30 พ.ค. – รอง ผอ.ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ฯ เตือนเฝ้าระวังเป็นพิเศษเมืองท่องเที่ยวและพื้นที่ที่มีนิสิต-นักศึกษาอยู่รวมกันจำนวนมาก หลังพบยอดติดเชื้อ “HIV-ซิฟิลิส-หนองในแท้-หนองในเทียม” พุ่งสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น
รศ.นพ.โอภาส พุทธเจริญ รองผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคเอดส์และโรคติดเชื้อ สภากาชาดไทย เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อ HIV และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น ซิฟิลิส หนองในแท้ หนองในเทียม ที่ในช่วง 2 ปีมานี้ พบมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง น่าเป็นห่วง โดยเฉพาะการติดเชื้อ HIV ที่พบในกลุ่มอายุน้อยลงเรื่อยๆ วัยรุ่นช่วงอายุ 20-25 ปี พบมากถึง13% และในกลุ่มอายุ 40 ปีขึ้นไป ในจำนวนนี้ครึ่งหนึ่งเป็นกลุ่มชายรักชาย และมีจำนวนไม่น้อยที่ติดทั้งเชื้อ HIV และติดโรคทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ เช่น ซิฟิลิส และหนองในร่วมด้วย สาเหตุสำคัญที่ทำให้อัตราติดเชื้อสูงขึ้นมาจากการขาดการยับยั้งชั่งใจ รักสนุก มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน ขาดความรู้วิธีป้องกันที่ถูกต้อง เข้าไม่ถึงบริการตรวจคัดกรอง และมีการใช้ยาเสพติดที่กระตุ้นให้มีเพศสัมพันธ์มากขึ้น
ส่วนซิฟิลิส แม้จะเป็นโรคที่ป้องกันและรักษาให้หายขาดได้ แต่ก็น่าห่วงมากขึ้นเช่นกัน เนื่องจากระยะหลังมานี้ พบการติดเชื้อซิฟิลิสในหญิงตั้งครรภ์แพร่เชื้อไปสู่ลูกมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เกิดการติดเชื้อซิฟิลิสแต่กำเนิด มีโอกาสพิการได้
ทั้งนี้ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น ซิฟิลิส หนองในแท้ หนองในเทียม ผู้ที่ติดเชื้อ 30-40% ไม่แสดงอาการ ไม่รู้ว่าตัวเองติดเชื้อ จึงแพร่ไปสู่คนอื่นๆ ได้ง่าย ส่วนคนที่มีอาการ ซึ่งพบได้ราว 50-60% หนองในแท้ หนองในเทียม จะมีอาการปัสสาวะขุ่น ปัสสาวะแสบขัด มีหนองไหลออกจากท่อปัสสาวะ และมีตกขาวในผู้หญิง ส่วนซิฟิลิสจะมีไข้ ผื่นขึ้น และผมร่วง โดยหากพบอาการเหล่านี้ หรือรู้ว่าตัวเองมีความเสี่ยง ควรรีบเข้าสู่กระบวนการตรวจคัดกรอง หากยืนยันติดเชื้อจะได้รักษาอย่างทันท่วงที และไม่แพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่น พร้อมย้ำทางที่ดีควรมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย สวมถุงยางอนามัย กินยา และฉีดวัคซีนป้องกันตั้งแต่ก่อนทำกิจกรรมเสี่ยง
พร้อมย้ำพื้นที่ที่ควรเฝ้าระวังการติดเชื้อโรคทางเพศสัมพันธ์เป็นพิเศษ คือในเมืองใหญ่ที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ในเขตที่มีนิสิต-นักศึกษาเยอะ และพื้นที่ที่มีการรวมตัวจัดกิจกรรม
สำหรับยอดผู้เข้ารับบริการตรวจคัดกรองโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในคลินิกนิรนามในช่วง 6 เดือนมานี้ พบว่าซิฟิลิส มีผู้เข้ารับบริการมากถึง 11,323 ครั้ง ติดเชื้อ 940 ครั้ง, หนองในแท้ เข้ารับบริการ 2,500 ครั้ง ติดเชื้อ 473 ครั้ง, หนองในเทียม มีผู้รับบริการ 2,154 ครั้ง ติดชื้อ 245 ครั้ง
ขณะที่ HIV มีผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 441 คน พบมากสุดในกลุ่มอายุ 30-40 ปี จำนวน 99 คน รองลงมากลุ่มอายุ 25-29 ปี จำนวน 88 คน, อายุ 35-39 ปี 63 คน, อายุ 20-24 ปี 56 คน และกลุ่มวัยรุ่นอายุ 15-19 ปี 8 คน ซึ่งคิดเป็น 2% ของผู้ติดเชื้อทั้งหมด ถือว่าเป็นสัญญาณที่ควรเฝ้าระวัง ส่วนกลุ่มอายุ 20-39 ปี คิดเป็น 70% ของผู้ติดเชื้อทั้งหมด.-สำนักข่าวไทย