ปักกิ่ง 12 พ.ย.- ผลการสำรวจที่เผยแพร่วันนี้ระบุว่า บริษัทเยอรมันที่ดำเนินธุรกิจในจีนเกือบหนึ่งในสี่วางแผนจะย้ายธุรกิจบางส่วนหรือทั้งหมดออกจากจีน เนื่องจากต้นทุนการทำธุรกิจสูงขึ้นมาก
หอการค้าเยอรมันเผยผลสำรวจประจำปีกับบริษัทเยอรมัน 526 แห่งในจีนว่า ร้อยละ 23 ตัดสินใจแล้วหรืออยู่ระหว่างตัดสินใจว่าจะถอนกำลังการผลิตในจีน ขณะที่หนึ่งในสามเผยว่า วางแผนถอนธุรกิจในจีนออกทั้งหมด ส่วนที่เหลือจะย้ายธุรกิจและการผลิตบางส่วนไปประเทศที่มีต้นทุนต่ำกว่า เช่น อินเดีย หรือประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอเอฟพีระบุว่า ต้นทุนการทำธุรกิจในจีนสูงขึ้นเพราะจีนหาทางปรับสมดุลเศรษฐกิจจากการพึ่งพาการส่งออกและการลงทุนไปเป็นพึ่งพาการใช้จ่ายของผู้บริโภค
ผลสำรวจพบว่า ในบรรดาบริษัท 104 แห่งที่ตัดสินใจแล้วหรือกำลังตัดสินใจว่าจะย้ายออกจากจีน ร้อยละ 70 ให้เหตุผลว่าเป็นเพราะต้นทุนการผลิตโดยเฉพาะค่าจ้างแรงงานสูงขึ้น หนึ่งในสามโทษสภาพแวดล้อมของนโยบายสาธารณะว่าไม่เอื้อต่อการทำธุรกิจ และหนึ่งในสี่โทษว่าได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าจีน-สหรัฐ ผลการสำรวจเตือนว่า ความคาดหวังของธุรกิจลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบหลายปี มีบริษัทเพียงหนึ่งในสี่เท่านั้นที่คาดว่าจะทำได้ตามเป้าหมายหรือเกินเป้าหมายในปีนี้
เอกอัครราชทูตเยอรมนีประจำจีนกล่าวขณะเผยผลการสำรวจว่า การแข่งขันในจีนควรต้องมีความยุติธรรม บริษัทต่างชาติรวมทั้งเยอรมันควรได้แข่งขันอย่างเท่าเทียมกับบริษัทจีน นอกจากนี้บริษัทเยอรมันยังไม่ได้รับข้อมูลอย่างเพียงพอและไม่สามารถหาประโยชน์ทางเศรษฐกิจจากโครงการเส้นทางสายไหมในศตวรรษที่ 21 (Belt and Road Initiative) ซึ่งเป็นโครงการการลงทุนมูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 30.34 ล้านล้านบาท) ที่จีนเป็นผู้ริเริ่ม เพราะจีนเป็นผู้สนับสนุนหลักทางการเงิน และดำเนินการโดยบริษัทจีนเป็นหลัก.- สำนักข่าวไทย