วอชิงตัน 30 ม.ค. – ‘นาฬิกาวันโลกาวินาศ’ ถูกปรับให้เหลือเพียง 89 วินาทีก่อนเที่ยงคืน นับเป็นค่าที่ใกล้กับหายนะที่สุดในประวัติศาสตร์ สาเหตุหลักจากสงครามนิวเคลียร์ ความขัดแย้งระหว่างประเทศ วิกฤตสิ่งแวดล้อม ปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอและการเผยแพร่ข้อมูลเท็จ
นักวิทยาศาสตร์จาก “บูลเลติน ออฟ ดิ อะตอมิก ไซแอนทิสต์” (Bulletin of the Atomic Scientists) ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2490 โดยกลุ่มนักฟิสิกส์ที่เคยทำงานในโครงการแมนฮัตตัน หรือการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ในสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้ประกาศตั้งเวลาใหม่ของ “นาฬิกาวันโลกาวินาศ” (Doomsday Clock) ให้เหลือเพียง 89 วินาที ก่อนเที่ยงคืน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ใกล้กับหายนะที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยเวลาเที่ยงคืนของนาฬิกาเรือนนี้ หมายถึงจุดจบของมนุษยชาติ ไม่ว่าจะเป็นภัยพิบัติจากสงครามนิวเคลียร์ การล่มสลายของสิ่งแวดล้อม หรือวิกฤตที่ควบคุมไม่ได้ ขณะที่ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา นาฬิกาแห่งหายนะนี้ถูกตั้งไว้ที่ 90 วินาที ก่อนเที่ยงคืน ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่อันตรายมากอยู่แล้ว แต่ในปีนี้นักวิทยาศาสตร์ได้ปรับเวลาให้เข้าใกล้หายนะมากขึ้นอีก 1 วินาที
สำหรับปัจจัยที่เร่งให้เข็มนาฬืกาขยับเข้าใกล้เที่ยงคืนมากขึ้น มีหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นสงครามในหลายภูมิภาคทั้งในตะวันออกกกลาง และรัสเซียกับยูเครน วิกฤตอาวุธนิวเคลียร์ทั้งของเกาหลีเหนือ อิหร่าน และสหรัฐฯ การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก ปัญหาจากปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ที่ถูกพัฒนาอย่างรวดเร็ว แต่ขาดการกำกับดูแลที่เหมาะสม จนอาจถูกนำไปใช้ในสงครามยุคใหม่ หรือถูกใช้เพื่อสร้างข้อมูล เกิดการแพร่กระจายของข้อมูลเท็จ (Misinformation) และทฤษฎีสมคบคิด จนสังคมวุ่นวายปั่นป่วน
อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์ยังคงเชื่อว่า เรายังมีโอกาสที่จะหมุนนาฬิกาถอยหลังได้ หากทั่วโลกสามารถร่วมมือกันได้อย่างจริงจัง เช่นเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นในปี 1991 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ปลอดภัยที่สุดในประวัติศาสตร์ของนาฬิกาเรือนนี้ เวลานั้น นาฬิกาถูกตั้งให้ถอยห่างจากเที่ยงคืนถึง 17 นาที เนื่องจากการลงนามใน สนธิสัญญาลดอาวุธนิวเคลียร์ “สตาร์ท” (START) ระหว่างสหรัฐและสหภาพโซเวียต.-815.-สำนักข่าวไทย