สเปน 9 ม.ค. – พื้นที่ 5 ภูมิภาคในสเปน กลับมาบังคับหรือกำหนดข้อแนะนำประชาชนต้องสวมแมสก์ เมื่อเข้าใช้บริการในโรงพยาบาล หลังจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 และโรคระบบทางเดินหายใจเพิ่มขึ้นอย่างมากตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว
ภูมิภาคบาเลนเซีย พบผู้ติดเชื้อโควิดและระบบทางเดินหายใจเพิ่มขึ้นถึง 1,501 คน กรณีต่อจำนวนประชากร 100,000 คน ระหว่างวันที่ 26 ธันวาคม – 1 มกราคมที่ผ่านมา มากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของประเทศ จนหน่วยงานสาธารณสุขท้องถิ่นของภูมิภาคบาเลนเซีย ต้องประกาศให้ผู้ป่วยที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล รวมถึงญาติและบุคลากรทางการแพทย์ ต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาขณะอยู่ในโรงพยาบาลและสถานพยาบาลต่างๆ อย่างไม่มีกำหนด
เช่นเดียวกับแคว้นกาตาโลเนียและอารากอน ที่แนะนำให้ผู้คนสวมหน้ากากอนามัยตามสถานพยาบาลและที่สาธารณะต่างๆ โดยเฉพาะในพื้นที่ปิด รวมถึงภูมิภาคมูร์เซียและกาลิเซีย ที่ออกคำแนะนำในลักษณะเดียวกัน
ทั้งนี้ สเปนเป็นประเทศลำดับท้ายๆ ในยุโรปที่ยกเลิกคำสั่งให้สวมหน้ากากอนามัยในช่วงเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ผู้คนได้รับคำแนะนำให้สวมหน้ากากอนามัยระหว่างใช้บริการขนส่งสาธารณะ จนกระทั่งถึงเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว ส่วนคำแนะนำให้สวมหน้ากากอนามัยตามสถานพยาบาลและร้านขายยา ก็เพิ่งยกเลิกไปเมื่อเดือนกรกฎาคม
ขณะที่รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดล่าสุด จากสถาบันสุขภาพแห่งชาติ การ์ลอส ที่ 3 ของสเปน ระบุว่า พบการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 รวมถึงไข้หวัดใหญ่และโรคระบบทางเดินหายใจตามชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยพบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่มากที่สุด ขณะที่เด็กทารกและผู้สูงอายุอยู่ในกลุ่มที่ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลมากที่สุด .-สำนักข่าวไทย