เตือนอาเซียนเสี่ยงสับสนระหว่างโควิด-19 กับไข้เลือดออก

ลอนดอน 11 มี.ค.- ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า การที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีโรคไข้เลือดออกระบาดพร้อมกับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ทำให้มีโอกาสที่เจ้าหน้าที่จะตรวจผิดพลาดเนื่องจากอาการของทั้งสองโรคมีความใกล้เคียงกัน 


วารสารแลนเซ็ตเผยแพร่รายงานของคณะผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมในสิงคโปร์เมื่อวันที่ 4 มีนาคมว่า การแยกความแตกต่างระหว่างโรคไข้เลือดออกและโรคโควิด-19 เป็นเรื่องที่ทำได้ยาก เพราะทั้งสองโรคมีลักษณะทางคลินิกและห้องทดลองปฏิบัติการคล้ายกัน หากผลตรวจไข้เลือดออกเป็นบวกแพทย์ก็มักสรุปก่อนว่าเป็นไข้เลือดออก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากผู้ป่วยอยู่ในพื้นที่ที่ไข้เลือดออกระบาด ดังนั้นการมีชุดตรวจไวรัสโคโรนาที่เชื่อถือได้ พร้อมใช้ และราคาไม่แพงทั่วถึงทั้งภูมิภาคจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งเพื่อให้ได้ผลตรวจที่แม่นยำ อันจะเป็นการปกป้องประชาชนในวงกว้าง

รายงานยกตัวอย่างชาวสิงคโปร์สองคนที่พบเชื้อไข้เลือดออกจากการตรวจทางเซรุ่มวิทยาอย่างรวดเร็ว แต่หลังจากนั้นพบว่าติดเชื้อไวรัสที่ทำให้เป็นโรคโควิด-19 ทั้งคู่ไม่ได้เดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยงแต่มีอาการไข้และไอ ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า โรคที่เกิดจากไวรัสทุกอย่างมีความคล้ายกันมาก เช่น อาการปวดเมื่อยเนื้อตัวที่พบได้ทั้งผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ ไข้เลือดออก ไข้ซิกา หรือไข้ชิคุนกุนยา ด้านองค์การอนามัยโลกยืนยันว่า ไวรัสไข้เลือดออกและไวรัสโคโรนาโควิด-19 แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แม้อาการเบื้องต้นคล้ายกัน แต่จะแยกแยะได้เมื่อมีการดำเนินโรค แพทย์จะเป็นผู้ตัดสินใจสั่งตรวจตามข้อมูลทางการแพทย์และข้อมูลอื่น ๆ ของผู้ป่วย 


สำหรับสถานการณ์โรคโควิด-19 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในขณะนี้ สิงคโปร์พบผู้ป่วย 166 คน มาเลเซีย 129 คน ไทย 53 คน เสียชีวิต 1 คน ฟิลิปปินส์ 35 คน เสียชีวิต 1 คน เวียดนาม 34 คน อินโดนีเซีย 19 คน บรูไน 6 คน กัมพูชา 2 คน ขณะที่สถานการณ์ไข้เลือดออกเมื่อปีก่อนในภูมิภาคนี้ ฟิลิปปินส์มีผู้ป่วย 403,000 คน อินโดนีเซีย 110,000 คน ไทย 106,000 คนในช่วง 8 เดือนแรก สปป.ลาว 38,000 คน ส่วนสิงคโปร์พบผู้ป่วยมากเป็นประวัติการณ์ถึง 1,723 คนในช่วง 5 สัปดาห์แรกของปีนี้.- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ชาวนครฯ ฝ่าสายฝนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง นายก อบจ.

ชาวนครศรีธรรมราช ฝ่าสายฝนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง นายก อบจ.ต่อเนื่อง หลังเจ้าหน้าที่ประจำหน่วย เปิดให้มีการลงคะแนน

เปิดหีบเลือกตั้ง “นายก อบจ.อุดรธานี” ปชช.ทยอยใช้สิทธิ

ชาวอุดรธานีทยอยใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ. ต่อเนื่อง ด้านเลขาธิการ กกต. เผยคืนหมาหอน ทั้งที่อุดรธานี เพชรบุรี และนครศรีธรรมราช ยังไม่พบการทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนอุณหภูมิสูงขึ้น-ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนอุณหภูมิสูงขึ้น เตือนภาคใต้ตอนล่างฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก