ผู้นำจี 7 ไปพิพิธภัณฑ์ฮิโรชิมะพร้อมกันเป็นครั้งแรก

ฮิโรชิมะ 19 พ.ค.- รัฐบาลญี่ปุ่นแจ้งว่า ผู้นำกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศหรือจี 7 (G7) ได้ไปพิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สันติภาพฮิโรชิมะพร้อมกันเป็นครั้งแรก และแสดงความมุ่งมั่นเรื่องทำให้โลกปลอดจากอาวุธนิวเคลียร์


ผู้นำจี 7 ซึ่งมีมหาอำนาจนิวเคลียร์รวมอยู่ด้วย 3 ประเทศคือสหรัฐ อังกฤษ และฝรั่งเศส เดินทางไปยังพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ เพื่อเริ่มต้นการประชุมสุดยอดเป็นเวลา 3 วันที่เมืองฮิโรชิมะ ทางตะวันตกของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเมืองแรกของโลกที่ถูกทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ นายกรัฐมนตรีฟุมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่นในฐานะเจ้าภาพและ ส.ส. ฮิโรชิมะได้จัดให้การปลดนิวเคลียร์เป็นหนึ่งในวาระสำคัญของการประชุมสุดยอด เขาย้ำว่า ผู้นำจี 7 ควรได้พิจารณาอย่างใกล้ชิดถึงความจริงที่เกิดจากการใช้ระเบิดนิวเคลียร์ จึงจะสามารถเริ่มต้นความพยายามปลดนิวเคลียร์ได้

ผู้นำจี 7 เดินผ่านโดมปรมาณู หรืออนุสรณ์สันติภาพฮิโรชิมะ

นายกรัฐมนตรีคิชิดะและนางยูโกะ ภริยา ยืนต้อนรับผู้นำจี 7 ที่เดินทางมาถึงสวนสันติภาพทีละประเทศ บางคนมาพร้อมกับคู่สมรส และได้เดินไปตามพรมแดงที่ทอดยาวไปยังทางเข้าพิพิธภัณฑ์ที่อยู่ใกล้กัน รัฐบาลญี่ปุ่นเผยว่า นายกรัฐมนตรีได้อธิบายเรื่องข้าวของของผู้เสียชีวิตและผู้รอดชีวิตที่จัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์ประมาณ 100,000 ชิ้น คณะผู้นำได้สนทนากับชายวัย 85 ปีที่รอดชีวิตจากระเบิดนิวเคลียร์ที่ถูกทิ้งในเมืองนี้เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2488 และใช้เวลาในพิพิธภัณฑ์นานถึง 40 นาที จากนั้นจึงเดินไปยังอนุสาวรีย์ระลึกถึงผู้เสียชีวิตและวางหรีดแสดงความอาลัย กระทรวงต่างประเทศญี่ปุ่นระบุในข่าวประชาสัมพันธ์ว่า จี 7 ได้แสดงความมุ่งมั่นเรื่องการทำให้โลกปลอดจากอาวุธนิวเคลียร์และย้ำจุดยืนเรื่องไม่สามารถยอมรับได้หากรัสเซียใช้อาวุธนิวเคลียร์


หรีดของนายกฯ คิชิดะของญี่ปุ่น และ ปธน.ไบเดนของสหรัฐ

นับเป็นครั้งแรกที่ผู้นำจี 7 เดินทางมายังพิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สันติภาพฮิโรชิมะพร้อมกัน บารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐในขณะนั้นเคยเดินทางมาในปี 2559 โดยได้กล่าวสุนทรพจน์ที่สวนสันติภาพ พบกับตัวแทนผู้รอดชีวิตจากระเบิดนิวเคลียร์ และเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ราว 10 นาที ขณะที่นายคิชิดะในสมัยที่เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่นเคยพารัฐมนตรีต่างประเทศจี 7 มาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ในโอกาสที่เป็นเจ้าภาพการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศจี 7 ที่เมืองฮิโรชิมะในปี 2559 และมีการวางหรีดไว้อาลัยผู้เสียชีวิตด้วย สหรัฐทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ลูกแรกที่เมืองฮิโรชิมะในวันที่ 6 สิงหาคม 2488 จากนั้นทิ้งลูกที่ 2 ที่เมืองนางาซากิในวันที่ 9 สิงหาคม ประมาณกันว่ามีพลเรือนเสียชีวิตรวมกันมากถึง 210,000 คน จากนั้นญี่ปุ่นได้ประกาศยอมแพ้สงครามในวันที่ 15 สิงหาคม เป็นการยุติสงครามโลกครั้งที่ 2.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อขอให้ติดคุกจริง

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่น

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่นคนอายุ 60+ ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ว

“จิรายุ” ย้ำเงินหมื่นเฟส 2 มอบคนอายุ 60+ รัฐบาลพร้อมโอนไม่มีเปลี่ยนแปลงแล้ววันจันทร์ที่ 27 ม.ค.นี้แน่นอน สามารถตรวจสอบสิทธิ์ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ววันนี้ ส่วนคนไม่มีสมาร์ทโฟนฝากลูกหลานช่วยด้วย

นายกฯหารือบริษัทยา

นายกฯ ถกบริษัทยา Astrazeneca พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทย

บริษัทยาระดับโลก Astrazeneca หารือนายกฯ ยืนยันไทยยังเป็นพันธมิตรที่ดีมายาวนาน พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทยอย่างต่อเนื่อง ขณะที่นายกฯ มั่นใจการแพทย์ของไทยติดระดับโลก ยืนยันหลายประเทศทั่วโลกบินมารักษาในไทยจำนวนมาก

ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน

ค่าฝุ่น PM 2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค.

กรมควบคุมมลพิษ เผยวันนี้ค่าฝุ่น PM 2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค. ประสานทุกหน่วยงานยกระดับการแก้ไขปัญหา พร้อมเตือนประชาชนเฝ้าระวังสุขภาพและปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข