ออสเตรเลียให้เรือปศุสัตว์เทียบท่าแต่ยังไม่ให้ลง

แคนเบอร์รา 1 ก.พ.- ทางการออสเตรเลียอนุญาตให้เรือบรรทุกแกะ 14,000 ตัว และวัว 2,000 ตัวเทียบท่าแล้วในวันนี้ แต่ยังไม่อนุญาตให้นำสัตว์ลงจากเรือ หลังจากเรือต้องยกเลิกการล่องผ่านทะเลแดงเพื่อไปยังอิสราเอล เนื่องจากสถานการณ์ไม่ปลอดภัย


กระทรวงเกษตรออสเตรเลียแถลงวันนี้ว่า เรือเอ็มวี บาฮิจาห์ (MV Bahijah) ได้เทียบท่าในเมืองเพิร์ท เมืองเอกของรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียแล้ว กระทรวงกำลังพิจารณาคำขอของผู้ส่งออกซึ่งเป็นบริษัทอิสราเอลเรื่องขอนำปศุสัตว์ลงมาบางส่วน และส่งปศุสัตว์ที่เหลือบนเรือล่องอ้อมทวีปแอฟริกาไปยังอิสราเอล ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 33 วัน ขณะนี้มีการเติมเสบียงเพื่อดูแลปศุสัตว์บนเรือให้มีความเป็นอยู่ที่ดี และยังไม่มีการนำปศุสัตว์ลงมา หากนำลงมาจะต้องผ่านการกักโรคอย่างเข้มงวด กระทรวงได้ส่งสัตวแพทย์ 2 นายไปตรวจสอบบนเรือแล้ว และไม่พบสิ่งน่าเป็นห่วง เรือเอ็มวี บาฮิจาห์เดินทางออกจากออสเตรเลียตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม และล่องกลับมาลอยลำอยู่นอกชายฝั่งออเสตรเลียตั้งแต่วันที่ 29 มกราคม

ด้านพรรคกรีนส์ที่รณรงค์เรื่องสิ่งแวดล้อม ความยุติธรรม ประชาธิปไตยและสันติภาพ แย้งว่า การปล่อยให้ปศุสัตว์ถูกกักอยู่บนเรือท่ามกลางอากาศร้อนจัด ถือเป็นการทรมานสัตว์ รัฐบาลทำผิดพลาดครั้งใหญ่มาแล้วตั้งแต่อนุญาตให้เรือล่องผ่านเขตที่กำลังมีความขัดแย้ง การส่งสัตว์เหล่านี้กลับไปยังจุดหมายเดิมโดยใช้เส้นทางที่ยาวนานกว่าเดิมจึงเป็นเรื่องที่ไม่สามารถยอมรับได้อย่างยิ่ง.-814.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

นายกฯ ปัดตอบ ผลสำรวจอยากให้ปรับ ครม.

“นายกฯ อิ๊งค์” ไม่ตอบคำถามผลสำรวจอยากให้ปรับ ครม. บอกพรุ่งนี้ตอบทีเดียว ก่อนแซว “ประเสริฐ” ปรับให้แล้ว เหตุพูดตำแหน่ง “จุลพันธ์” ผิด จาก รมช.คลัง เป็น รมช.มหาดไทย

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]