มาดริด 18 ส.ค.- นายกรัฐมนตรีสเปนลงพื้นที่ประสบภัยไฟป่า พร้อมกับเตือนประชาชนให้ติดตามข้อแนะนำของหน่วยงานและผู้เชี่ยวชาญ ขณะที่คลื่นความร้อนซ้ำเติมสถานการณ์ไฟป่า ทำให้ความพยายามดับไฟป่าประสบปัญหายุ่งยากมากขึ้น
นายกรัฐมนตรี เปโดร ซานเชส ของสเปนแถลงต่อสื่อมวลชนเมื่อวันอาทิตย์ หลังจากลงพื้นที่สำรวจสถานการณ์ไฟป่าในจังหวัดอูเรนเซ แคว้นกาลิเซีย ทางตะวันตกเฉียงเหนือสุดของสเปนว่า สถานการณ์ไฟป่ายังรุนแรง และยังมีวันที่ยากลำบากรออยู่ข้างหน้า โชคไม่ดีที่ขณะนี้สภาพอากาศไม่เป็นใจ ขอให้ประชาชนใส่ใจกับคำประกาศเตือนของหน่วยงานหรือผู้เชี่ยวชาญ
ผู้นำสเปนกล่าวว่า กองกำลังหน่วยทหารฉุกเฉินของสเปนมากกว่า 500 นาย จะเข้าร่วมปฏิบัติการดับไฟป่ากับทีมนักผจญเพลิงที่ทำหน้าที่อยู่ในพื้นที่ประสบภัยไฟป่าอยู่แล้ว 1,400 นาย และครั้งนี้อาจเป็นการระดมกำลังด้านความมั่นคงฝ่ายพลเรือนครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหภาพยุโรปหรืออียู เนื่องจากบุคลากรจากหลายชาติสมาชิก เช่น สโลวาเกีย ฝรั่งเศส อิตาลี เนเธอร์แลนด์ และเยอรมนีได้มาร่วมจัดการไฟป่าในสเปนให้สามารถควบคุมและดับได้เร็วที่สุดเท่าที่สามารถทำได้
ด้านสำนักอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติของสเปนระบุว่า คลื่นความร้อนครั้งรุนแรงที่สุดระลอกใหม่ได้แผ่ปกคลุม ทำให้ความพยายามดับไฟป่าเผชิญปัญหายุ่งยากซับซ้อนมากยิ่งขึ้น อุณหภูมิในบางพื้นที่อาจสูงถึง 45 องศาเซลเซียส
ขณะเดียวกันสถานการณ์ไฟป่าในจังหวัดเดกานา แคว้นอัสตูเรียส ทางตะวันตกเฉียงเหนือของสเปนเช่นกันก็ยังคงวิกฤต เพราะว่ายังลุกลามรุนแรงต่อเนื่อง ควันจากไฟป่าหนาทึบปกคลุมท้องฟ้าเป็นสีส้ม ทำให้ปฏิบัติการดับไฟป่าในพื้นที่มีความยุ่งยากเพิ่มขึ้น
สเปนเผชิญกับไฟป่าใหญ่อย่างน้อย 20 จุดตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา ท่ามกลางสภาพอากาศร้อนจัดและคลื่นความร้อนแผ่ปกคลุมนานกว่า 3 สัปดาห์แล้ว เผาทำลายพื้นที่ขนาดใหญ่เท่ากับกรุงลอนดอนของอังกฤษ คร่าชีวิตผู้คนไปแล้ว 7 ราย เช่นเดียวกับปศุสัตว์และอาคารบ้านเรือนจำนวนมาก ขณะที่กระแสลมแรงและภูมิภาคประเทศแห้งแล้งยิ่งทำให้ไฟป่าลุกลามเร็วและดับยากมากขึ้น สำนักงานสภาพอากาศของสเปนยังประกาศเตือนพื้นที่เสี่ยงภัยจากไฟป่าทางภาคเหนือและภาคตะวันตกของประเทศต่อเนื่องในสัปดาห์หน้า จากคลื่นความร้อนแผ่ปกคลุมตลอดแนวชายฝั่งทางตอนเหนือ จนอุณหภูมิอาจพุ่งสูงเกินกว่า 40 องศาเซลเซียสอีกระลอก.-815(814).-สำนักข่าวไทย