ระยอง 9 พ.ค.-หนุ่มถูกงูกัด รีบไปโรงพยาบาล แต่ถูกวินิจฉัยว่าไม่รุนแรง หมอให้กลับบ้าน ก่อนอาการทรุดเข้าไอซียู ด้าน สสจ.ระยอง แจงโรงพยาบาลไม่ได้ทิ้งคนไข้ แต่เพราะผลเลือดไม่พบพิษ ล่าสุดสัญญาณชีพปกติ
วานนี้ (8พ.ค.) มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง เล่าเหตุการณ์ ลูกน้องโดนงูกัดตั้งแต่ตีหนึ่ง พอไปหาหมอที่โรงพยาบาล หมอเจาะเลือด หมอบอกให้กลับบ้าน เพราะในเลือดไม่มีพิษ แถมพูดกับแม่ของลูกน้องว่า “ไม่ใช่เคสสำคัญ ให้ยาและให้กลับบ้านได้เลย” ยาที่ได้ คือพารากับยาฆ่าเชื้อ แล้วบอกกับแม่ว่า 9 โมงให้มาใหม่ สุดท้ายยังไม่ทัน 9 โมงเลย ลูกน้องพูดไม่ได้ หายใจไม่ออก ลิ้นคับปาก ตาหลับ ลืมตาไม่ขึ้น จึงรีบหามส่งโรงพยาบาล สรุปแล้วไปเจาะเลือดใหม่ ผลออกมามีพิษ โดนงูมีพิษกัด ชีวิตคนๆ หนึ่งคุณทำได้สะเพร่าขนาดนี้ พอเห็นสภาพลูกน้องแล้วไม่ไหวจริงๆ อย่าให้เกิดเคสแบบนี้กับใครอีกนะ ชีวิตของทุกคนมีค่าเหมือนชีวิตของพวกคุณแหละ” ซึ่งงูที่กัด ทราบว่าคือ งูทับสมิงคลา

ส่วนโรงพยาบาลที่ผู้ป่วยรายนี้ เดินทางไปรักษาคือ รพ.วังจันทร์ ซึ่ง นพ.สุรวิทย์ ศักดานุภาพ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดระยอง ชี้แจงว่า จากการตรวจสอบข้อมูลกับ นพ.ภัทรนนท์ บุณยอุดมศาสตร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวังจันทร์ พบว่าข้อมูลคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง ทำให้เกิดความเข้าใจผิดต่อโรงพยาบาล โดยผู้ป่วยชายอายุ 18 ปี รายนี้ เข้ารับบริการที่ห้องฉุกเฉิน รพ.วังจันทร์ เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม เวลา 02.20 น. ให้ประวัติว่าถูกงูกัดเวลา 01.40 น. โดยไม่ทราบชนิดของงู แพทย์ตรวจพบรอยแผลถลอกที่นิ้วก้อยมือขวา ไม่บวม ไม่มีอาการของพิษทางระบบประสาทและระบบเลือด ได้ตรวจวัดสมรรถภาพการหายใจและตรวจเลือดดูความผิดปกติที่เกิดจากพิษงู ตามแนวทางการดูแลรักษาผู้ป่วยถูกงูพิษกัดของกรมการแพทย์ ผลการตรวจทั้งหมดปกติ ได้ให้ผู้ป่วยนอนสังเกตอาการประมาณ 2 ชั่วโมง จนถึงเวลา 04.15 น. ยังไม่พบอาการผิดปกติ จึงให้ยาปฏิชีวนะและยาแก้ปวด พร้อมทั้งอนุญาตให้กลับบ้านได้ โดยนัดให้มาพบแพทย์ที่ห้องฉุกเฉินในตอนเช้า เพื่อติดตามอาการและตรวจเลือดดูความผิดปกติที่เกิดจากพิษงูอีกครั้ง
ช่วงเช้ามารดาสังเกตว่า ผู้ป่วยมีหนังตาตก กลืนลำบาก ดูซึมลง จึงพาไปโรงพยาบาล เวลา 08.14 น. ผู้ป่วยพูดคุยได้ แจ้งว่า มีอาการปากชา ลิ้นชา ประมาณเวลา 06.00 น. แพทย์ตรวจร่างกายพบว่า การหายใจปกติ ความเข้มข้นของออกซิเจนในเลือดปกติ มีอาการหนังตาตก ซึ่งเป็นอาการแสดงของพิษทางระบบประสาท จึงวินิจฉัยว่า ถูกงูที่มีพิษกัด และใส่ท่อช่วยหายใจป้องกันกล้ามเนื้อหายใจอ่อนแรง พร้อมทั้งประสานส่งต่อ รพ.ระยอง เพื่อให้เซรุ่มต้านพิษ อาการล่าสุดเช้าวานนี้ (8 พฤษภาคม 2568) ผู้ป่วยสัญญาณชีพปกติ ยังคงใส่ท่อช่วยหายใจอยู่ในห้องไอซียู เพื่อติดตามอาการอย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ทราบว่า เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลวังจันทร์ติดต่อมายังนายจ้าง เพื่อนัดพูดคุยวันอังคารที่ 13 พ.ค.นี้
นายนิรุทธิ์ ชมงาม หรือนิค อสรพิษวิทยา หัวหน้ากลุ่มอสรพิษวิทยา และผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์เลื้อยคลาน กล่าวว่า หากเทียบกันหยดต่อหยด ในความเป็นพิษของงูพิษในประเทศไทย พิษของงูทับสมิงคลาถือเป็นเบอร์ 1 ของบรรดาพิษงูทั้งหมด แต่เทียบยาก หากพิษเข้าสู่ร่างกายมนุษย์แล้ว ขึ้นอยู่กับบริเวณที่กัด และร่างกายของผู้ถูกกัดด้วย งูทับสมิงคลา เป็นงูที่มีเขี้ยวเล็กมาก คนที่ถูกกัดจะมีบาดแผลเล็ก บางคนแทบไม่รู้สึกว่าถูกกัด แต่พิษจะค่อยๆ ซึมเข้าไปในระบบต่างๆ ของร่างกาย อาจต้องใช้เวลา แล้วแต่ตำแหน่งที่ถูกกัด จากนั้นอวัยวะต่างๆ จะเป็นอัมพาต และหากรักษาไม่ทันอาจเสียชีวิตได้
ซึ่งงูทับสมิงคลา เจอได้ทุกภาคในประเทศไทย ส่วนใหญ่อยู่บริเวณไร่มัน หรือทุ่งนา แต่ในกรุงเทพฯ ไม่เจอ หรือเจอแต่น้อยมาก แต่งูที่คนกรุงเทพฯ ต้องระวังช่วงนี้ คืองูเห่า เพราะเป็นช่วงฤดูวางไข่ ดังนั้นบ้าน หรือตึกคอนโดใดมีรูโพรง รวมไปถึงมีเหยื่อของงู คือ หนู ต้องคอยดู และระมัดระวังให้ดี
ในขณะที่ สวนงู สถานเสาวภา ออกมาโพสต์ว่า ของดรับบริจาคงูเหลือมและงูหลาม เนื่องจากสวนงูมีพื้นที่เลี้ยงงูไม่เพียงพอ แปลว่าที่ผ่านมา มีคนนำมาบริจาคเยอะมากและอาจสะท้อนได้ว่า จำนวนงูมีจำนวนมาก โดยเฉพาะงูหลามและงูเหลือม แต่งูชนิดอื่นๆ ยังคงรับบริจาคตามปกติ.-สำนักข่าวไทย