87 ประเทศและเขตห้ามคนจากเกาหลีใต้เข้า

โซล 3 มี.ค.- จนถึงขณะนี้มี 87 ประเทศและเขตห้ามคนเดินทางจากเกาหลีใต้เข้า เพราะโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ระบาด ขณะที่ประธานาธิบดีมุน แจอินของเกาหลีใต้ประกาศทำสงครามกับโรคนี้ เนื่องจากมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็น 4,812 คน เสียชีวิต 28 คน 


กระทรวงต่างประเทศเกาหลีใต้แถลงว่า นับจนถึงเวลา 09.00 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลา 07.00 น.วันนี้ตามเวลาในไทย มี 36 ประเทศและเขตประกาศห้ามเข้ากับผู้ที่อยู่ในเกาหลีใต้ช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา จากเดิมที่มี 51 ประเทศและเขตกำหนดกักดูอาการกับผู้เดินทางมาจากเกาหลีใต้ มัลดีฟส์ประกาศวันนี้ห้ามเข้าเฉพาะผู้ที่เคยไปเมืองแทกู ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเกาหลีใต้และพื้นที่โดยรอบเพราะเป็นจุดที่มีการระบาด เมืองและมณฑลในจีนที่กักดูอาการกับผู้เดินทางมาจากเกาหลีใต้ลดลงหนึ่งแห่งเหลือ 13 แห่ง อังกฤษขอให้ผู้เดินทางมาจากเกาหลีใต้ช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมากักตัวเองหากมีอาการป่วย จากเดิมที่จำกัดเฉพาะเมืองแทกูและเทศมณฑลชองโดที่อยู่ติดกัน รัสเซียขอให้ทั้งชาวรัสเซียและชาวต่างชาติที่โดยสารเครื่องบินจากเกาหลีใต้มากรุงมอสโกกักตัวเอง 14 วัน ส่วนสหรัฐยังไม่จำกัดใด ๆ แต่ผู้โดยสารเครื่องบินที่จะเข้าสหรัฐต้องตรวจวัดไข้ก่อนขึ้นเครื่องบิน

ขณะเดียวกันประธานาธิบดีมุนกล่าวในการประชุมคณะรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่สวมหน้ากากอนามัยกันทุกคนในวันนี้ว่า วิกฤตในเมืองแทกูและจังหวัดคยองซังเหนือถึงจุดสูงสุดแล้ว ทั้งประเทศกำลังทำสงครามกับโรคติดเชื้อนี้ ขอให้หน่วยงานรัฐบาลทุกแห่งทำงานตลอด 24 ชั่วโมงเพราะต้องเพิ่มความเตรียมพร้อมในการกักดูอาการและดำเนินมาตรการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ  


นายคิม กังลิป รัฐมนตรีช่วยสาธารณสุขบอกกกับสื่อว่า ทางการเสร็จสิ้นการตรวจหาเชื้อไวรัสกับสาวกลัทธิชินชอนจีที่แสดงอาการป่วยแล้ว และจะขยายการตรวจกับคนทั่วไปในเมืองแทกู เพราะพบว่านอกจากผู้ป่วยในเมืองแทกู 2,300 คน โยงกับลัทธินี้แล้ว ผลการตรวจชาวเมืองทั่วไปแล้ว 11,000 คนก็พบผู้ติดเชื้อ 1,300 คน นายคิมระบุว่า ผู้ป่วยในเมืองแทกูที่ไม่เกี่ยวข้องกับลัทธิชินชอนจีมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ บ่งชี้ว่าเกิดการแพร่เชื้อในชุมชนแล้ว รัฐบาลจะเพิ่มสถานที่กักตรวจในเมืองแทกูภายในต้นสัปดาห์หน้าเพื่อให้สามารถรองรับผู้ป่วยมากถึง 2,000 คน ขณะเดียวกันยังพบผู้ป่วยแบบไม่รู้ที่มาในพื้นที่อื่นเพิ่มขึ้นด้วย.- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนบุกจับนายช่างโยธา เรียกรับเงิน 4 แสน

ตำรวจ ปปป. บุกจับนายช่างโยธาปฏิบัติงาน ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 400,000 บาท

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม