สำนักข่าวไทย 4 ธ.ค. – ทั่วโลกต่างตื่นตัว “ลดขยะพลาสติก” อังกฤษ, แคนาดา, ญี่ปุ่น และไต้หวัน 4 ชาติแม่แบบ ลด-ละ-เลิก พลาสติก ทำได้จริง ไม่สร้างภาพ
“ขยะพลาสติก” ก่อปัญหาร้ายแรงต่อระบบนิเวศทางทะเลจนก่อผลกระทบต่อวิถีชีวิตมนุษย์ในระยะยาว ปล่อยให้มีมากขึ้น ยิ่งจะกระทบต่อสิ่งแวดล้อม หลายประเทศมองการณ์ไกล ผู้นำประเทศ ผู้ประกอบการ และผู้บริโภค ต่างให้ความร่วมมือ เพราะตระหนักถึงภัยร้ายแรงในอนาคตอันใกล้ ลงมือทำอย่างจริงจัง มีความเด็ดขาดด้านกฎระเบียบและกฎหมาย
สหราชอาณาจักร มีการเก็บภาษีถุงพลาสติก (Tax on plastic bag) จากลูกค้าในซูเปอร์มาร์เก็ตโดยห้ามร้านค้าจ่ายภาษีแทนให้ลูกค้า (pay tax on cost behalf) ซึ่งห้างเทสโก้ ตอบรับมาตรการดังกล่าว นอกจากนี้ มีการรณรงค์ “a plastic bag free month” เพื่อลดปริมาณการใช้ถุงพลาสติก และเจ้าหน้าที่ร้านสหกรณ์ (co-op) ต้องถามลูกค้าสองครั้งว่าต้องการถุงพลาสติกหรือไม่
แคนาดา ออกกฎให้ผู้ค้าปลีกต้องจัดเก็บค่าถุงพลาสติกในกรณีที่ลูกค้าไม่ได้นำถุงมาจากบ้านอย่างน้อย 5 เซนต์ต่อถุงพลาสติกหนึ่งใบ โดยไม่คำนึงถึงปริมาณและขนาดของถุงพลาสติก หากลูกค้านำถุงพลาสติกเหล่านั้นมาคืน ก็จะได้รับเงินคืนกลับไป
ผู้บริโภคต้องจ่ายค่าธรรมเนียมถุงพลาสติกยกเว้นในกรณีของถุงพลาสติกที่ใช้ในการบรรจุผัก ผลไม้ ถั่ว ลูกอม พลาสติกที่ใช้ห่ออาหารแช่แข็ง เนื้อ ปลาสด ถุงใส่ยารักษาโรค หนังสือพิมพ์ ถุงขยะและถุงรีไซเคิล เป็นต้น
ส่วนเงินที่ได้จากการขายถุงพลาสติก ผู้ขายสามารถนำเงินนั้นไปใช้ประโยชน์ได้โดยตรงโดยไม่จำเป็นต้องนำไปให้รัฐบาล โดยให้ผู้ขายนำเงินที่ได้จากการขายถุงพลาสติกให้แก่ลูกค้ามาบริจาคสู่สังคม หรือองค์กรสิ่งแวดล้อม โดยมีการสนับสนุนให้แจ้งถึงการใช้ประโยชน์จากเงินจำนวนเหล่านั้น
รวมถึงการติดโปสเตอร์เพื่อรณรงค์ลดปริมาณการใช้ถุงพลาสติก และการนำพลาสติกเหล่านั้นกลับมาใช้ใหม่ด้วยอีกทางหนึ่ง โดยมีการตั้งเป้าหมาย และกำหนดข้อตกลงให้มีการลดปริมาณการใช้ถุงพลาสติกในส่วนระดับจังหวัดถึงร้อยละ 50 และในส่วนของเมืองโตรอนโตถึง 70%
ญี่ปุ่น ออกเป็น พ.ร.บ.ส่งเสริมการใช้สินค้าและบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในนามของกฎหมายส่งเสริมการซื้อสีเขียว (Law on Promoting Green Purchasing) และยังมีการกำหนดวันงดใช้ถุงพลาสติก (No plastic bag day) โดยได้รับความร่วมมือจากร้านค้าและตลาดเป็นจำนวนมาก
ที่นี่มีการจัดเก็บภาษีถุงพลาสติก โดยที่ร้านค้าต่างๆ ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ทางร้านค้าจะมีการให้สติกเกอร์กับผู้ที่มาซื้อของและไม่ต้องการถุงพลาสติก ทางร้านค้าจะมีการมอบสติกเกอร์ให้เพื่อนำไปสะสม พอสะสมจนครบ 25 ดวง ก็สามารถนำสติกเกอร์ไปแลกเป็นเงินจำนวน 100 เยน (ประมาณ 29 บาท) จากร้านที่ลูกค้าได้ซื้อของไป
นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังออกพระราชบัญญัติกฎหมายการนำกลับมาใช้อีกฉบับ เพื่อให้บริษัทนำผลิตภัณฑ์ของตนกลับมาใช้อีก ลดวัสดุที่ใช้และเพิ่มอายุผลิตภัณฑ์เพื่อลดปริมาณของเสียและใช้ซ้ำบางชิ้นส่วนจากผลิตภัณฑ์ที่นำกลับมาใช้อีก
ไต้หวัน องค์กรคุ้มครองสิ่งแวดล้อมไต้หวัน (Taiwan Environmental Protection Agency, EPA) ออกกฎหมายเพื่อดำเนินนโยบายห้ามใช้ถุงพลาสติกและกล่องโฟมโดยไม่คิดมูลค่า (Ban the distribution of free plastic shopping bags and foam box)
1) มีการออกกฎห้ามใช้ถุงพลาสติกที่มีความหนาไม่เกิน 0.06 มิลลิเมตร
2) มาตรการการเก็บภาษีสิ่งแวดล้อมกับผู้ค้าปลีก โดยออกกฎห้ามร้านค้า
ถุงพลาสติกและกล่องโฟมโดยไม่คิดราคา ทั้งนี้ ค่าปรับสำหรับผู้ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายอยู่ระหว่าง 66,000-300,000 ดอลลาร์ไต้หวัน เนื่องจากมีการใช้ถุงพลาสติกในไต้หวัน 16 ล้านชิ้นต่อวัน ทำให้เกิดปัญหาในการกำจัด
– เฟสแรก หน่วยราชการ หน่วยงานสาธารณะต่างๆ ของไต้หวัน ได้แก่ ร้านค้าของทหาร โรงเรียนรัฐและโรงเรียนเอกชน โรงพยาบาลรัฐ โรงอาหารในหน่วยงานของรัฐ จะต้องปฏิบัติตาม
– เฟสสอง บังคับใช้กับห้างสรรพสินค้า คลังเก็บสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ ร้านขายอาหารฟาสต์ฟูด และร้านอาหารที่มีหน้าร้าน สำหรับการเรียกเก็บค่าถุงพลาสติกหรือกล่องโฟมโดยผู้ค้าปลีก ไม่ได้ถูกกำหนดในอัตราที่แน่นอน
ตามปกติจะกำหนดช่วงราคาระหว่าง NT1-NT3 (ประมาณ 1.20-3.20 บาท) ต่อถุงพลาสติก 1 ใบ แต่ยกเว้นการเก็บค่าถุงพลาสติกที่ใช้สำหรับบรรจุสินค้าที่เสียหายง่าย และพลาสติกที่ใช้ห่ออาหาร เป็นต้น
ทั้งนี้ ก่อนที่จะมีการออกกฎการเก็บเงินค่าถุงพลาสติก มีการใช้ถุงพลาสติก 2.5 ถุงต่อคนต่อวัน แต่หลังจากนำกฎนี้มาใช้ สามารถลดการใช้ได้ถึง 80% ในปีแรก แต่มีเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยในปีถัดมา
โมเดลจัดการขยะของไต้หวันที่น่าสนใจ
– รัฐบาลมีนโยบาย ออกกฎหมายและวางแนวปฏิบัติจัดการขยะที่เข้มงวด
– ตามบ้านพักอาศัย ประชาชนทิ้งขยะที่รถขยะเท่านั้น จึงมีเวลามารับขยะค่อนข้างแน่นอน เพราะมีจุดจอดรถในเมืองไทเปถึง 4,000 จุด
– ยกเลิกตั้งถังขยะในบริเวณที่อยู่อาศัย และห้ามประชาชนวางถุงขยะไว้ที่พื้นสาธารณะ
– การทิ้งขยะของประชาชน จะมีเจ้าหน้าที่คอยดูว่า ทิ้งขยะถูกประเภทหรือไม่
– ประชาชนต้องแยกขยะก่อนทิ้ง และใช้ถุงขยะของรัฐซึ่งจะมีบาร์โค้ดระบุเท่านั้น
– ขยะรีไซเคิล แยกละเอียดถึง 13 ประเภท ส่วนขยะไม่สามารถรีไซเคิล ประชาชนก็ต้องแบ่งเป็น 2 ส่วน ใส่เศษอาหารสำหรับนำไปใช้เป็นอาหารสัตว์ได้ และอีกส่วนสำหรับใส่เศษอาหารสด เพื่อนำไปทำปุ๋ยอินทรีย์
ปัจจุบันรัฐบาลไต้หวัน สามารถนำขยะที่ทิ้งกว่าร้อยละ 55 นำกลับมาใช้ใหม่ได้ ด้วยการอำนวยความสะดวกในการแยกขยะ ควบคู่ไปกับการลงโทษผู้กระทำผิดอย่างเคร่งครัด ทำให้ไต้หวันลดปริมาณขยะต่อคนได้เกือบสามเท่า จาก 1.14 กิโลกรัม ต่อคนต่อวันในปี 1998 ลงเหลือ 0.38 กิโลกรัมในปี 2015 ส่วนการรีไซเคิลขยะ เพิ่มจาก 5.9% ขึ้นไปสูงถึง 55% จนไทเป และทั้งประเทศไต้หวัน กลายมาเป็นต้นแบบของโลกในการจัดการขยะ
ไต้หวัน พลิกโฉมสู่ “เมืองต้นแบบจัดการขยะ” ล้างบางขยะพลาสติกในปี 2030
ชาวไต้หวันคุ้นเคยกับเสียงเพลง A Maiden’s Prayer หรือเพลง Fur Elise แต่หลายคนที่ไม่รู้ก็ลองนึกถึงเสียงตุ๊กตาไขลาน หรือเสียงเพลงเวลารอสาย
พวกเขาไม่ได้รอซื้อไอศกรีมอร่อยจากรถขาย หรือนั่นเป็นเสียงรถเร่ขายกับข้าว รับซื้อของเก่าเหมือนที่บ้านเรา หากว่าทั้งสองเพลงที่ชาวไทเปคุ้นหูดีนี้เป็นสัญลักษณ์ของ “รถเก็บขยะ” เพื่อให้ผู้คนละแวกนั้นรู้ว่ารถขยะมาแล้วนั่นเอง
ในอดีตเกาะไต้หวัน เมืองใหญ่อย่างไทเปครั้งหนึ่งตามถนนซอกซอยเคยสกปรกถึงขั้นถูกขนานนามว่า “เกาะแห่งขยะ” แต่มาวันนี้ เมืองแห่งนี้ รัฐบาลของเขาพูดได้เต็มปากว่า ที่นี่ คือ “เมืองต้นแบบจัดการขยะ” ซึ่งประเทศไทยน่าที่จะเอาเป็นแบบอย่าง เพราะจะเป็นนับจากจุดเริ่มต้นพลิกเมืองที่คล้ายคลึงกัน
แน่นอนว่าหนึ่งในปัญหาที่ตามมาจากการกระจุกตัวของประชากรก็คือ การจัดการขยะ กองขยะที่ล้นหลามและเป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อมเมื่อขยะถูกทิ้งโดยไม่ผ่านการทำความสะอาดและคัดแยก แต่เพียงเวลาไม่กี่ทศวรรษ ไต้หวันสามารถพลิกโฉมกลายเป็นประเทศที่ได้รับการยอมรับเรื่องระบบการจัดการระดับโลก
รถขยะก็ต้องดูให้ถูกสี รถขยะสีขาว เป็นรถรับขยะรีไซเคิล ส่วน รถขยะสีเหลือง เป็นรถรับขยะที่ไม่สามารถรีไซเคิลได้ ใครจะนำมาทิ้งปนเปไม่ได้เลย คนไต้หวันยุคนี้ รู้หน้าที่ พอเสียงเพลงเพราะดังสักแป๊บ ก็มีรถขยะมารอรับ ผู้คนก็รีบมาทิ้งขยะ
การซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อ หรือร้านค้าใหญ่ๆ จะต้องเสียเงินเพิ่มเพื่อซื้อถุงพลาสติก โดยราคาก็จะแตกต่างกันออกไปตามขนาดของถุง แตกต่างจากบ้านเราที่ถึงแม้จะซื้อของเพียงชิ้น สองชิ้น ทางร้านก็จะใส่ถุงให้อย่างรวดเร็วจนแทบจะปฏิเสธไม่ทัน
ปัจจุบันทางรัฐบาลไต้หวัน ออกประกาศให้ประชาชนรับทราบชัดเจนแล้วว่า “ภายในปี 2030 ขยะพลาสติกจะต้องได้รับการจัดการอย่างสมบูรณ์” พูดสั้นๆ ขยะพลาสติกในเมืองต้องเป็น 0 .- สำนักข่าวไทย