วอชิงตัน 12 ม.ค.- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐแสดงความสนับสนุนผู้ประท้วงชาวอิหร่าน และเตือนรัฐบาลอิหร่านอย่าสังหารหมู่ครั้งใหม่ หลังจากประชาชนประท้วงเรื่องกองทัพยิงเครื่องบินยูเครนตก
ประธานาธิบดีทรัมป์ทวีตสองข้อความเป็นภาษาอังกฤษและภาษาฟาร์ซีหรือภาษาเปอร์เซียที่ใช้ในอิหร่าน ข้อความแรกทวีตว่า ถึงชาวอิหร่านที่กล้าหาญและทนทุกข์มานาน เขาอยู่ข้างชาวอิหร่านตั้งแต่ขึ้นเป็นประธานาธิบดี รัฐบาลของเขาจะอยู่ข้างชาวอิหร่านต่อไป ขณะนี้กำลังติดตามการประท้วงของชาวอิหร่านอย่างใกล้ชิดและได้รับแรงบันดาลใจจากความกล้าหาญของชาวอิหร่าน ข้อความหลังทวีตว่า รัฐบาลอิหร่านจะต้องอนุญาตให้กลุ่มสิทธิมนุษยชนสังเกตการณ์และรายงานข้อเท็จจริงจากจุดที่ชาวอิหร่านกำลังประท้วงอยู่ ห้ามสังหารหมู่ผู้ประท้วงอย่างสันติครั้งใหม่หรือตัดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ทั้งโลกกำลังจับตาดูอยู่
ชาวอิหร่านประท้วงในหลายเมืองทั่วประเทศเมื่อวานนี้หลังจากกองทัพยอมรับว่า ยิงเครื่องบินสายการบินยูเครนอินเตอร์เนชันนัลแอร์ไลน์ตกเมื่อวันที่ 8 มกราคมโดยไม่เจตนา และในการชุมนุมของกลุ่มนักศึกษาแห่งหนึ่ง ทางการอิหร่านได้ควบคุมตัวนายร็อบ แมคแคร์ เอกอัครราชทูตอังกฤษไว้ชั่วขณะเพราะเข้าร่วมการประท้วง อังกฤษแถลงตำหนิอิหร่านว่า จับกุมเอกอัครราชทูตโดยไร้เหตุผลหรือคำอธิบาย ถือว่าละเมิดกฎหมายสากล สื่ออิหร่านรายงานว่า นายแมคแคร์แสดงพฤติกรรมยั่วยุ เจ้าหน้าที่ปล่อยตัวเขาหลังควบคุมไว้ไม่กี่ชั่วโมง และจะได้ออกหมายเรียกในวันนี้ ขณะที่นักศึกษาตะโกนต่อต้านรัฐบาลและฉีกรูป พล.ต.กาเซ็ม โซไลมานี นายทหารทรงอิทธิพลที่ถูกสหรัฐสังหารในอิรักเมื่อวันที่ 3 มกราคม อันเป็นชนวนเหตุให้อิหร่านยิงขีปนาวุธถล่มที่ตั้งทหารอเมริกันในอิรัก และเกิดความผิดพลาดยิงเครื่องบินยูเครนตกเสียชีวิตทั้งลำ 176 คน
ผู้บังคับการการบิน กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่านแถลงแสดงความรับผิดชอบทั้งหมดต่อเหตุยิงเครื่องบินยูเครน และอธิบายว่าผู้ควบคุมขีปนาวุธเข้าใจผิดว่าเครื่องบินโบอิง 737 เป็นขีปนาวุธนำวิถี ขณะนั้นระบบสื่อสารขัดข้อง จึงตัดสินใจโดยไม่ได้ขออนุญาตจากผู้บังคับบัญชา เพราะมีเวลาเพียง 10 วินาทีว่าจะยิงสกัดหรือไม่ และตัดสินใจผิด ประธานาธิบดีฮัสซัน โรว์ฮานีของอิหร่านเผยว่า เหตุสังหาร พล.ต.โซไลมานีทำให้อิหร่านอยู่ในภาวะเตรียมพร้อมรับมือการโจมตีจากสหรัฐ เขาได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินทุกมาตรการที่จำเป็นเพื่อชดเชยครอบครัวผู้เสียชีวิตแล้ว และได้ยืนยันกับยูเครนว่า ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับหายนะทางอากาศครั้งนี้จะต้องถูกนำตัวมาลงโทษ
ทั้งนี้หลังจากกองทัพอิหร่านออกแถลงการณ์ยอมรับว่ายิงเครื่องบินยูเครนตกโดยไม่เจตนาเพราะเครื่องบินยูเครนเข้ามาใกล้ที่ตั้งของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามในช่วงที่สถานการณ์กำลังตึงเครียดสูง สายการบินยูเครนอินเตอร์เนชันนัลชี้ว่า อิหร่านควรปิดท่าอากาศยานนานาชาติอิหม่ามโคไมนีในช่วงเวลาดังกล่าว ทางการอิหร่านไม่ได้แจ้งเตือนอันตรายใด ๆ และอนุญาตให้เที่ยวบินขึ้นบินตามปกติ องค์การการบินพลเรือนอิหร่านเผยว่า เที่ยวบิน PS752 บินตามเส้นทางปกติ ไม่ได้ออกนอกเส้นทางแต่อย่างใด เหตุการณ์นี้ถือเป็นหายนะการบินพลเรือนครั้งร้ายแรงที่สุดในอิหร่าน นับจากเหตุกองทัพสหรัฐยิงเครื่องบินอิหร่านแอร์ตกเหนืออ่าวเปอร์เซียหรืออ่าวอาหรับในปี 2531 ด้วยความเข้าใจผิด เสียชีวิตหมดทั้งลำ 290 คน.-สำนักข่าวไทย