ผู้บริหารฮ่องกงพูดเรื่องประท้วงและที่อยู่อาศัยในแถลงนโยบายประจำปี

ฮ่องกง 16 ต.ค.- นางแคร์รี หล่ำ ผู้บริหารฮ่องกงยกเรื่องการประท้วงและที่อยู่อาศัยขึ้นพูดในระหว่างการแถลงนโยบายประจำปีต่อสภานิติบัญญัติในวันนี้ โดยเป็นการแถลงทางวิดีโอ หลังจากถูกสมาชิกสภาฝ่ายประชาธิปไตยรบกวนจนไม่สามารถแถลงสดในห้องโถงสภาได้ 


การแถลงเริ่มเมื่อเวลา 12.17 น.วันนี้ตามเวลาฮ่องกง เร็วกว่าไทยหนึ่งชั่วโมง เธอสวมชุดสีชมพู ชุดเดียวกับที่ต้องออกจากห้องโถงสภาเช้านี้ แหล่งข่าวเผยกับหนังสือพิมพ์เซาท์ไชนามอร์นิงโพสต์ว่า เป็นการบันทึกเทปล่วงหน้าก่อนเกิดเหตุวุ่นวาย นางหล่ำเริ่มการแถลงว่า ช่วงสี่เดือนมานี้ฮ่องกงเผชิญกับความท้ายทายอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ที่ผ่านมาฮ่องกงเป็นเมืองที่ปลอดภัย แต่การประท้วงเมื่อไม่นานมานี้ได้กระทบกับชุมชนมากมาย มีการประท้วงเกิดขึ้นไม่ต่ำกว่า 400 ครั้ง มีคนบาดเจ็บกว่า 1,100 คน และมีคนถูกจับกุมกว่า 2,200 คน เธอจะไม่เบี่ยงเบนจากหลักการที่ยึดถือ เช่น หลักการหนึ่งประเทศสองระบบและสิทธิมนุษยชน แต่จะไม่ยอมให้มีการแยกฮ่องกงเป็นเอกราช หลักนิติธรรมที่เป็นคุณค่าหลักของฮ่องกงซึ่งรวมถึงระบบตุลาการที่เป็นอิสระ การปกป้องคุณค่าของฮ่องกงที่สร้างสรรค์ขึ้นโดยคณะผู้บริหาร สภานิติบัญญัติ ตุลาการ หน่วยงานสาธารณะและสื่อมวลชน 

นางหล่ำกล่าวต่อไปว่า สังคมจะเห็นด้วยว่าเหตุรุนแรงมีแต่ทำลายคุณค่าหลัก ความแข็งแกร่งและระบบของฮ่องกง ขอให้ฮ่องกงกลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว เธอจะเสนอความริเริ่ม 200 โครงการในการแถลงนโยบายประจำปีนี้และทางการจะรับฟังความเห็นของประชาชน ที่อยู่อาศัยคือเรื่องเร่งด่วนที่สุดและเป็นต้นตอของกระแสไม่พอใจในสังคม เธอจะเพิ่มจำนวนที่พักชั่วคราวให้แก่ผู้ที่รอคิวการเคหะของทางการด้วยการสร้างที่พักใหม่จำนวน 10,000 หน่วยภายในสามปีและเพิ่มงบประมาณระดมทุกฝ่ายมาสร้างที่พักบนที่ดินว่างของทางการหรือที่ดินเช่าจากเอกชน รวมทั้งจะขยายเพดานเงินกู้ให้แก่ผู้ซื้อบ้านหลังแรกด้วย ส่วนเรื่องสวัสดิการสังคมและสาธารณสุข ทางการจะเดินหน้าต่อไปหลังจากความริเริ่ม 152 โครงการที่ประกาศในการแถลงนโยบายสองครั้งก่อนสำเร็จเกือบหมดแล้ว และจะขยายเงินอุดหนุนการศึกษาจากเดิมที่ให้ครั้งเดียว 2,500 ดอลลาร์ฮ่องกง (ราว 9,695 บาท) เป็นให้ทุกปี นอกจากนี้ยังจะสร้างรถไฟฟ้าเพิ่มสามสาย เพิ่มการอุดหนุนบริการเรือข้ามฟาก ลดภาระค่าเดินทางด้วยรถขนส่งมวลชน


นางหล่ำพูดถึงเศรษฐกิจฮ่องกงว่า เข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิคในไตรมาสสามของปีนี้ หลังจากหดตัวร้อยละ 0.5 ในไตรมาสสอง แต่เชื่อว่าความพยายามตลอดสองปีที่ผ่านมาช่วยให้ฮ่องกงต้านทานความท้าทายทั้งภายในและภายนอกได้ เพราะรัฐบาลได้ส่งเสริมภาคนวัตกรรมและเทคโนโลยี คว้าโอกาสในโครงการเส้นทางสายไหมศตวรรษที่ 21 และเขตเศรษฐกิจอ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า รัฐบาลจะเพิ่มโอกาสทางธุรกิจด้วยมาตรการจูงใจทางภาษี ลดขั้นตอนการขยายธุรกิจข้ามพรมแดนให้ง่ายขึ้น ดำเนินการให้คณะธุรกิจฮ่องกงและจีนแผ่นดินใหญ่ไปค้าในต่างประเทศ นางหล่ำปิดท้ายการแถลงนาน 50 นาทีว่า บรรยากาศการมองในแง่ร้ายจะต้องถูกเปลี่ยน ฮ่องกงจะต้องเดินหน้าอีกครั้ง ต้องยึดมั่นในหลักนิติธรรม หลักการหนึ่งประเทศสองระบบ ความเป็นศูนย์กลางการเงินสากล ความมีเหตุผลของชาวฮ่องกง และเมื่อยุติเหตุรุนแรงได้ สายรุ้งจะปรากฏหลังพายุผ่านพ้น เซาท์ไชนามอร์นิงโพสต์ระบุว่า การแถลงครั้งนี้มี 53 ย่อหน้าเท่านั้น สั้นที่สุดนับตั้งแต่ฮ่องกงกลับมาอยู่ภายใต้การปกครองของจีนในปี 2540.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น