เม็กซิโกซิตี 5 ก.ค.- รัฐบาลเม็กซิโกชี้ว่า มีการคบคิดทางการเมืองอยู่เบื้องหลังกรณีตำรวจรัฐบาลกลางประท้วงประธานาธิบดีอันเดรส มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์ เรื่องยุบรวมตำรวจกับกองกำลังพิทักษ์แห่งชาติที่ประกาศเปิดตัวเมื่อไม่นานมานี้
ตำรวจหลายร้อยนายปิดถนนประท้วงในกรุงเม็กซิโกซิตีช่วงสองวันที่ผ่านมา ประท้วงที่ประธานาธิบดีเปิดตัวกองกำลังพิทักษ์แห่งชาติใหม่เพื่อกวาดล้างอาชญากรรมและการทุจริตในแวดวงตำรวจ โดยกล่าวหารัฐบาลว่าต้องการลดเงินเดือนตำรวจและละเมิดรัฐธรรมนูญด้วยการนำตำรวจไปอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของกองทัพ ประธานาธิบดีโลเปซ โอบราดอร์ปฏิเสธข้อกล่าวหาและตอบโต้กลับว่า กลุ่มอำนาจมืดในแวดวงการเมืองเป็นผู้ยุยงให้ตำรวจประท้วงแต่ไม่ได้ระบุชื่อใคร ขณะที่นายอัลฟอนโซ ดูราโซ รัฐมนตรีความมั่นคงเผยว่า กลุ่มผลประโยชน์ที่พัวพันกับการทุจริตเป็นผู้อยู่เบื้องหลังและระบุชื่ออดีตประธานาธิบดีเฟลิเป คัลเดรอน เพราะมีสายสัมพันธ์กับแกนนำการประท้วง ทำให้นายคัลเดรอนท้าให้นายดูราโซหาหลักฐานมาพิสูจน์การพูดเป็นนัยอย่างขี้ขลาด ไม่เช่นนั้นก็ต้องถอนคำพูด
อย่างไรก็ดี หลังจากที่ได้เจรจากับรัฐบาล กลุ่มตำรวจที่ประท้วงยอมยุติการปิดถนนแล้ว รัฐบาลย้ำว่า การเข้าร่วมกองกำลังพิทักษ์แห่งชาติใหม่เป็นเรื่องสมัครใจ ผู้เข้าร่วมจะไม่เสียสิทธิประโยชน์หรือมีเงินเดือนลดลง ส่วนผู้ไม่อยากเข้าร่วมก็สามารถขอย้ายไปทำหน้าที่อื่นได้ ประธานาธิบดีเพิ่งเปิดตัวกองกำลังพิทักษ์แห่งชาติใหม่เมื่อวันอาทิตย์ มีกำลังพลทั้งหมด 70,000 นาย และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 150,000 นายในอีกไม่กี่เดือน ส่วนใหญ่มาจากตำรวจและทหารที่มีอยู่ในปัจจุบัน ตั้งขึ้นหวังกวาดล้างเหตุอาชญากรรมที่เพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่เป็นฝีมือแก๊งค้ายาเสพติด ปีที่แล้วเม็กซิโกเกิดคดีฆาตกรรมมากเป็นประวัติการณ์ถึง 33,500 คดี อย่างไรก็ดี กลุ่มสิทธิวิจารณ์ประธานาธิบดีที่นำทหารมาหน้าที่พลเรือนแทนตำรวจ แต่งตั้งนายพลเกษียณราชการเป็นหัวหน้ากองกำลังพิทักษ์แห่งชาติ และส่งกำลังพลในกองกำลังนี้ไปประจำการพรมแดนเพื่อยับยั้งผู้เข้าเมือง ทั้งที่ไม่ใช่ภารกิจหลัก.- สำนักข่าวไทย