นิวเดลี 4 มิ.ย.- ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า อุบัติเหตุรถไฟครั้งร้ายแรงที่เกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์เตือนให้รัฐบาลอินเดียมุ่งให้ความสนใจเรื่องความปลอดภัยมากกว่าการปรับปรุงให้ทันสมัย
รัฐบาลนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี มุ่งหน้ายกเครื่องเครือข่ายการเดินรถไฟที่มีขนาดใหญ่มากและใช้งานมานาน 170 ปี หวังส่งเสริมโครงสร้างพื้นฐานและการเชื่อมต่อของประเทศ โดยในปีนี้ได้จัดสรรงบประมาณให้มากเป็นประวัติการณ์ถึง 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1 ล้านล้านบาท) เพิ่มขึ้นถึงครึ่งหนึ่งจากปีงบประมาณก่อน เพื่อปรับปรุงรางรถไฟ ลดความแออัดคับคั่ง และเพิ่มขบวนรถไฟใหม่ ๆ เช่น รถไฟกึ่งความเร็วสูงแบบใหม่ที่ผลิตในอินเดียชื่อขบวนรถด่วนวันเด ภารัต (Vande Bharat Express) นายกรัฐมนตรีโมดีถึงกับนั่งรถไฟเที่ยวปฐมฤกษ์หลายเส้นทางทั่วประเทศ
อย่างไรก็ดี อุบัติเหตุรถไฟชนกัน 3 ขบวนที่รัฐโอดิชา ทางตะวันออกของอินเดียที่มีผู้เสียชีวิตแล้ว 288 คน ทำให้นายปรากาศ กุมาร เซน ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันเทคโนโลยีคิโรดิมัลในอินเดียชี้ว่า ยังมีสิ่งที่รัฐบาลต้องทำอีกมาก แม้ว่าการเดินรถไฟมีความปลอดภัยมากขึ้นในช่วงหลายปีมานี้ การรถไฟได้เพิ่มจำนวนขบวนรถเพื่อรองรับความต้องการเดินทางที่เพิ่มขึ้น แต่ไม่ได้ปรับปรุงการซ่อมบำรุงให้ดีตามไปด้วย ขณะเดียวกันพนักงานมักไม่ได้รับการฝึกอบรมอย่างเพียงพอ และทำงานหนักจนขาดการพักผ่อน เส้นทางรถไฟสายตะวันออกที่เกิดอุบัติเหตุเมื่อวันศุกร์เป็นหนึ่งในเส้นทางที่เก่าแก่ที่สุดและพลุกพล่านที่สุด นอกจากนี้ยังเป็นเส้นทางรถไฟขนส่งถ่านหินและน้ำมันส่วนใหญ่ของประเทศด้วย
ขณะที่นายศรีนันด์ ชา ผู้เชี่ยวชาญอิสระและนักเขียนของวารสารการรถไฟสากลระบุว่า กระทรวงการรถไฟมักอ้างว่าเกิดอุบัติเหตุในระดับที่จัดการได้โดยอ้างเป็นสัดส่วนร้อยละ และในช่วงหลายปีมานี้มุ่งเน้นแต่การปรับปรุงขบวนรถและสถานีให้ทันสมัย แต่ไม่ให้ความสนใจมากนักกับรางรถไฟ ระบบสัญญาณและการบริหารจัดการสินทรัพย์ของการรถไฟ ขณะที่การติดตั้งระบบความปลอดภัย เช่น อุปกรณ์ป้องกันการชน ระบบเตือนภัยฉุกเฉิน ให้ครอบคลุมทั่วทั้งเครือข่ายก็ดำเนินไปอย่างล่าช้า.-สำนักข่าวไทย