อุรุกวัย 25 พ.ค. – อุรุกวัยเผชิญภัยแล้งรุนแรงที่สุดในรอบ 74 ปี คาดอ่างเก็บน้ำในเมืองหลวงของประเทศ เหลือน้ำใช้เพียงพอแค่ 10 วัน
หลายพื้นที่ของอุรุกวัย ประเทศในอเมริกาใต้ กำลังประสบภาวะขาดแคลนน้ำรุนแรงที่สุดในรอบ 74 ปี เป็นผลมาจากปริมาณฝนน้อยและอุณหภูมิสูงทั่วภูมิภาคอเมริกาใต้ ทำให้เกิดภัยแล้งต่อเนื่องมาตั้งแต่ปีที่ผ่านมา กระทบผลผลิตธัญพืชทั้งในอุรุกวัย และประเทศเพื่อนบ้านอย่างอาร์เจนตินา และส่งผลกระทบต่อปริมาณน้ำใช้ของประชาชน รวมทั้งทำให้คุณภาพน้ำแย่ลงด้วย
ขณะที่อ่างเก็บน้ำคาเนลอนกรานเด แหล่งน้ำหลักสำหรับประชาชนในกรุงมอนเตวิเดโอ เมืองหลวงของอุรุกวัย อยู่ในสภาพเกือบแห้งขอด เช่นเดียวกับอ่างเก็บน้ำเปโซเซเวริโน แหล่งน้ำหลักสำหรับประชาชนมากกว่าครึ่งหนึ่งของประชากรอุรุกวัยราว 3.5 ล้านคน ลดลงเหลือแค่ร้อยละ 10 ของความจุ ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ มีปริมาณน้ำเหลือประมาณ 6.2 ล้านลูกบาศก์เมตร ขณะที่เมืองหลวงของอุรุกวัยมีความต้องการใช้น้ำประมาณวันละ 650,000 ลูกบาศก์เมตร เท่ากับว่าตอนนี้เหลือน้ำเพียงพอให้ชาวอุรุกวัยใช้อีกแค่ 10 วันเท่านั้น
ผู้เชี่ยวชาญด้านอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ปริมาณฝนเบาบางในช่วงเดือนผ่านมา ไม่ทำให้สถานการณ์ดีขึ้น แม้ว่าจะมีพยากรณ์อากาศว่าจะมีฝนตกลงมาในช่วงสัปดาห์นี้ แต่จะต้องมีปริมาณฝนราว 50 มิลลิเมตร ทุกวันตลอดทั้งเดือนมิถุนายน จึงจะทำให้สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำเริ่มฟื้นตัว.-สำนักข่าวไทย