9 ทันโลก : สงกรานต์ วัฒนธรรมร่วมอุษาคเนย์

13 เม.ย. – สงกรานต์ เป็นหนึ่งในประเพณีที่สืบทอดมาอย่างยาวนาน และกลายเป็นวัฒนธรรมร่วมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลายประเทศในภูมิภาคแห่งนี้จึงมีการเฉลิมฉลองเทศกาลสงกรานต์ที่คล้ายคลึง แต่จะมีรายละเอียดของพิธีกรรมที่ต่างกันออกไป


สงกรานต์ ถือเป็นวัฒนธรรมร่วมของผู้คนในดินแดนอุษาคเนย์ ได้แก่ ไทย เมียนมา ลาว กัมพูชา รวมถึงสิบสองปัน ทางตอนใต้ของจีน โดยคำว่า “สงกรานต์” มีที่มาจากคำว่า “สัง-กราน-ตะ” ในภาษาสันสกฤต ที่แปลว่า การก้าวขึ้นผ่าน การเคลื่อนที่หรือย้ายที่ ซึ่งจะหมายถึงการที่พระอาทิตย์เคลื่อนตัวจากราศีหนึ่งไปสู่อีกราศีหนึ่งทุกๆ เดือน ที่จะเรียกว่า สงกรานต์เดือน ยกเว้นเมื่อพระอาทิตย์เคลื่อนเข้าสู่ราศีเมษ ซึ่งตรงกับช่วงเดือนเมษายน จะเรียกว่า “มหาสงกรานต์” และถือเป็นการขึ้นปีใหม่ทางสุริยคติ โดยประเทศไทยกำหนดวันนับเทศกาลสงกรานต์ อยู่ระหว่างวันที่ 13-15 เมษายน ของทุกปี

แม้ประเทศเพื่อนบ้านในดินแดนอุษาคเนย์ จะมีวัฒนธรรมที่คล้ายคลึงกัน แต่กลับมีรายละเอียดของเทศกาลสงกรานต์ที่แตกต่างกันไป


เทศกาลสงกรานต์ของลาว หรืองานบุญปีใหม่ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 14-16 เมษายน โดยวันแรกเรียกว่า “วันสังขารล่วง” ซึ่งเป็นวันที่ผู้คนจะทำความสะอาดบ้านเรือน เพื่อปัดเป่าสิ่งไม่ดีให้ออกไป และพร้อมรับสิ่งดีเข้ามา วันที่สอง เรียกว่า “วันเนา” เปรียบเสมือนวันครอบครัวที่ญาติพี่น้องจะร่วมกันทำพิธีบายศรีสู่ขวัญญาติผู้ใหญ่ และวันสุดท้าย เรียกว่า “วันสังขารขึ้น” หรือวันขึ้นปีใหม่ ที่จะมีการบายศรีสู่ขวัญ สรงน้ำพระ และการแห่นางสังขาร หรือเทพีสงกรานต์

ส่วนเมียนมา เรียกเทศกาลสงกรานต์ว่า เทศกาล “ตะจาน” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 12-16 เมษายน ของทุกปี และจะมีการเล่นสาดน้ำต้อนรับปีใหม่ในช่วงนี้ ก่อนจะถือให้วันที่ 17 เมษายน เป็นวันขึ้นปีใหม่ นอกจากนี้ช่วงเทศกาล “ตะจาน” ชาวเมียนมาจะนิยมเข้าวัดทำบุญตักบาตร ถือศีลปฏิบัติธรรม สรงน้ำพระพุทธรูปและพระเจดีย์

สำหรับกัมพูชา เรียกเทศกาลสงกรานต์ว่า เทศกาล “โจล ชนัม ทะเมย” อาจกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13-15 หรือ 14 ถึง 16 เมษายน ยึดตามประกาศของรัฐบาลกัมพูชา โดยเทศกาล “โจล ชนัม ทะเมย” จะมีความคล้ายคลึงกับเทศกาลสงกรานต์ของไทยที่จะมีการทำบุญตักบาตร ขนทรายเข้าวัด ก่อเจดีย์ทราย สรงน้ำพระพุทธรูป และมีการรวมญาติพี่น้อง เพื่อรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่


นอกจากนี้ชาวไทลื้อ ในเขตปกครองตนเองสิบสองปันนา มณฑลยูนนาน ทางใต้ของจีน มีประเพณี “พัวสุ่ยเจี้ย” ที่คล้ายกับเทศกาลสงกรานต์ แต่จะมีความโดดเด่นตรงที่มีการแข่งขันเรือมังกร และการแสดงระบำนกยูง ซึ่งสะท้อนวัฒนธรรมของชาวยูนนานได้เป็นอย่างดี

เมื่อปี 2566 องค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก (UNESCO) ประกาศขึ้นทะเบียนสงกรานต์ในประเทศไทย ให้อยู่ในรายการตัวแทนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ

ขณะที่รัฐบาลกัมพูชา เตรียมยื่นเอกสารเพื่อขึ้นทะเบียนเทศกาล “โจล ชนัม ทะเมย” หรือสงกรานต์กัมพูชา ให้เข้าไปอยู่ในรายการตัวแทนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ในปี 2568 และคาดว่าจะได้รับการขึ้นทะเบียนอย่างเป็นทางการในปี 2569 ด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มพาลูก-เมียกลับจากฉลองวันเกิด รถยางระเบิดเสียหลักชนเสาไฟ ดับ 3 สาหัส 2

พ่อแม่ลูก 5 คน กลับจากฉลองวันเกิด รถกระบะยางระเบิดเสียหลักหมุนชนอัดเสาไฟฟ้า พ่อและแม่พร้อมลูกคนโตเสียชีวิตคาที่ ส่วนลูกคนกลางและคนเล็กอาการสาหัส

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

ข่าวแนะนำ

เตือนพายุฤดูร้อน ภาคอีสาน ฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง

กรมอุตุฯ เตือนพายุฤดูร้อน ภาคอีสาน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงฟ้าผ่าบางพื้นที่ ส่วนภาคอื่นๆ จะได้รับผลกระทบในระยะถัดไป ส่วนภาคใต้ฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

ผู้เสียหาย 70 ราย ร้องสภาทนายฯ ถูกหอพักโหดเอาเปรียบ

ผู้เสียหาย 70 คน เข้าร้องสภาทนายความช่วยเหลือ หลังถูกเจ้าของหอพัก ย่านรังสิต เอาเปรียบ ข่มขู่กักขัง-ยึดทรัพย์ ด้านนายกสภาทนายความ ตั้งคณะทำงานช่วยเหลือทางคดี ทั้งแพ่ง-อาญา เชื่อมีผู้เสียหายเพิ่มอีก

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษ 3 แพทย์ เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษแพทย์ 3 ท่าน เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ โดยว่ากล่าวตักเตือน 1 ท่าน พักใช้ใบประกอบวิชาชีพ 2 ท่าน เผยมติที่ประชุมมีความเห็น “เป็นเสียงส่วนใหญ่มาก มาก มาก”