 คน และเสียชีวิตอีกกว่า 4,600 คนทั่วโลก ส่งผลให้องค์การอนามัยโลก หรือดับเบิลยูเอชโอ ต้องตัดสินใจประกาศอย่างเป็นทางการให้โรคนี้เป็นโรคระบาดที่กำลังคุกคามประเทศต่างๆ ทั่วโลก อย่างไรก็ดี นายเทดรอส อัดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก ระบุว่า ประเทศต่างๆ ยังสามารถหยุดยั้งการแพร่ระบาดได้ หากมีการตรวจสอบ ทดสอบ บำบัด ติดตาม และมีการรับมือโรคนี้อย่างเข้มงวด
ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญ ระบุว่า การประกาศอย่างเป็นการว่า โควิด-19 เป็นโรคระบาดไปทั่วโลก เป็นการส่งสัญญาณให้รัฐบาลทั่วโลก บังคับใช้แผนรับมือต่างๆที่เตรียมไว้และใช้มาตรการฉุกเฉินเพื่อปกป้องประชาชนในประเทศของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกฎระเบียบที่เข้มงวดด้านการเดินทางและการค้าระหว่างประเทศ
ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ได้ประกาศมาตรการใหม่เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ด้วยการสั่งระงับรับนักเดินทางจากยุโรปเข้าประเทศเป็นเวลา 30 วัน โดยมีผลบังคับใช้ในเวลาเที่ยงคืนของวันศุกร์นี้ตามเวลาท้องถิ่น อย่างไรก็ดี มาตรการดังกล่าวไม่รวมถึงนักเดินทางจากประเทศอังกฤษ
ส่วนชาวอเมริกัน หรือผู้ที่พำนักถาวรในสหรัฐ ยังคงเดินทางจากประเทศยุโรปเข้าสหรัฐได้ตามปกติ แต่จะต้องถูกกักบริเวณหรือห้ามเดินทางไปไหนมาไหนเป็นเวลา 14 วันเพื่อดูอาการ ทรัมป์ระบุด้วยว่าคำสั่งล่าสุดของเขานี้ มีผลกับนักเดินทางจากยุโรปเท่านั้น ไม่เกี่ยวข้องกับสินค้าต่างๆ ที่ส่งจากยุโรปมายังสหรัฐ
นอกจากนี้ รัฐบาลสหรัฐจะให้ความช่วยเหลือด้านเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำกับธุรกิจขนาดย่อมที่อยู่ในรัฐหรือดินแดนของสหรัฐที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่อีกด้วย
ล่าสุด สหรัฐมียอดผู้ติดเชื้อในประเทศ เพิ่มขึ้นเป็น 1,327 คนแล้ว และมีผู้เสียชีวิตอีก 38 คน.-สำนักข่าวไทย