จีนเพิ่มมาตรการรับมือไวรัสโคโรนา ยอดตายพุ่งเป็น 106 ติดเชื้อ 4,193 ราย

จีน 28 ม.ค.- จีนเพิ่มมาตรการรับมือไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ระบาด ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตยังพุ่งไม่หยุด ล่าสุดเป็น 106 คนแล้ว ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น 4,193 คน หลายประเทศเริ่มอพยพคนของตนออกจากจีน ภายใต้การอนุญาตจากรัฐบาลจีน คาดเร็วที่สุดเริ่มได้กลางสัปดาห์นี้


จำนวนผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ยังพุ่งไม่หยุด ล่าสุด พีเพิลเดลี่ ไชน่า รายงานว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในจีนเป็น 106 คน ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น 4,193 คนแล้ว สำหรับยอดผู้ติดเชื้อในต่างประเทศ ไทย 8 ราย ญี่ปุ่น 4 ราย เกาหลีใต้ 4 ราย สหรัฐ 5 ราย เวียดนาม 2 ราย สิงคโปร์ 5 ราย มาเลเซีย 4 ราย เนปาล 1 ราย ฝรั่งเศส 3 ราย ออสเตรเลีย 5 ราย แคนาดา 1 ราย เยอรมนี 1 ราย และกัมพูชา 1 ราย แต่ในต่างประเทศยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต


ทางการจีนดำเนินมาตรการเข้มงวดป้องกันการแพร่ระบาด สั่งเพิ่มวันหยุดในเทศกาลตรุษจีนแก่บริษัทห้างร้านต่างๆ ไปอีก 3 วัน ถึงวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ยกเว้นด้านสาธารณูปโภค นายโจว เซียนหวัง นายกเทศมนตรีเมืองอู่ฮั่น ยอมรับว่า ไม่อาจให้ข้อมูลประชาชนได้ทันเวลาในขณะไวรัสเริ่มระบาด ทำให้ไวรัสแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว

ด้านนายเทโดรส แอดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก เดินทางถึงยังกรุงปักกิ่ง และเปิดประชุมหารือกับรัฐบาลจีนและผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัส เพื่อหาทางควบคุมการแพร่ระบาดอย่างเต็มที่ หลังผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสเชื่อว่ายังมีผู้ต้องสงสัยว่าจะติดเชื้ออีกเป็นจำนวนมากซึ่งยังไม่อาจประเมินได้ เนื่องจากยังไม่แสดงอาการ


ศาสตราจารย์นีล เฟอร์กูสัน ผู้เชี่ยวชาญแห่งวิทยาลัยอิมพีเรียล ในกรุงลอนดอน กล่าวว่า หากจะให้ประเมินแล้วเชื่อว่าจำนวนผู้ติดเชื้อน่าจะเกิน 100,000 คน ขณะที่คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮ่องกง คาดว่ามีผู้ติดเชื้อราว 43,000 คน และยังเชื่อว่าในแต่ละวันจะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มวันละนับหมื่นคน หากทางการจีนไม่เข้าไปหาทางยุติการแพร่ระบาด

เชื้อไวรัสนี้ ผู้ติดเชื้อจะมีอาการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจชนิดเฉียบพลัน และปัจจุบันนี้ยังไม่มียารักษาและวัคซีนป้องกัน ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ซึ่งมีปัญหาด้านระบบทางเดินหายใจอยู่ก่อนแล้ว 

สำหรับที่เมืองอู่ฮันนี้ ทางการจีนยืนยันว่า ในระยะ 4 วันที่ผ่านมานี้ ไม่มีชาวอู่ฮั่นออกมาจากเมืองแม้แต่คนเดียว ขณะที่ชาวอู่ฮั่นที่ไปท่องเที่ยวยังต่างประเทศราว 4,000 คนนั้น ยังไม่กลับบ้าน และผู้มาฉลองตรุษจีนที่อู่ฮั่นกว่า 5 ล้านคน ออกไปจากอู่ฮั่นก่อนมีคำสั่งปิดเมืองแล้ว

ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า ฝรั่งเศสเริ่มอพยพชาวฝรั่งเศสออกจากเมืองอู่ฮั่นแล้ว ภายใต้การอนุญาตของรัฐบาลจีน โดยจะเริ่มอพยพราวกลางสัปดาห์นี้ ขณะที่สหรัฐก็เริ่มวางแผนอพยพคนของตนเช่นเดียวกัน ล่าสุด มีรายงานว่าพบผู้ติดเชื้อรายแรกในกัมพูชาแล้ว เป็นชาวจีนที่เพิ่งเดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่น มายังเมืองสีหนุวิลล์เมื่อต้นเดือนนี้ 

ส่วนที่อินเดียก็พบผู้ต้องสงสัยติดเชื้ออีก 6 คน ส่งผลให้ทางการอินเดียต้องเร่งคัดกรองผู้โดยสารที่สนามบินทุกแห่งอย่างเต็มที่ ที่รัสเซีย บริษัททัวร์ต่างๆ ที่ขายทัวร์ไปเที่ยวเมืองจีน ระงับทัวร์โดยสิ้นเชิง แม้จะยังไม่มีผู้ต้องสงสัยติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในรัสเซียแม้แต่คนเดียวก็ตาม ทางการรัสเซียกำลังเจรจากับรัฐบาลจีนเพื่ออพยพชาวรัสเซียราว 140 คน ออกจากเมืองอู่ฮั่นและมณฑลหูเป่ย์แล้ว

จีนเร่งสร้างโรงพยาบาลเคลื่อนที่รับมือผู้ป่วย

ส่วนการก่อสร้างโรงพยาบาลเคลื่อนที่ “อู่ฮั่น หัวเฉินซาน” ขนาด 1,000 เตียง บนเนื้อที่ 25,000 ตารางเมตร ในย่านใจกลางเมืองอู่ฮั่น มีรายงานว่า กำลังดำเนินไปอย่างรีบเร่ง โดยทีมงานวิศวกรผู้ควบคุมงาน และคนงานก่อสร้างภาคสนาม ผลัดเปลี่ยนเวรเข้าทำงานตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้เสร็จทันเวลาที่กำหนดไว้ภายใน 10 วัน ตั้งแต่วันที่ 23 มกราคมที่ผ่านมา เพื่อใช้เป็นศูนย์กลางรักษาผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่กำลังแพร่ระบาด โดยทีมงานวิศวกรผู้ควบคุมงาน เผยวานนี้ (27 ม.ค.) ว่า การก่อสร้าง น่าจะแล้วเสร็จในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ และเริ่มให้การรักษาพยาบาลผู้ป่วยได้ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

บุรีรัมย์สั่งอพยพชาวบ้านเพิ่ม 3 อำเภอ

บุรีรัมย์ 27 ก.ค.-บุรีรัมย์ ประกาศให้ชาวบ้านอพยพเพิ่มอีก 3 อำเภอ หลังพื้นที่ปะทะและรัศมีอาวุธขยายไปไกลขึ้น ทั้งวัด โรงเรียน ศูนย์พักพิงชั่วคราว และ รพ.อีก 2 แห่ง ต้องอพยพผู้ป่วยด่วน เหลือเพียงหน่วยรับผู้ป่วยฉุกเฉิน ช่วงเวลาบ่าย 2-3 โมง เมื่อวานนี้ ในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ มีเสียงปืน เสียงระเบิดดังเป็นระยะ และมีกระสุนปืนใหญ่ ตกในพื้นที่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ จึงประกาศให้ชาวบ้านในพื้นที่ 3 อำเภอ คือ อ.ละหานทราย อ.เฉลิมพระเกียรติ และ อ.โนนดินแดง อพยพไปอยู่ตามบ้านญาติ หรือศูนย์พักพิงที่ห่างไกลจากรัศมีวิถีกระสุนปืนใหญ่ และอาวุธหนัก บางครัวเรือนก็มีลูกหลานมารับออกไปแล้ว ส่วนชาวบ้านที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว ทางเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน ก็ได้จัดรถไปช่วยอพยพชาวบ้านออกจากพื้นที่ด้วย ด้าน โรงพยาบาลในพื้นที่ 2 แห่ง คือ รพ.ละหานทราย และ รพ.เฉลิมพระเกียรติ ก็มีการอพยพผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาลเช่นกัน รวมถึงให้แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ถอนกำลังออกจากพื้นที่ เหลือไว้แค่หน่วยที่จะรับผู้ป่วยฉุกเฉิน […]

Trump says he is seeking a ceasefire between Thailand, Cambodia

“ทรัมป์” โยงเรื่องการค้ากับหยุดยิงไทย-กัมพูชา

เอดินบะระ 27 ก.ค.-  ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ พูดคุยกับผู้นำของทางการไทยและกัมพูชา โดยโยงเรื่องการเจรจาทางการค้ากับสหรัฐกับเรื่องหยุดยิงของทั้ง 2 ประเทศ ด้านนายกรัฐมนตรีมาเลเซียจะผลักดันข้อเสนอหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชา ในระหว่างการเยือนสกอตแลนด์เมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ประธานาธิบดีทรัมป์ได้โพสต์ในทรูธโซเชียลที่เป็นสื่อสังคมออนไลน์ของเขาเกี่ยวกับสถานการณ์ไทยและกัมพูชา 3 โพสต์ติดต่อกัน โพสต์แรกระบุว่า ได้หารือทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรี มาเนตกัมพูชาและนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษานายกรัฐมนตรีของไทย เรื่องการหยุดยิงและยุติสงครามที่กำลังดำเนินอยู่ สหรัฐซึ่งกำลังหารือทางการค้ากับทั้ง 2 ประเทศอยู่ในขณะนี้ไม่ต้องการทำข้อตกลงกับประเทศใดประเทศหนึ่งหากยังมีการสู้รบกันอยู่ กัมพูชาจะแสดงท่าทีเรื่องหยุดยิงหลังจากที่เขาได้คำตอบจากไทยในเรื่องนี้ นายทรัมป์ระบุด้วยว่า สถานการณ์ระหว่างไทยกับกัมพูชาทำให้เขานึกถึงสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างปากีสถานกับอินเดียที่ได้รับการยับยั้งเป็นผลสำเร็จ หลังจากนั้นราว 1 ชั่วโมง ประธานาธิบดีทรัมได้โพสต์ข้อความใหม่ว่า ได้สนทนากับรักษาการนายกรัฐมนตรีของไทย ฝ่ายไทยต้องการหยุดยิงและสันติภาพเช่นเดียวกับกัมพูชา และหลังจากนั้นไม่นานผู้นำสหรัฐโพสต์ข้อความที่ 3 ว่า เพิ่งเสร็จสิ้นการสนทนากับนายกรัฐมนตรีกัมพูชาและแจ้งเรื่องที่ได้หารือกับทางการไทย ทั้ง 2 ฝ่ายต้องการหยุดยิงและสันติภาพ และต้องการกลับมาเจรจาทางการค้ากับสหรัฐ โดยตกลงจะพบหารือและหาทางหยุดยิงโดยทันที ด้านนายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิมของมาเลเซีย เปิดเผยกับสื่อที่เมืองปุตราจายาเมื่อวานนี้ว่า จะเดินหน้าผลักดันข้อเสนอหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชา ซึ่งยังคงมีการยิงปะทะกันอยู่ เขาได้ขอให้รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของมาเลเซียประสานงานกับรัฐมนตรีต่างประเทศของไทยและกัมพูชา และหากเป็นไปได้ เขาจะเข้าไปประสานงานด้วยตัวเองเพื่อหยุดยั้งการสู้รบ รอยเตอร์รายงานว่า กัมพูชาสนับสนุนข้อเสนอของนายอันวาร์ ส่วนไทยระบุว่า เห็นชอบในหลักการ.-820(814).-สำนักข่าวไทย

โฆษก ทบ.ลั่น หยุดยิงไม่ได้ “กัมพูชา” เปิดฉากยิงทหารไทยแต่เช้าตรู่

กทม. 27 ก.ค.-โฆษก ทบ.ลั่น หยุดยิงไม่ได้ กัมพูชาโจมตีทหารไทยแต่เช้าตรู่ หลัง “ทรัมป์” ขอให้หยุดยิง พบบ้านเรือนประชาชนเสียหายจากจรวดBM-21 เมื่อวันที่ 27 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณี โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ หารือ นายกฯ กัมพูชา และนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกฯ หากไม่หยุดยิงจะไม่เจรจาเรื่องภาษีสหรัฐนั้น ว่า กัมพูชายังไม่หยุดยิง และยังตอบโต้มาอยู่ตั้งแต่เช้าตรู่ของวันนี้ มีจรวดตกนอกเขตปฏิบัติการทางทหารในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ เมื่อเวลา 04.30 น. ทหารกัมพูชาได้เปิดฉากยิงทหารไทย ด้วยเครื่องยิงจรวดบีเอ็ม-21 แต่ด้วยเป้าหมายของทางกัมพูชาไม่ใช่พื้นที่ทางทหาร แต่เป็นบ้านเรือนประชาชน รวมถึงสถานพยาบาล และชุมชน โดยเมื่อ เวลา 06.30 น. กระสุนปืนใหญ่ (ไม่ทราบชนิด) ตกบริเวณพื้นที่ บ้านตาโสร์ ม.10 ต.บ้านพลวง อ.ปราสาท จ.สรินทร์ […]

“ภูมิธรรม” เผยเห็นชอบข้อเสนอ “ทรัมป์” แต่กัมพูชาต้องจริงใจหยุดยิง

กรุงเทพฯ 27 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เผยคุย “ทรัมป์” เห็นชอบข้อเสนอหยุดยิง แต่ต้องการเห็นความตั้งใจจริงของกัมพูชาและเร่งหารือทวิภาคี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านfacebook Phumtham Wechayachai เมื่อคืนวานนี้ (27 ก.ค.) ว่า ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้เสนอให้ประเทศไทยและกัมพูชาดำเนินการหยุดยิงโดยทันที เพื่อยุติความขัดแย้งที่กำลังเกิดขึ้นบริเวณชายแดน ฝ่ายไทยได้แสดงความขอบคุณต่อความห่วงใยและความปรารถนาดีจากสหรัฐฯ พร้อมยืนยันว่า “ในหลักการ ฝ่ายไทยเห็นชอบต่อการหยุดยิง” อย่างไรก็ดี ไทยยังต้องการเห็น “ความตั้งใจจริงของฝ่ายกัมพูชาในเรื่องดังกล่าว” ไทยจึงได้ขอให้สหรัฐฯ ช่วยถ่ายทอดจุดยืนนี้ไปยังกัมพูชา โดยเสนอให้มีการหารือแบบทวิภาคีโดยเร็วที่สุด และให้กัมพูชาแสดงความจริงจังและจริงใจ เพื่อกำหนดมาตรการและกระบวนการที่ชัดเจนในการหยุดยิง ซึ่งจะนำไปสู่การยุติข้อพิพาทอย่างสันติและยั่งยืนในระยะยาว การเจรจาดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางความพยายามของนานาชาติในการไกล่เกลี่ยความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนทั้งสองประเทศอย่างรุนแรงในช่วงที่ผ่านมา สำหรับข้อความที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Phumtham Wechayachai ระบุว่า “เมื่อครู่ที่ผ่านมา ผมได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้เสนอให้ประเทศไทยและกัมพูชาดำเนินการหยุดยิงโดยทันที ผมได้กล่าวขอบคุณต่อความห่วงใยและความปรารถนาดีของฝ่ายสหรัฐฯ และยืนยันว่า […]