จาการ์ตา 5 พ.ค. – รัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซียกล่าววันนี้ว่า อินโดนีเซียกำลังใช้ ‘นโยบายการทูตเงียบ’ (Quiet Diplomacy) ในการพูดคุยกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในเมียนมาและกระตุ้นให้เกิดความพยายามในการสร้างสันติภาพครั้งใหม่ในเมียนมา ที่ถูกรุมเร้าด้วยเหตุรุนแรง
เร็ตโน มาร์ซูดี รัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซียกล่าวว่า ตั้งแต่เริ่มต้นในการรับตำแหน่งประธานอาเซียน อินโดนีเซียได้ตัดสินใจที่จะดำเนินนโยบายการทูตแบบเงียบ ๆ โดยเป้าหมายก็คือให้พื้นที่แต่ละฝ่ายในการสร้างความเชื่อมั่นไว้วางใจ การทูตแบบเงียบไม่ได้หมายความว่า อินโดนีเซียไม่ได้ทำอะไรเลย เธอกล่าวว่า ตั้งแต่อินโดนีเซียเริ่มรับหน้าที่ประธานอาเซียนเมื่อต้นปีที่ผ่านมา อินโดนีเซียได้พูดคุยกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งในเมียนมาไปแล้ว 60 ครั้ง รวมถึงรัฐบาลเงา รัฐบาลที่กองทัพเป็นผู้แต่งตั้งและกลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธ เธอกล่าวด้วยว่า สมาชิกอาเซียนทุกประเทศได้รับแจ้งเรื่องการพบเจรจาที่เกิดขึ้น
อินโดนีเซีย ซึ่งปีนี้ดำรงตำแหน่งประธานหมุนเวียนของสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ
อาเซียน กำลังหวังว่า จะผลักดันให้แผน 5 ข้อที่ตกลงกับเมียนมาเมื่อ 2 ปีก่อน สามารถเดินหน้าต่อไปได้ หลังจากความพยายามในการเป็นคนกลางในการไกล่เกลี่ยเพื่อยุติความรุนแรงที่ผ่านมายังไม่ประสบผลเลย.-สำนักข่าวไทย