กัวลาลัมเปอร์ 5 ก.ย.- โครงการฟอเรสต์ซิตี เมืองหรูบนเกาะเทียม 4 แห่งมูลค่า 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.28 ล้านล้านบาท) ที่อยู่ระหว่างก่อสร้างทางใต้ของมาเลเซีย ตกอยู่ในภาวะไม่แน่นอนเพราะถูกรัฐบาลใหม่ของ ดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัดเพ่งเล็ง
โครงการนี้อยู่ห่างจากสิงคโปร์เพียง 1 ชั่วโมงขับรถ ออกแบบให้เป็นที่พักอาศัยรองรับคนได้ 700,000 คน ทันทีที่แล้วเสร็จในปี 2578 ประกอบด้วยอาคารระฟ้าสมัยใหม่ คฤหาสน์ริมน้ำ โรงเรียนนานาชาติ ห้างสรรพสินค้า โรงแรม และศูนย์รับคนเข้าเมือง ก่อสร้างโดยคันทรีการ์เดน บริษัทอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ของฮ่องกงและอีกบริษัทหนึ่งที่สุลต่านมาเลเซียคนหนึ่งถือหุ้นอยู่ มุ่งจับลูกค้านักลงทุนชาวจีน เพราะมีราคาถูกกว่าที่พักในสิงคโปร์ มีข่าวว่าชาวจีนเข้าจับจองแล้วถึงสองในสาม
อย่างไรก็ดี โครงการมีปัญหาตั้งแต่ต้นเมื่อทางการจีนออกมาตรการสกัดเงินทุนออกนอกประเทศ กระทบต่อความต้องการซื้อ ขณะที่สังคมมาเลเซียเองเกิดกระแสต่อต้านอิทธิพลจีนที่แผ่ขยายในรัฐบาลชุดก่อนของนายนาจิบ ราซัค อีกทั้งกลุ่มสิ่งแวดล้อมเตือนเรื่องการนำทรายมาถมสร้างกาะเทียมกระทบต่อระบบนิเวศทางทะเล ล่าสุด ดร.มหาเธร์ที่ได้สั่งระงับโครงการที่ได้ทุนสนับสนุนจากจีนรวมแล้ว 22,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 721,830 ล้านบาท) กล่าวเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า ไม่เห็นด้วยกับโครงการนี้เพราะสร้างให้คนต่างชาติ โดยที่ชาวมาเลเซียส่วนใหญ่ไม่มีกำลังพอจะซื้อได้ และว่ารัฐบาลจะไม่ออกวีซ่าให้คนต่างชาติมาอาศัยอยู่ที่นี่
สำนักนายกรัฐมนตรีมาเลเซียชี้แจงในเวลาต่อมาว่า นายกรัฐมนตรีไม่ได้ห้ามชาวต่างชาติซื้อที่อยู่อาศัย เพราะกฎหมายอนุญาตอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องการบอกว่าการซื้ออสังหาริมทรัพย์ไม่ใช่เครื่องรับรองว่าชาวต่างชาติจะได้พักอาศัยเป็นเวลานาน.- สำนักข่าวไทย